ถลกหนังเทือก 6 มี.ค. 57 (ชมคลิป)







นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. กล่าวในรายการถลกหนังเทือกว่า ที่ศาลอาญาอนุมัติหมายจับ
นายสุเทพ ฐานฆ่าคนตายนั้น ดีเอสไอต้องติดตามจับกุมนายสุเทพมาดำเนินคดีให้ได้ นอกจากนี้ยังมีคดีรออยู่อีกจำนวนมาก ทั้งคดีทุจริตการเลือกตั้ง ส.อบจ.ที่ จ.สุราษฎร์ธานี คดีทุจริตโรงพัก คดีกบฏ ฉะนั้นหลังเลิกม็อบไม่มีทางกลับบ้านไปนอนสบายๆ ได้อย่างแน่นอน

นายจตุพรกล่าวต่อว่า ขอเรียกร้องพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เลิกพูดเสียทีเถอะเรื่องการแบ่งแยกประเทศ เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้เลย และจะทำให้ฝ่ายการเมืองนำไปใช้เป็นประเด็นโจมตีฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น สำหรับกรณีเกิดเหตุการณ์ยิงและขว้างระเบิดใส่ศาลอาญา ศาลแพ่ง และบ้านแกนนำกปปส. เป็นเรื่องการเมืองทั้งหมด เป็นสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลดำเนินการ เพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดความแตกแยก สร้างความรู้สึกให้เกิดขึ้นกับศาลว่าฝ่ายตรงข้ามศาลเป็นฝ่ายกระทำกับศาล

ขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. กล่าวว่า มีคนไปแจ้งความตน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ รักษาการในข้อหากบฏ ขอบอกว่าตนแค่ขึ้นไปพูดบนเวทีคนเสื้อแดงที่ จ.นครราชสีมา และเพียงแค่พูดในรายการถลกหนังเทือกก็ถูกเป็นกบฏแล้ว ส่วนการที่มีการแจ้งความ นปช.กับคนเสื้อแดง ข้อหากบฏในเรื่อง สปป.ล้านนานั้น เป็นข้อกล่าวหาที่เหลวไหล เลอะเทอะ และตำรวจคงไม่สามารถสรุปสำนวนคดีได้ เพราะหลักฐานมีเพียงแค่ป้าย ใครจะเอาหลักฐานมาจากไหนมาเอาผิดคนเสื้อแดงได้มันไม่มี ทั้งนี้ ยืนยันว่า นปช.จะแบ่งไทยเหนือ-ไทยใต้ได้อย่างไร ตนและแกนนำ นปช.ทุกคนไม่ยอมให้แยกอย่างแน่นอน

"การเคลื่อนไหวที่เชียงใหม่ครั้งนี้หากเสร็จแล้วอาจลงมาที่กรุงเทพฯ เลย แต่ทั้งนี้ต้องรอดูสถานการณ์ก่อนว่าเป็นอย่างไร ถ้าสถานการณ์ยังไม่น่าเป็นห่วงมากก็คงจะเคลื่อนไหวอีกครั้ง แต่ถ้าสถานการณ์น่าเป็นห่วงอาจต้องเดินทางลงมาที่กรุงเทพฯ การเคลื่อนไหวครั้งนี้เราไม่ได้ไปประกาศว่าจะเป็นประเทศล้านนา แต่เราจะไปประกาศว่าเราเป็นคนไทยที่รักประเทศไทยเหมือนกับทุกๆ คน" นายณัฐวุฒิกล่าว