พรึบทั่วประเทศ! ขบวนแรลลี่ต้านปฏิวัติ-หนุนเลือกตั้ง ปกป้องประชาธิปไตย




อยุธยา

 หมอเหวงเผยเสื้อแดงเปิด 4 เวที

 วันที่ 13 ม.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดเวที หยุดรัฐประหาร ต่อต้านกบฏ ว่า ในแต่ละจังหวัดจะมีการเดินขบวนคัดค้านการปิดกรุงเทพฯ ก่อนจะเริ่มปราศรัยเวลาประมาณ 16.00 น. และมีแกนนำนปช.ขึ้นปราศรัยช่วงเวลา 19.00-20.00 น. โดยจ.พระนครศรีอยุธยา นำโดยนางธิดา โตจิราการ ประธานนปช. จ.ขอนแก่น นำโดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ปฏิบัติหน้าที่รมช.พาณิชย์ จ.เชียงใหม่ นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ และจ.อุบลราชธานี นำโดยนายนิสิต สินธุไพร

 นพ.เหวงกล่าวต่อว่า บนเวทีจะมีกิจกรรมสลับกับการปราศรัยไปจนถึงเวลาประมาณ 24.00 น. คาดว่าแต่ละจังหวัดจะมีประชาชนมาร่วมหลายหมื่นคน ส่วนจะตั้งเวทียืดเยื้อหรือไม่นั้น ต้องประเมินสถานการณ์ก่อน




อุดรฯพรึบขบวนแรลลี่ต้านปฏิวัติ

 เมื่อเวลา 08.00 น.ที่อาณาจักรคนเสื้อแดงบ้านหนองลีหู ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี นายขวัญชัย ไพรพนา ได้ระดมมวลชนคนเสื้อแดงมาขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อรณรงค์ให้มีการเลือกตั้ง และต่อต้านกบฏ และรัฐประหารที่กำลังจะเกิดขึ้น มีคนเสื้อแดงนำรถจักรยานยนต์มาร่วมขบวนกว่า 500 คัน ออกเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองอุดรธานีเข้าสู่สนามทุ่งศรีเมืองเพื่อรวมตัวกับกลุ่มรถจักรยานยนต์ที่มาจากต่างอำเภออีกร่วม 500 คัน มวลชนกำนันผู้ใหญ่บ้าน จากอำเภอต่างๆ ทั่วจังหวัดอีก รวมเป็นพลังมวลชนขับขี่รถจักรยานยนต์และเดินเท้ารวมกว่า 2 พันคน

 จากนั้น ออกแรลลี่ ชูป้ายสนับสนุนระบอบประชาธิปไตย หยุดปิดกรุงเทพฯ หนุนเลือกตั้ง 2 ก.พ. เคารพสิทธิเลือกตั้ง หน้าขบวนด้วยกลุ่มมวลชนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นักการเมืองท้องถิ่น ทั้ง ส.อบจ. เทศบาล อบต.และชาวบ้าน กว่า 500 คน ตามด้วยขบวนรถจักรยานยนต์กว่า 1 พันคัน นำทีมโดยนายขวัญชัยขับช็อปเปอร์พ่วงข้างเปิดไฟบีบแตร เคลื่อนขบวนจากสนามทุ่งศรีเมืองไปตามถนนประจักษ์เข้าวงเวียนหอนาฬิกา วงเวียนห้าแยกน้ำพุ วงเวียนอนุสาวรีย์กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม สภ.เมืองอุดรธานี โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล โรงเรียนสตรีราชินูทิศ ตลาดสดเทศบาล โดยขับวนเวียนไปมาหลายรอบเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร แล้ววกกลับเข้าไปรวมตัวกันที่สนามทุ่งศรีเมืองอีกครั้ง

 นายขวัญชัยกล่าวว่าพวกเราแสดงออกถึงการต่อต้านระบอบเทือกตั้ง ที่กำลังเดินหน้าปิดกรุงเทพฯ ยั่วยุให้มีการปะทะกัน เพื่อทหารจะได้ออกมาปฏิวัติรัฐประหารวันนี้มีคนเสื้อแงดออกมากันมากเกินคาด ตนจะพาคนเสื้อแดงอีกพันคนไปร่วมชุมนุมที่ จ.ขอนแก่น ในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้





ชัยภูมิชุมนุมต้านปิดกรุงเทพฯ

 เมื่อเวลา 09.30 น. วันเดียวกัน กลุ่มคนเสื้อแดงจังหวัดชัยภูมิ นำโดยนายจารุเดช คนสมบูรณ์ อดีต ส.อบจ.ชัยภูมิ บุตรชายนายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ อดีตส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางทางมาจากอำเภอต่างๆ ประมาณ 2,000 คน มารวมตัวกันที่บริเวณศูนย์เยาวชนเทศบาลเมืองชัยภูมิ ถือป้าย ถือธงชาติ รณรงค์ให้ไปเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.ไม่เอารัฐประหาร มีบรรดาแกนนำขึ้นเวทีปราศรัย พร้อมนำแกนนำ กปปส.ขึ้นเวทีปราศรัยด้วย โดยนำหน้ากากแกนนำกปปส.มาสวมล้อเลียนการชุมนุมปิดกรุงเทพฯ



จากนั้นได้ร่วมกันออกเดินรณรงค์ไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ แสดงพลังประชาธิปไตย เชิญชวนไปเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 2 ก.พ. เพื่อรักษาการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข



ชาวโคราช 3 พันหนุนเลือกตั้ง

 เวลา 11.00 น. กลุ่มมวลชนชาวโคราชรักประชาธิปไตย กว่า 3,000 คน มีนายสมพร จินตรามณีรัตน์ เป็นแกนนำ เคลื่อนขบวนมาจากบริเวณถนนมิตรภาพ หน้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา มาถึงบริเวณถนนราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยถือป้ายมีข้อความหลายคำ อาทิ หยุดรัฐประหาร ต่อต้านความรุนแรง, คนโคราชรักสันติ หยุดสร้างเงื่อนไขความรุนแรง, เอาเลือกตั้งไม่เอาเทือกตั้ง, เคารพการใช้สิทธิ์เลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ และขอบคุณที่ไม่รัฐประหาร พร้อมทั้งโบกธงชาติ และมีรถกระจายเสียงนำประกาศเชิญชวนประชาชนให้ออกมาร่วมเดินขบวนต่อต้านรัฐประหารด้วย ก่อนที่จะมารวมตัวกันที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี โดยนำลูกโป่ง 3 สี คือ สีแดง สีน้ำเงิน และสีขาว ซึ่งเป็นสีธงชาติกว่า 3,000 ลูก มาแจกให้ประชาชนได้ถือไว้เพื่อรอปล่อย



 หลังจากนั้น นายสมพรอ่านแถลงการณ์ของกลุ่มชาวโคราชรักประชาธิปไตย 3 ข้อ ได้แก่ 1.พวกเราชาวโคราช ขอต่อต้านการทำรัฐประหารทุกรูปแบบ 2.พวกเราชาวโคราช ประณามการกระทำของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และกลุ่ม กปปส.ที่ปิดกรุงเทพมหานคร และ 3. พวกเราชาวโคราช ขอสนับสนุนให้มีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย หลังจากนั้นทุกคนก็ได้พร้อมใจกันปล่อยลูกโป่งสีธงชาติขึ้นบนฟ้า เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าไม่ต้องการความรุนแรง พร้อมทั้งส่งเสียงว่าเลือกตั้ง ดังกึกก้องตลอดเวลา ก่อนที่ทั้งหมดจะสลายตัวกลับบ้าน





เสื้อแดงขอนแก่นพรึบป้องปชต.

 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ กลุ่ม นปช. พร้อมด้วย ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ทั้งระบบบัญชีรายชื่อและระบบเขตของพรรคเพื่อไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแกนนำของกลุ่ม นปช. กลุ่มคนเสื้อแดงและชมรมคนรักยิ่งลักษณ์-ทักษิณ ภาคอีสาน อาทิ นายอดิศร เพียงเกษ, นายธนิก มาสีพิทักษ์, รศ.นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์, นางมุกดา พงษ์สมบัติ และ นายจักริน พัฒนดำรงจิตร ได้นำกลุ่ม แนวร่วม นปช. กลุ่มคนเสื้อแดงและชาวขอนแก่น จำนวนหนึ่ง ได้เดินรณรงค์สนับสนุนการจัดการเลือกตั้ง และต่อต้านการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.

โดยเริ่มเดินจากหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ไปตาม ถ.กลางเมือง ผ่านหน้าโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน, สภ.เมืองขอนแก่น ก่อนจะเลี้ยวขวาผ่านสำนักงานประปา เลี้ยวขวาอีกครั้งเข้า ถ.หน้าเมือง และเลี้ยวซ้ายตัดเข้าศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ก่อนที่ขบวนที่มีความยาวกว่า 3 กม. จะหยุดพักเพื่อที่กลุ่มแกนนำและผู้ร่วมเดินขบวน พากันสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคล รวมทั้งการร่วมปล่อยลูกโป่งสีขาว แดง และน้ำเงิน เพื่อแสดงออกถึงสัญลักษณ์ของการปลดปล่อยการสร้างเงื่อนไขของกลุ่ม กปปส. และกลับมาต่อสู้ทางการเมืองเพื่อให้ประเทศเดินต่อไปได้

พร้อมทั้ง มีการจุดพลุและตะไลจำนวนมากเพื่อแสดงออกถึงการขับไล่แกนนำกลุ่ม กปปส. จากนั้นขบวนได้เดินทางไปผ่านประตูเมืองเลี้ยวขวาไปตามถนนมิตรภาพ และวกกลับมาที่เวทีของการปราศรัย บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดอีกครั้งเพื่อให้แกนนำ แนวร่วม นปช. รวมไปถึงแกนนำในระดับพื้นที่ได้หมุนเวียนกันขึ้นเวทีปราศรัย ตลอดทั้งคืนของวันนี้


 เมื่อเวลา 14.30 น. ที่บริเวณศูนย์ราชการ สวนรัชดานุสรณ์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น นายธนิก มาสีพิทักษ์ รศ.นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายจักริน พัฒน์ดำรงจิตร อดีตส.ส.ขอนแก่น นางพรรณวดี ตันติศิรินทร์ แกนนำคนเสื้อแดงขอนแก่น ประธานชมรมคนรักยิ่งลักษณ์-ทักษิณ นางปิยฉาย นาชัย ประธานกลุ่มกองทุนสตรี 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมแกนนำเสื้อแดงขอนแก่น จัดตั้งขบวน ปวงชนชาวไทย ปกป้องประชาธิปไตย ลงเลือกตั้งไม่เอาเทือกตั้ง

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มเสื้อแดงใช้รถเครื่องขยายเสียง 10 ล้อ จำนวน 2 คัน รถจยย.ประมาณ 300 คัน รถยนต์ปิกอัพ รถยนต์เก๋ง พร้อมกับสมาชิกเสื้อแดงในภาคอีสาน ร่วมขบวนประมาณ 2,000 คน สวมเสื้อแดง ถือธงชาติ ธงแดง ถือป้ายขนาดใหญ่ต่อต้านการรัฐประหารเงียบ นายสุเทพปิดกรุงเทพฯ พร้อมเชิญชวนไปเลือกตั้งเริ่มเดินขบวนจากศาลากลางจังหวัดไปตามถนนกลางเมืองไปหยุดทำกิจกรรมที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองปล่อยลูกโป่ง 2,000 ลูก ก่อนจะมุ่งหน้าเข้าสู่ศาลากลาง ตลอดเส้นทาง แกนนำได้ประกาศผ่านทางเครื่องขยายเสียงโจมตีกลุ่ม กปปส. ที่ออกมาเคลื่อนไหวนั้น ทำให้สังคมแตกแยก และอาจเกิดสถานการณ์ความรุนแรง สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่กรุงเทพฯ





กาฬสินธุ์ตั้งค่าหัวจับเทพเทือก

 ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า รัชกาลที่ 5 หน้าศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ นายพิทยา พลยิ่ง ประธานนปช.กาฬสินธุ์ นายสุรทิน ศรีธเรศ ตัวแทนภาคประชาชนจังหวัดกาฬสินธุ์ นำกลุ่มพลังเงียบทุกสาขาอาชีพ และกลุ่มนปช.กาฬสินธุ์ กว่า 1 หมื่นคนชุมนุมแสดงพลังสนับสนุนการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. พร้อมกับเรียกร้องให้กปปส.ซึ่งนำโดยนายสุเทพยุติพฤติกรรมสร้างความรุนแรง และปิดกรุงเทพฯ

 นายพิทยาระบุว่า พฤติกรรมของกปปส.ละเมิดสิทธิประชาชน พฤติกรรมการปิดศูนย์ราชการถือเป็นกบฏ ที่มุ่งแต่ทำลายประชาธิปไตยด้วยการอ้างกระบวนการปฏิรูปประเทศ ทั้งนี้ กลุ่มพลังประชาชนสนับสนุนให้มีการเลือกตั้งและนับจากนี้ชาวกาฬสินธุ์จะไม่ต้อนรับนายสุเทพ และขอตั้งค่าตัวนายสุเทพ 15,000 บาท หากสามารถจับตัวได้ที่จ.กาฬสินธุ์

 ด้านกิจกรรมเพื่อแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ ที่ไม่เห็นด้วยในการปิดกรุงเทพฯ ภายหลังประกาศจุดยืนของกลุ่ม ได้มีการปล่อยลูกโป่งสีขาว ให้ กปปส.หยุดพฤติกรรมยั่วยุ ที่จะทำให้เกิดปัญหาแห่งความรุนแรง พร้อมกับการเดินรณรงค์ถือป้ายประณามพฤติกรรม กปปส.ไปทั่วเมืองกาฬสินธุ์ ที่ต่างตะโกนร้องให้ กกต. จัดการเลือกตั้ง และไม่ยอมรับระบบของ กปปส. ที่นำโดยนายสุเทพที่ในอดีตสร้างปัญหาการทุจริตโรงพัก 396 แห่ง และการสลายการชุมนุมในยุครัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งทำให้มีประชาชนเสียชีวิตเกือบ 100 ศพ






สุรินทร์ให้ดอกไม้กกต.จัดเลือกตั้ง

 ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ กลุ่มคนสุรินทร์ผู้รักประชาธิปไตย และนปช.สุรินทร์ ประมาณ 500 คน โดยการนำของนายสมชาย เกียรติคุณรัตน์ นายเทพพนม นามลี ว่าที่ ร.ต.สุริยะศักดิ์ ฉัตรพิทักษ์กุล นายประดับ สืบสันต์ ผู้ประสานงาน นปช. นำกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 2,000 คน เดินรณรงค์ต่อต้าน  กปปส.ชัตดาวน์กรุงเทพฯ เพื่อสนับสนุนให้กกต. จัดการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.พร้อมยืนหนังสือต่อนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการสุรินทร์ นายยุทธนา วิริยะกิตติ ประธาน กกต.จ.สุรินทร์ และพล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผบก.ภ.สุรินทร์ จากนั้นร่วมชุมนุมเรียกร้องต่อต้านรัฐประหารทุกรูปแบบ และรณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งส.ส.วันที่ 2 ก.พ.พร้อมยื่นหนังสือและมอบดอกไม้ให้กำลังใจแก่ข้าราชการ และตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ผ่านนายถาวร กุลโชติ รองผู้ว่าฯสุรินทร์ นายเอกรัตน์ อังคสิทธิ์ ปลัดจังหวัดสุรินทร์




 จากนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง โดยยื่นหนังสือให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่บก.ภ.สุรินทร์ และกกต.สุรินทร์ เพื่อสนับสนุนให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. พร้อมทั้งเคลื่อนขบวนไปยื่นหนังสือให้ผบ.จังหวัดทหารบกสุรินทร์ เพื่อแสดงจุดยืนในการไม่เอารัฐประหารด้วย





อุบลฯอัดเทือกขวางจำนำข้าว

 สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มพลังอุบลแนวร่วมนปช.จังหวัดอุบลราชธานี จำนวนมากได้มารวมตัวตั้งขบวนรณรงค์ที่หน้าศาลากลางหลังเก่า อ.เมือง เพื่อเรียกร้องให้กลุ่ม กปปส.หยุดการปิดกรุงเทพฯ ไม่สนับสนุนรัฐประหาร และเรียกร้องให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. โดยกลุ่มนปช.ยังปราศรัยโจมตีนายสุเทพ ระบุไม่ต้องการให้รัฐบาลดำเนินโครงการรับจำนำข้าวได้สำเร็จ จึงวางแผนปิดกระทรวงการคลัง ไม่ให้รัฐบาลจ่ายเงินให้ชาวนาที่นำข้าวเปลือกเข้ามาจำนำกับโครงการ ทำให้มีการค้างจ่ายจนสร้างความเข้าใจผิดกับชาวนาแล้วออกมาปิดถนนในหลายจังหวัด โดยหวังให้กลุ่มชาวนาเข้าร่วมล้มรัฐบาลด้วย



 ช่วงเย็นวันนี้ กลุ่มนปช.จังหวัดอุบลราชธานี จะตั้งเวทีชี้แจงความจริงที่เกิดขึ้นที่สนามหญ้าศาลากลางหลังเก่า โดยมีแกนนำ นปช.ส่วนกลางคือนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายเวียง วรเชษฐ์ ขึ้นเวทีปราศรัยร่วมกับแกนนำในพื้นที่




มวลชนสารคามหนุนยิ่งลักษณ์

 เวลา 10.00 น.ที่บริเวณถนนรอบหอนาฬิกากลางเมืองมหาสารคาม มีกลุ่มประชาชนจากทุกสาขาอาชีพกว่าพันคน นำโดย นายอดิสร พัฒนาบุตร ประธานชมรมคนรักมหาสารคาม ร่วมตัวกันชูป้ายสนับสนุนการเลือกตั้งและคัดค้านการรัฐประหาร ต่อต้านการกระทำของนายสุเทพ ที่ปิดกรุงเทพฯ จากนั้นได้เคลื่อนขบวนไปตามถนนสายต่างๆ รอบเขตเทศบาลเมือง เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิหย่อนบัตรเลือกตั้ง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคาม อำนวยความสะดวกปิดถนนเพื่อให้ประชาชนเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น




 เวลาเดียวกัน กลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กว่า 500 คน รวมตัวกันที่บริเวณศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม เพื่อสนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง และเป็นกำลังใจให้กับนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผวจ.มหาสารคาม ในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมยื่นหนังสือส่งกำลังใจไปให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้อดทน เข้มแข็ง มีพลังกาย กำลังใจ ต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ และขอเรียกร้องให้ฝ่ายต่อต้านอย่าเลือกใช้ความรุนแรงให้หันหน้าเข้ามาสู่การเจรจา เพื่อลดความสูญเสียรวมทั้งไม่เห็นด้วยกับการแอบอ้างสถาบันกำนัน  ผู้ใหญ่บ้านไปเป็นเครื่องมือทางการเมือง หลังนายนพวัชร ลงมารับหนังสือพบปะแล้วผู้ชุมนุมได้แยกย้ายกันกลับภูมิลำเนา





บุรีรัมย์ครึ่งหมื่นจี้เคารพสิทธิ์

 เมื่อเวลา 10.30 น. กลุ่มเครือข่ายแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.จากทั้ง 23 อำเภอในจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ต่างสวมใส่เสื้อหลากสี ประมาณ 4,000-5,000 คน เคลื่อนขบวนมวลชนพร้อมรถติดเครื่องขยายเสียง ความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ออกจากบริเวณหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 1 ไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลเมือง เพื่อรณรงค์แสดงพลังคัดค้านการชุมนุมปิดกรุงเทพมหานครของกลุ่ม กปปส. พร้อมต่อต้านการทำรัฐประหารในทุกรูปแบบ และเชิญชวนประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 2 ก.พ. เพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย 



 สำหรับขบวนผู้ชุมนุมมีการถือป้ายที่มีข้อความต่างๆ แกนนำได้กล่าวปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียง โจมตีการกระทำของนายสุเทพและอย่าไปหลงเชื่อกลุ่ม กปปส.ที่จะจัดตั้งสภาประชาชน ซึ่งไม่ใช่ประชิปไตยที่แท้จริง ประชาธิปไตยต้องมาจากการเลือกตั้งเท่านั้น ซึ่งหลังจากจะมีการเดินรณรงค์ไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองแล้ว ได้ไปรวมตัวกันที่บริเวณหน้าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด เพื่ออ่านแถลงการณ์ส่งกำลังใจให้นายกฯยืนหยัดต่อสู้อยู่ในตำแหน่งต่อไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ต้องนำพาประชาชนฝ่าข้ามวิกฤตความขัดแย้งครั้งนี้ให้จงได้ เรียกร้องให้ กกต.ทุกระดับตั้งใจเดินหน้าเตรียมการสู่การเลือกตั้ง จะสามัคคีร่วมมือกับประชาชนทุกกลุ่มฝ่าย เดินหน้าสู่การเลือกตั้งอย่างทุ่มเท เต็มใจเดินหน้าสู่คูหาเลือกตั้ง ร่วมปฏิรูปประชาธิปไตยอย่างจริงจัง เราจะต่อต้านคัดค้านความรุนแรงทุกชนิด ไม่ว่าความรุนแรงจะมาจากฝ่ายใด จงตั้งสติอยู่บนหลักการสันติวิธีอย่างเคร่งครัด เพราะทุกฝ่ายล้วนเป็นคนไทยด้วยกัน ขอคัดค้านต่อต้านและประณามการรัฐประหารอย่างจริงจังและจะสู้ทุกรูปแบบ





ศรีสะเกษ7พันคนเอาเลือกตั้ง

 เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สนามหน้าศาลากลางจ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ กลุ่มคนเสื้อแดงจาก 22 อำเภอในจ.ศรีสะเกษ จำนวนประมาณ 7,000 คน นำโดย ดร.ไสว สดใส หนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดงจ.ศรีสะเกษ ร่วมกันเดินรณรงค์เพื่อแสดงจุดยืนในการรักษาประชาธิปไตย และสนับสนุนให้มีการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. พากันเดินรณรงค์ในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ โดยมีแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นรถขยายเสียงปราศรัยสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล และสนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง พร้อมปราศรัยกล่าวโจมตีนายสุเทพที่ชุมนุมปิดกรุงเทพฯสร้างความสูญเสียให้ประเทศ

 สำหรับบรรยากาศในการเดินรณรงค์ของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย มีประชาชนมายืนโบกมือ เพื่อให้กำลังใจ และนำอาหาร พร้อมทั้ง น้ำดื่ม มามอบให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาร่วมเดินรณรงค์ในครั้งนี้อีกด้วย


ชาวพิษณุโลกให้กำลังใจตำรวจ

 เมื่อเวลา 10.30 น.ที่หน้าสภ.เมืองพิษณุโลก กลุ่มนปช.พิษณุโลก สวมเสื้อสีขาว ประมาณ 200 คน เดินทางมาด้วยรถยนต์รถจักรยานยนต์มารวมตัวกัน โดยถือป้ายให้การสนับสนุนให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.ที่จะถึงนี้ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบให้กับบ้านเมืองทั้งนี้ก่อนหน้ากลุ่ม นปช.ได้รณรงค์ไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก

 พ.ต.อ.บุญญฤทธิ์ โล่สุวรรณ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งได้ออกมาพบปะกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณหน้าสถานีตำรวจ ซึ่งทางกลุ่มนปช.ต่างส่งเสียงให้กำลังใจตำรวจ พร้อมร้องตะโกน ตำรวจสู้ๆ จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้นำดอกกุหลาบมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ซึ่งทาง ผกก. กล่าวว่ากับกลุ่มผู้ชุมนุม ว่า ตนขอขอบคุณกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาให้กำลังใจ ทางตำรวจจะปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา

 หลังจากกลุ่ม นปช. แสดงจุดยืนการเลือกตั้งเรียบร้อย ต่างได้แยกย้ายกันกลับ โดยนัดพบกันที่สนามกีฬากลางจังหวัดในช่วงเย็นวันเดียวกัน





กำแพงเพชรยันไม่เอาเทือกตั้ง

 ที่หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 หน้าที่ว่าการอำเภอเมือง จ.กำแพงเพชร ประชาชนประมาณ 3,000 คน สวมเสื้อสีขาว พร้อมถือป้ายสนับสนุนให้มีการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.

 นางคัทรีญา ฤกษ์อัตการ สมาชิกอบจ.กำแพงเพชร เขต 2 ในฐานะตัวแทนชาวกำแพงเพชร เปิดเผยว่า กลุ่มคนเสื้อขาวที่มาร่วมกันจุดเทียนครั้งนี้ เป็นประชาชนคนธรรมดา ผู้รักประชาธิปไตย และต้องการให้ระบบการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เหตุผลหลักในการมาจุดเทียนครั้งนี้ คือ ไม่ยอมรับขบวนการใดๆ ที่จะมาขัดขวางการเลือกตั้ง ยึดหลักประชาธิปไตย การมีสิทธิ์เสรีภาพเท่าเทียมกัน ทุกคน และไม่ยอมรับการแต่งตั้งของใครที่จะมาคิดแทนประชาชน

 ดร.รุ่งธรรม ศรีวรรธนศิลป์ ศูนย์บริรักษ์ไทย วิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร ที่มาร่วมจุดเทียนครั้งนี้ เปิดเผยว่า ตนเป็นประชาชนคนหนึ่งที่รักประชาธิปไตย ที่ต้องการให้มีการเลือกตั้งและความเสมอภาคทางความคิด เคารพสิทธิ์การตัดสินใจของทุกคน อันมีสโลแกนว่าชาวกำแพงเพชรนั้นรักประชาธิปไตย เสมอภาค และสันติสุข




 เมื่อทำพิธีจุดเทียนเป็นที่เรียบร้อยแล้วชาวกำแพงเพชร ผู้มาร่วมชุมนุมทั้งหมด ได้พร้อมใจกันเดินรณรงค์ไปรอบๆ เขตเทศบาลเมืองกำแพงเพชร บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนออกมาให้การสนับสนุนจำนวนมาก





ลำพูน

วันจันทร์ที่13 มค 57 พี่น้องประชาชนในจังหวัดลำพูนได้จัดขบวนรถ โดยมี ดาบชิต ผู้ประสานและเลขานุการศูณย์ประสานงานกลางแดงเชียงใหม่ เป็นผู้รอให้การต้อนรับพร้อมกับทหารจากค่ายกาวิลละแห่มาจังหวัดเชียงใหม่เพื่อ ยื่นหนังสือให้กับทหารที่ค่ายกาวิลละ แสดงจุดยืนไม่ให้ทหารใช้ความรุนแรง..และสักการะอนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิลละ ..นับเป็นการแสดงพลังอีกอย่างหนึ่งของพี่น้องจากลำพูน ..แล้วต่อด้วยการไปร่วมขบวนกับพี่น้องเชียงใหม่ในช่วงบ่าย





ปราจีนบุรีมีทั้งฝ่ายสนับสนุนและต่อต้านปิดเมืองหลวง - ยายวัย 82 ปีออกมาเรียกร้องให้เลือกตั้ง
วันที่ 13 ม.ค. ที่ข้างศูนย์ นปช.ปราจีนบุรี ตลาดนัดคลองถม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี นพ.สง่า คุณยศยิ่ง แกนนำ นปช.ปราจีนบุรี นำกลุ่มคนเสื้อแดง พร้อมใจแต่งกายด้วยเสื้อสีขาว จากทุกอำเภอ รวมกว่า 250 คนจัดขบวนรถยนต์แรลลี่รวมมากกว่า 50 คัน เปิดไฟหน้ารถเป็นสัญลักษณ์ พร้อมรถกระจายเสียง ป้ายโปสเตอร์ ต่อต้านการปิดกรุงเทพฯ ของกลุ่ม กปปส. สนับสนุนการเลือกตั้งส.ส.และต่อต้านการปฏิวัติ

นพ.สง่า กล่าวว่า  ขบวนแรลลี่รวมพร้อมกันออกจากศูนย์ นปช.ไปรวมที่สี่แยกศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเดินทางต่อไปทุกอำเภอ เชิญชวนประชาชนร่วมต่อต้านการปิดกรุงเทพฯ และส่งเสริมการเลือกตั้ง ต่อต้านการปฏิวัติ จากนั้นช่วงค่ำจะมีการจุดเทียนและปล่อยลูกปาสันติภาพพร้อมกัน

นางพรรณี วรกุล อายุ 82 ปีเลขที่ 73 ซอยอุดมศุภ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่าไม่ต้องการให้ปิดกรุงเทพฯเนื่องจากสร้างความเดือดร้อนให้บุคคลอื่น ไม่ต้องการความรุนแรงในสังคม และต้องการให้มีการเลือก ในวันที่ 2 ก.พ.นี้ต้องการให้ประชาชนร่วมส่งเสริมประชาธิปไตยออกมาเลือกตั้ง จึงมาร่วมรณรงค์

ขณะเดียวกันที่บ้านศิลา ริมถนนสายสุวรรณศร ต.โคกไม้ลาย อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี นายเฉวียน กาญสุนทร แกนนำ กปปส.ปราจีนบุรี นำขบวน กปปส.ปราจีนบุรี ร่วมกับกปปส.สระแก้ว กว่า 500 คนรวม 8 รถบัส 30 รถตู้ เดินทางไปร่วมกับ กปปส.นครนายก และทั้งหมดจะมารวมสมทบกับ กปปส.นครราชสีมา ที่ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ก่อนเดินทางเข้าร่วมปิดกรุงเทพฯ ต่อไป ทั้งนี้มี กปปส.บางส่วนที่เดินทางโดยรถไฟสายภาคตะวันออกปราจีนบุรี-กรุงเทพฯ ก่อนบ้างแล้ว



กลุ่มนปช.แม่ฮ่องสอน เดินรณรงค์เชิญชวนประชาชน ต่อต้านรัฐประหาร 


เมื่อวันที่ 13 ม.ค. เวลา 10.40 น.นายพยนต์ สารวาท แกนนำ นปช.เมืองแม่ฮ่องสอน พร้อมแนวร่วม 50 คนใช้รถปิกอัพ 8 คัน รวมตัวกันบริเวณหน้าเรือนจำ จ.แม่ฮ่องสอน จากนั้นได้เคลื่อนขบวนเดินรณรงค์ชั กชวนประชาชนในเขตเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ไปตามถนนขุนลุมประพาส มุ่งหน้ามายังบริเวณศาลาประชาคมในศูนย์ราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ระหว่างทางได้แวะสักการะศาลเจ้าพ่อเมืองแข่ และอนุสาวรีย์พระยาสิงหนาทราชา มุ่งหน้ามายังศาลากลาง เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนการเลือกตั้ง และหยุดรัฐประหารต่อต้านกบฎ การเดินรณรงค์ดังกล่าวใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง กระทั่งเมื่อเวลา 12.00 น. ขบวนรณรงค์เดินทางมาถึงบริเวณลานหน้าศาลาประชาคมจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยกลุ่ม นปช.มอบช่อดอกไม้ให้พ.ต.ท.สมหมาย ประทุมวงศ์ รองผกก.สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน ในฐานะตัวแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศ ให้ปฏิบัติหน้าที่รักษากฏหมายและดูความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองเป็นอย่างดี จากนั้นกลุ่ม นปช.ได้แวะพักรับประทานอาหารกลางวันและเดินทางกลับ สำหรับบรรยากาศการหาเสียงในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน พบว่า ช่วงเช้าวันนี้มีคนงานของผู้สมัครรับเลือกตั้ง 2 พรรค คือ นายปัญญา จีนาคำ พรรคชาติพัฒนา และนายวุฒิ ริยะนา พรรคเพื่อไทยเริ่มติดป้ายหาเสียงบริเวณสองข้างถนนในตัวเมืองและปริมณฑลแล้ว อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวใน กกต.แม่ฮ่องสอน ระบุว่า ล่าสุดทางกกต.กลางยังไม่ได้โอนเงินมาให้กกต.แต่ละจังหวัด ที่กำลังต้องการใช้งบประมาณในการจัดการเลือกตั้ง