เริ่มแล้ว - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงให้พรรคเพื่อไทยที่เมืองทองธานี ท่ามกลางประชาชนมาร่วมฟังนับหมื่นคน โดยเป็นการเปิดเวทีปราศรัยหาเสียงครั้งแรกพร้อมกันในหลายจังหวัด เมื่อวันที่ 4 ม.ค.
"เต้น"อัดเทือกท้าทายประชาชน
เวลา 17.30 น. นายณัฐวุฒิขึ้นเวทีปราศรัยว่า สิ่งที่นายสุเทพประกาศจะปิดกรุงเทพฯ ตัดน้ำตัดไฟในวันที่ 13 ม.ค. เท่ากับจะรัฐประหารปล้นอำนาจประชาชน การประกาศล่วงหน้าถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ถือเป็นการท้าทายอำนาจเจ้าของอธิปไตยทั้งประเทศอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หากการกระทำของนายสุเทพ ทำสำเร็จแล้วตั้งรัฐบาลได้เอง ตั้งสภาประชาชนได้เอง ต่อไปก็ไม่ต้องมีรัฐธรรมนูญแล้วเท่ากับเป็นการฉีกรัฐธรรมนูญ นายสุเทพก็จะประกาศนิรโทษกรรมให้ตัวเองและแกนนำ กปปส. เท่ากับข้อหากบฏของนายสุเทพและพวกจะถูกนิรโทษกรรม ข้อหาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอและสำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งข้อหากบฏไว้ก็จะได้รับการนิรโทษกรรมด้วย
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ทำเป็นต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมก่อนหน้านี้ แต่เชื่อว่าจะต้องนิรโทษกรรมให้ตัวเองแน่นอน ส่วนที่ประกาศว่าถ้ายึดอำนาจสำเร็จ จัดตั้งสภาประชาชนได้โดยมีคนดีมาร่วม อยากรู้ว่าคนดีที่พูดถึงหน้าตาเป็นอย่างไร และที่บอกว่าจะไม่รับตำแหน่งอะไรเลยนั้นก็ไม่แปลก เพราะเมื่อกลายเป็นรัฏฐาธิปัตย์ นายสุเทพมีอำนาจสูงสุดแล้วจะอยากได้ตำแหน่งอะไรอีก
เลือกตั้งทำให้มีนิติรัฐ-นิติธรรม
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ขณะนี้หลักนิติธรรมแทบจะทำงานอะไรไม่ได้ ดังนั้นต้องมีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเพื่อให้เกิดหลักนิติรัฐ นิติธรรม คนต้องเท่ากันเท่านั้น หลักนิติธรรมจะเกิดได้ แต่หากมีความเชื่อว่าคนกรุงเทพฯ ที่มีการศึกษาสูงมีค่ามากกว่าคนต่างจังหวัด บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. จะเป็นการพิสูจน์ว่าคนไทยทั้งประเทศต้องการประชาธิปไตย ต้องการเกียรติยศและความเป็นเจ้าของประเทศเท่าๆ กัน และเป็นการปฏิเสธอำนาจนอกระบบทุกกรณี มีคนถามว่าจะมีการยึดอำนาจ ทหารจะออกมาปฏิวัติหรือไม่ ตนก็ไม่ทราบ แต่ถ้าทหารออกมาปฏิวัติ เราก็จะออกมาต่อสู้ตั้งแต่วินาทีแรกและสู้ต่อไปจนวินาทีสุดท้าย เพื่อต่อต้านการรัฐประหาร ก่อนหน้านี้ตนเคยประกาศยุติการชุมนุมมาแล้วสองครั้ง แต่หากทหารออกมาปฏิวัติ ขอให้สัตย์สัญญาว่าจะไม่ประกาศยุติการชุมนุมเป็นอันขาด ไม่สนใจแกนนำคนใดที่จะยุติการชุมนุม เพราะเป็นการต่อสู้เพื่อประชาชน และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นประเทศไทยต้องมีการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.นี้ให้ได้ ต้องเดินไปสู่หีบบัตรลงคะแนน ไม่ใช่เดินไปตามความต้องการของนายสุเทพ
"จตุพร"แฉมีคนจ้องฮุบอำนาจ
จากนั้นบรรดาแกนนำต่างสลับกันขึ้นปราศรัย อาทิ นายจารุพงศ์ พ.อ.อภิวันท์ นายปลอดประสพ นายอุดมเดช รัตนเสถียร เป็นต้น ส่วนใหญ่โจมตีการชุมนุมปิดประเทศของ กปปส.สร้างความเสียหายให้กับประเทศ และยืนยันต้องเดินหน้าเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.นี้ให้ได้ เพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย
เวลา 20.30 น. นายจตุพรปราศรัยว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมาจะมีกระบวนการยัดบัตรลงหีบ แต่วันที่ 2 ก.พ.จะมีกระบวนการลักหีบบัตรเลือกตั้ง และมีกระบวนการไม่ให้ประกาศการเลือกตั้งได้ ขณะที่การเคลื่อนไหวของนายสุเทพไม่ได้ต้องการให้มีการปฏิรูปแต่ต้องการปฏิรวบอำนาจทุกอย่างให้อยู่ภายใต้นายสุเทพ ทั้งการตั้ง นายกฯ และสภาประชาชน ที่นายสุเทพประกาศจะปิดกรุงเทพฯ นั้น ถ้าไม่มีคนอีกพวกจับจ้องจะฮุบอำนาจ อยากดูน้ำหน้าเหมือนกันว่าจะปิดได้สักกี่วัน
นายจตุพรกล่าวว่า ขณะนี้มีคนจำนวนหนึ่งสุมหัวกับนายสุเทพ เพราะฝันอยากเป็นนายกฯ อยากเป็นรัฐมนตรี หวังว่านายสุเทพจะทำได้แบบเบ็ดเสร็จ แต่คนพวกนี้จะเรียงหน้าติดคุกทุกคน การเลือกตั้งครั้งนี้เราต้องเดินหน้าให้ถึงวันที่ 2 ก.พ. ถ้าไม่จบต้องต่อสู้กันทุกกระบวนการ การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่อยู่ในสถานการณ์ปกติแต่เรามีจุดแข็ง คือการรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งนายสุเทพไม่มี สิ่งที่นายสุเทพทำจะนำพาประเทศสิ้นชาติ ดังนั้นใครที่ไม่เห็นด้วยกับนายสุเทพ วันที่ 2 ก.พ.ขอให้ช่วยบอกต่อๆ กันให้เข้าคูหากาเบอร์ 15
จากนั้นปิดเวทีปราศรัยเวลา 21.00 น.
