
ทีมข่าว นปช.
23 ธันวาคม 2556
วันนี้ (23 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) นำโดยอ.ธิดา ถาวรเศรษฐประธานนปช. ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ คุณจตุพรพรหมพันธุ์ และแกนนำนปช.ส่วนกลาง ร่วมกันแถลงข่าว

โดยคุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวว่า วันนี้เป็นวันหนึ่งที่ต้องจารึกไว้ในประเทศไทย เรากำลังเป็นที่จับตามองและถูกชาวโลกวิพากษ์วิจารณ์ เพราะวันนี้เป็นวันแรกที่ กกต.ได้เปิดให้พรรคการเมืองได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ด้านกลุ่ม กปปส. ได้ชุมนุม และต่อต้านการเลือกตั้งอย่างเปิดเผย โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ไม่สนใจกฎกติกา สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเป็นคำถามข้อใหญ่ที่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศต้องมีคำตอบ เพราะข้อเรียกร้องปฏิรูปของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และเครือข่ายสนับสนุนขานรับนั้น แท้จริงแล้วเป็นการเรียกร้องเพื่อให้เกิดการรัฐประหารก่อนการเลือกตั้ง ไม่มีทางที่นายสุเทพ จะได้อำนาจอธิปไตยของประชาชนไปแต่งตั้งสภาประชาชน แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ได้
"แต่มีวิธีการเดียวที่จะทำได้คือรัฐประหาร สิ่งที่นายสุเทพ และพวก กำลังกระทำอยู่ในขณะนี้ ก็เพื่อที่จะต้อนประเทศไทยให้เข้าสู่ทางตัน แล้วเปิดทางให้กองทัพยึดอำนาจหรืออาจจะกระทำการยึดอำนาจด้วยตัวเอง ดังนั้นถ้าขานรับแนวทางของนายสุเทพ จึงไม่ใช่การปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง แต่เป็นการรัฐประหารก่อนเลือกตั้ง การรัฐประหารที่เกิดขึ้นมีให้เลือก 2 แบบ คือ1.รัฐประหารโดยกองทัพ 2.รัฐประหารโดยนายสุเทพ ซึ่งทั้ง 2 รูปแบบนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย ปล้นอำนาจประชาชนทั้งสิ้น"
คุณณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ตนยึดมั่นในสัจจะวาจาของผู้นำเหล่าทัพที่จะไม่รัฐประหาร ดังนั้นเวลานี้ขอให้ผู้รักประชาธิปไตยทั้งหลายมุ่งไปที่ กปปส. เป็นหลัก และขอฝากไปยังพรรคประชาธิปัตย์ที่บอยคอตการเลือกตั้งว่า ให้กระชากหน้ากากของตัวเองออกมาได้เเล้ว เพราะประชาชนรู้หมดแล้ว ไม่ต้องแสดงหรือเล่นปาหี่ทางการเมือง แสดงออกมาตรง ๆ เลยว่าพรรคประชาธิปัตย์กำลังสมคบคิดกับ กปปส. และเตรียมจะได้รับผลประโยชน์จากการยึดอำนาจของนายสุเทพ เพราะถ้าเกิดถูกจับได้มันน่าอาย และให้พรรคประชาธิปัตย์ยกเลิกที่จะเดินสายเปิดสมัชชาปฏิรูปรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่มีแนวทางเพื่อรับความคิดเห็นประชาชนว่าจะปฏิรูปอย่างไร เพราะว่าในขณะนี้นายสุเทพ ประกาศชัดมาโดยตลอด ว่าปฏิรูปตำรวจให้ขึ้นอยู่กับท้องถิ่น เลือกผู้ว่าราชการจังหวัด เมื่อปฏิรูปที่นายสุเทพได้ประกาศไว้ให้เสร็จแล้วไปเลือกตั้ง ก็หมายความว่าการปฏิรูปที่พูดนั้นเบ็ดเสร็จ เด็ดขาดแล้วภายใต้คำประกาศของนายสุเทพ นี่จึงเป็นการเผด็จอำนาจอย่างแท้จริง ถ้าเกิดเขาทำได้
คุณณัฐวุฒิ กล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยต้องเดินไปสู่การเลือกตั้งให้ได้ ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่ว่าใครจะได้เป็นรัฐบาลแต่อยู่ที่คนไทยจะได้ลงคะแนนเลือกตั้งหรือไม่ แน่นอนว่าหากมีการเลือกตั้งจะต้องมีพรรคการเมืองที่ได้รับเสียงข้างมากจะเป็นฝ่ายชนะ แต่หากไม่มีการเลือกตั้งหมายถึงประชาชนชาวไทยทั้งประเทศจะพ่ายแพ้ทั้งหมด คือแพ้ต่ออำนาจนอกระบบ แพ้ต่อวิธีการนอกกติกา ถ้านายสุเทพชนะ อำนาจอธิปไตยของประชาชนทั้งหมดจะตกไปอยู่กับนายสุเทพคนเดียว แต่ถ้าผู้รักประชาธิปไตยชนะ อำนาจอธิปไตยทั้งหมดจะอยู่ที่ทุกคน คือหนึ่งเสียงเท่ากัน วันที่ 2 ก.พ. 57 จึงจะเป็นวันที่ประชาชนจะได้รับชัยชนะ เป็นการยืนยันว่าทุกคนภายในประเทศนี้ยังเป็นประชาชนที่มีอำนาจอธิปไตยเป็นของตัวเอง แต่ถ้าไม่มีการเลือกตั้งแสดงว่าเราไม่ได้มีค่าเป็นประชาชน เป็นได้เพียงแค่เศษก้อนเนื้อที่หายใจได้ แต่ไม่มีสิทธิ เสรีภาพ ไม่อาจใช้อำนาจอธิปไตยของตัวเองได้ เป็นก้อนเนื้อที่ต้องก้มหน้าอยู่ในประเทศที่ถูกนายสุเทพ และพวกตีกรอบเอาไว้ให้
ด้านอ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. กล่าวว่า การปฎิรูปก่อนเลือกตั้งของนายสุเทพ เป็นวาทกรรมที่โกหกประชาชน เป็นการต้องการยึดอำนาจโดยที่จะไม่มีการจัดการเลือกตั้ง เพราะการเลือกตั้งคือความพ่ายแพ้ของนายสุเทพ และคณะ รวมทั้งเครือข่ายอำมาตย์ทั้งหมด จึงอยากให้เข้าใจว่าขณะนี้มีเกมเดินหน้าของนายสุเทพและเครือข่ายอำมาตย์ ความพยายามที่จะต่อยอดของความสำเร็จ หรือตามบทขยี้ฝ่ายประชาธิปไตยก็มีความรุนแรงยิ่งขึ้น ดังนั้นการเลือกตั้งจึงเป็นเครื่องมือการต่อสู้ของฝ่ายประชาธิปไตย การที่เราลดระดับความเข้มข้นในระดับของสีทั้งในกรุงเทพฯ และพื้นที่ต่าง ๆ เราจะหลอมรวมประชาชนไทยทั้งหมดที่รักประชาธิปไตยต่อสู้กับผู้ที่กำลังก่อการปล้นอำนาจ ยึดอำนาจของประชาชน เราจะต่อสู้ในนามประชาชนไทยทั้งหมด ไม่ใช่ต่อสู้ในนามเสื้อแดงเพียงอย่างเดียว ถ้าหากการเลือกตั้งดำเนินไปสู่ความสำเร็จ ถ้าพรรคการเมืองใดชนะการเลือกตั้ง ประชาชนไทย รวมทั้งคนเสื้อแดงมีความยินดีที่จะต้อนรับพรรคการเมืองนั้นในฐานะที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้สร้างประโยชน์ความมั่นคงต่อประเทศชาติที่ยั่งยืนต่อไป.
อ.ธิดากล่าวต่อ การทำตามระบบและตามระบอบประชาธิปไตย ตามครรลองของกฏหมายและรัฐธรรมนูญ เพราะฝ่ายประชาชนไม่สามารถเล่นเกมส์อื่นได้ เพราะอำนาจรัฐ กลไกรัฐไม่ได้อยู่ที่เรา เรามีอย่างเดียวคือ “ประชาชน” เมื่อเป็นเช่นนั้นเราจำเป็นที่จะต้องต่อสู้อย่างมีความระมัดระวังตามระบบกฎหมายและรัฐธรรมนูญ มิฉะนั้นเขาก็จะจัดการกับเรา “ไม่ฆ่า ก็เข้าคุก” โดยขณะนี้ได้มีบัตรเชิญให้ทหารมาทำรัฐประหาร เกมส์ของเขาต่อจากนี้ก็คือ ยกระดับความรุนแรง จึงเป็นสิ่งที่มุ่งหวังเอาไว้ให้ทหารออกมาทำรัฐประหาร เพราะฉะนั้นคือสิ่งที่เราไม่ลงไปเล่นในเกมส์ของเขา ขอร้องพี่น้องประชาชน และพี่น้องเสื้อแดง เราจะไม่เล่นในเกมส์ของเขาที่สร้างความรุนแรงคือ การปะทะระหว่างประชาชน ด้วยเหตุนี้เราจึงลดความเข้มข้นเรื่องสี โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และทั่วประเทศ เราจะหลอมรวมกับประชาชนทั้งหมด นี่ไม่ใช่เรื่องของสีเสื้อแต่เป็นเรื่องประชาชนไทยที่รักประชาธิปไตย รักความยุติธรรมทั้งประเทศ ต้องต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้องคือ การปล้นอำนาจและยึดอำนาจจากประชาชน เราจึงต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับประชาชนไทยทั้งหมด เรียกร้องให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฏหมายตามรัฐธรรมนูญ ให้การเลือกตั้งเกิดขึ้น และไม่ว่าพรรคการเมืองใดชนะในการเลือกตั้ง ประชาชนไทยรวมทั้งคนเสื้อแดงก็ยินดีที่จะต้อนรับพรรคนั้นในฐานะ ที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้
อ.ธิดากล่าวต่อ เมื่อวานคุณจตุพรได้แถลงว่า สามารถจับคนยิงพลทหารธนะสิทธิ์ เวียงคำได้ เพราะฉะนั้นนี่คือเกมส์จึงทำให้เราต้องยุติการชุมนุมก่อน ทั้งๆที่คนของเรามีจำนวนมากมาย นี่คือเหตุผลเดียวว่า เราต้องการต่อยอดชัยชนะ ไม่ต้องการเข้าสู่กับดัก โดยการเอาอำนาจคืนไปจากเราและการทำรัฐประหาร ประชาชนที่มาร่วมขบวนกับ กปปส. ก็ไม่ใช่ศัตรูของเรา เพราะเป็นประชาชนไทยเขามีสิทธิ์แสดงออกตามความเชื่อ ขอให้พี่น้องเข้าใจว่า เราจะต้องกำหนด เราจะไม่สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้ประชาชนและประเทศนี้เสียหาย
ด้านคุณจตุพรพรหมพันธุ์ แกนนำนปช. กล่าวว่า ตลอดเวลาตั้งแต่ช่วงสายเป็นต้นมา มีพี่น้องโทรเข้ามาเป็นจำนวนมาก เพราะโทรทัศน์ช่อง บลูสกาย์ ซึ่งได้ถ่ายทอดกองกำลัง กปปส. นำโดย นายชุมพล จุลใส(ลูกหมี) โดยหลังจากที่มีการสั่งให้มีการเคลื่อน ไปปิดล้อมสถานกีฬาไทยญี่ปุ่นซึ่งมีพรรคการเมืองได้เข้าไปก่อน 8 พรรคและก็พรรคการเมืองที่เข้าไปไม่ได้ กกต.ก็ได้มีการให้ไปแจ้งความเพื่อแจ้งสิทธิ์ว่ามาก่อนเวลา 8 โมงครึ่ง ปรากฏว่าได้มีการนำคนของตัวเองไปปิดล้อมที่ สน. แล้วก็มีการปลุกระดมว่ามีจตุพร พรหมพันธุ์อยู่ในนั้นอีก 1 คน ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะเป็นแผนที่ต้องการให้พวกของตนออกมา และในวันนี้มีพรรคการเมืองเข้าไปสมัคร 35 พรรคและวันนี้เขาก็จัดทีม 2 ชุด โดยชุดหนึ่งไปดินแดง และอีกชุดหนึ่งไป ดีเอสไอ และในกรณีสุเทพที่มีการกล่าวด้วยถ่อยคำหยาบคาย และอาฆาตมาดร้าย ผลเองก็รู้ว่าบรรยากาศการเลือกตั้งนั้น อย่างไรก็แล้วแต่ถ้าเขาได้ฟัง ที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้แถลง ซึ่งได้ถอยมาสุดๆแล้วและส.ส.ชุดใหม่นี้รัฐบาลชุดใหม่นี้จะขออยู่เพียงหนึ่งปีเท่านั้น เพื่อที่จะปฏิรูปการเมือง และประเทศให้เป็นที่เรียบร้อย หลังจากนั้นจะยุบสภาและคืนอำนาจให้ประชาชน แต่ปรากฎว่าไม่ฟังแต่อยากจะกลับมามีอำนาจเสียเอง และได้ร่วมคนไปเดินปิดสถานที่ต่างๆ ร่วมถึงบ้านนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกยิ่งลักษณ์ก็ไม่ลาออกเลยเกิดสติคุ้มคั่งสติแตกเหมือนผีเข้า
ตนขอเรียนกับพี่น้องมา การรับสมัครเลือกตั้งอย่างไรก็สมัครได้ และในกรณีที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศภาคใต้จำนวน 54 เขตและกรุงเทพฯ 25 เขตนั้น จะดำเนินทุกวิถีทางไม่ให้มีการจัดการเลือกตั้ง เพื่อที่จะไม่ให้สมาชิกสภาผู้แทนครบจำนวน 95 เปอร์เซนต์และตนขอบอกกับคนที่จะขัดขวางว่า คุณจะดำเนินการอย่างไรก็ตามรัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ยังคงรักษาการอยู่ และการที่พรรคประชาธิปัตย์บอยคอส์ดไม่สมัครรับเลือกตั้ง คุณก็ไม่มีสิทธิ์ไปขัดความคนอื่นเขา เพราะคนที่เขาตั้งใจให้ประชาชนตัดสินใจนั้นไปขัดขวางเขาทำไม โดยเฉพาะวันเลือกตั้งจะส่งคนไปทำอะไรก็แล้วแต่ ตนขอเรียนว่า อย่างไรก็จะต้องถูกดำเนินคดีอาญา แต่ว่าพี่น้องอย่าได้ไปวิตกว่าเลือกตั้งไม่ได้ซึ่งไม่มีทางจะเป็นเช่นนั้น เลือกตั้งเขตไหนไม่ได้ก็เลื่อนการลงคะแนนไปใหม่ จะใช้เวลาเป็นปีก็ไม่เป็นไร ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ก็รักษาการกันไป แต่ปัญหาคือคุณจะชุมนุมหรือปิดประเทศได้ถึงปีหรือเปล่า
คุณจตุพร กล่าวต่อว่า คุณจะข่มขู่นายกยิ่งลักษณ์อย่างไรก็ตาม แต่มันเป็นการตอกย้ำเสียงส่วนใหญ่ของประเทศว่า ถ้าถึงจุดที่เขาทนกันไม่ได้ ประชาชนเขาจะสำแดงกันที่เรียกว่า ทั้งแผ่นดินนั้นคุณจะเห็นขนาดของประชาชนที่แท้จริง