แดงชุมนุมอีกวันนี้-พรึบราชมังคลาฯชี้ยืดเยื้อ เพื่อป้อง รัฐบาล!

นัดชุมนุม - นางธิดา โตจิราการ ประธานนปช.พร้อมแกนนำ ประกาศระดมพลคนเสื้อแดงชุมนุมด่วนที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 24 พ.ย.เป็นต้นไปอย่างไม่มีกำหนด เพื่อปกป้องประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่อิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว

แดงนัดอีก ชุมนุมใหญ่พรึบสนามราชมังคลาฯ ปกป้องรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ใช้สโลแกนการชุมนุม "รัฐถูกประหารโดยศาลรัฐธรรมนูญ" ยันชุมนุมยืดเยื้อตามสถานการณ์ แต่ปักหลักอย่างสงบอยู่ในที่ตั้ง หลีกเลี่ยงเผชิญหน้ากับใคร "ธิดา" เผยหวังแสดงตัวตนพิทักษ์ประชาธิปไตย ไม่ใช่เสื้อแดงแต่ต้องการประชาธิปไตยก็ร่วมชุมนุมได้ เสื้อแดงโคราช-อุดรฯ-เชียงใหม่-ปทุมฯ ระดมร่วมชุมนุม

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 พ.ย. ที่อิมพีเรียลลาดพร้าว กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำโดยนางธิดา โตจิราการ ประธานนปช. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. ร่วมกันแถลง โดยนางธิดากล่าวว่า กลุ่มนปช.จะชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป จะใช้สโลแกนการชุมนุมว่า "รัฐถูกประหารโดยศาลรัฐธรรมนูญ" ซึ่งการชุมนุมครั้งนี้เพื่อปกป้องรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง การชุมนุมจะยืดเยื้อตามสถานการณ์ และจะชุมนุมอย่างสงบอยู่ในที่ตั้ง หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับใคร นปช.จะแสดงให้เห็นว่าพลังของคนที่รักประชาธิปไตย ยังมีอยู่อีกมาก


นางธิดากล่าวต่อว่า ในวันนี้สถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในสภาพที่เข้มข้น ร้อนแรงขึ้นทุกขณะ นปช.ขอเรียกร้องพี่น้องที่อยู่ทางบ้าน ในฐานะผู้ปกป้องประชาธิปไตยที่กำลังถูกประจานโดยระบอบอำมาตย์ ที่ใช้องค์กรที่ทรงพลัง อ้างตนเองว่ามีอำนาจสูงสุดในประเทศไทย มีอำนาจยิ่งกว่าพระราชอำนาจ และอำนาจประชาชน นี่คือการแสดงอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ในสภาพที่เป็นอยู่นี้เป็นเวลาสำคัญที่นักต่อสู้ เราไม่มีการจ้างคนมาชุมนุม มาด้วยหัวใจจริงๆ หากไม่สู้ผลจากชัยชนะที่ได้มาทั้งหมดก็จะจบสิ้นไป


"ขอเรียกร้องให้พี่น้องโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียงเตรียมเสื้อผ้าให้พร้อม การเตรียมการของนปช.ไม่เหมือนกับการเตรียมการของม็อบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งได้ยินมาว่าทางกทม.ใช้จ่ายเงินเพื่อนำคนมาชุมนุม รวมถึงวิทยาลัยอาชีวะขู่นักศึกษาว่า ถ้าไม่มาชุมนุมจะถูกหักคะแนน อย่าลืมว่าถ้าไม่ได้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย กิจการอาชีวศึกษาจะไม่มีอยู่จนทุกวันนี้ เพราะที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ไม่สนับสนุนให้มีอาชีวศึกษา อาจารย์ที่กำลังเกณฑ์นักเรียนอาชีวะมาร่วมให้รู้ไว้ด้วยว่า พรรคนี้เป็นคนประหารอาชีวะหมดทุกโรงเรียน หากมีการเกณฑ์นักศึกษาในทางที่ไม่ถูกต้อง นักศึกษาก็มีสิทธิ์ต่อต้าน รวมไปถึงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดี ที่ออกมาพูดอะไรมากมาย และเป็นคนช่วยร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ขอให้กลับไปดูมหาวิทยาลัยของตนเองก่อน เพราะมีอันดับที่ 600 ต่ำกว่าอันดับมหาวิทยาลัยในอาเซียน อยากให้กลับไปแข่งขันในเวทีโลกจะดีกว่า" ประธานนปช.กล่าว


นางธิดากล่าวอีกว่า การชุมนุมของกลุ่มที่จ้องล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งนั้น ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์อีกครั้งว่า พลังอนุรักษนิยมล้าหลังกับพลังประชาธิปไตยก้าวหน้าสังคมไทยจะเลือกสนับสนุนฝ่ายไหน เพราะขณะนี้หลายฝ่ายไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น


"ในวันที่ 24 พ.ย. นปช.ต้องการสื่อสารถึงสังคมไทยทั้งหมด ไม่ใช่สื่อสารด้านเดียวเหมือนอนุรักษนิยมล้าหลัง เราจะแสดงตัวตนของผู้พิทักษ์ระบอบประชาธิปไตย ใครที่ต้องการระบอบประชาธิปไตย ไม่จำเป็นต้องเป็นคนเสื้อแดง แต่ขอให้มาชุมนุมกันมากๆ ไม่ได้มาด้วยการจ้าง เราต้องการยืนยันว่ารัฐสภาและรัฐบาลยังดำรงอยู่ ไม่ได้ถูกประหารโดยศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงป.ป.ช. เพราะเราจะพิทักษ์จนถึงที่สุด นปช.ต่อต้านรัฐประหารทุกรูปแบบ แต่ครั้งนี้เป็นการรัฐประหารไม่เงียบ เพราะประชาชนรู้ทั้งประเทศ เป็นการรัฐประหารโดยใช้ศาลรัฐธรรมนูญ" นางธิดากล่าว


ด้านนายจตุพรกล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้นัดหมายอย่างเร่งด่วน หลายคนเป็นห่วงว่า นปช.จะระดมคนได้ทันและมากพอสู้กับม็อบที่ราชดำเนินหรือไม่ ถ้าคนไม่เท่ากัน คนเสื้อแดงจะเสียอะไรบ้าง ตนเรียนว่าต้องน้อมรับความเป็นจริงว่านปช.เพิ่งตัดสินใจที่จะชุมนุม แต่โลกแห่งความจริงคือ ม็อบที่ราชดำเนินต้องมีจำนวนคนมากกว่านปช. แต่การที่มีคนมาก เพราะไประดมหลายสัปดาห์ ระดมทุกสิ่งทุกอย่าง และเป็นเหตุให้เราไม่กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะเห็นว่าคนมากกว่าเรา ซึ่งถ้าเราคิดแบบนั้น เราไม่ได้เป็นคนเสื้อแดง เพราะถ้าเหลือเพียงหนึ่งคนเราก็พร้อมที่จะสู้


นายจตุพรกล่าวอีกว่า ถ้าเรารู้สึกว่าจะเสียหน้าในวันแรก เพราะพรรคประชาธิปัตย์คนมากกว่า ปล่อยให้ปู้ยี่ปู้ยำบ้านเมือง วันนี้ก็ประชิดทำเนียบรัฐบาล แม้แต่ข่าวการตัดน้ำ ตัดไฟ สอดคล้องกับคำแถลงของป.ป.ช. หลังจากศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยที่มาของส.ว. เพราะระบุชัดเจนว่า กระบวนการถอดถอน และดำเนินการกับประธานสภา และสมาชิก 312 คนนั้น ต้องใช้ระยะเวลาในการไต่สวน และคำวินิจฉัยของศาล ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการถอดถอน การดำเนินคดีกับส.ส. ซึ่งมีขบวนการต่างๆ มาก ถ้าเป็นกระบวนการตามปกติจะใช้เวลาเป็นปี แต่เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ป.ป.ช.ก็เปลี่ยนท่าทีใหม่ บอกว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร นัดประธานสภา ประธานวุฒิสภา เข้าไต่สวนในวันที่ 26 พ.ย.นี้ ทั้งที่รู้ว่าในวันนั้นสภาได้บรรจุระเบียบอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เร่งเพื่อให้ทันกับที่นายสุเทพบอกไว้ว่าจะปิดฉากทุกอย่างภายในสิ้นเดือนพ.ย.นี้

"หากเรารอให้พี่น้องเกี่ยวข้าวเสร็จก่อน เราจะไม่เหลือประชาธิปไตย เรามีบทเรียนในปี 2553 แล้ว เราเหลืออยู่ไม่กี่คนยังพลิกสถานการณ์ต่างๆ ได้ เราไม่อาจยอมจำนนให้นายสุเทพยึดครองประเทศไทย กลายเป็นวีรบุรุษ ในวันพรุ่งนี้จะอย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าจุดเริ่มต้นในวันพรุ่งนี้ ถ้ามาอย่างพร้อมเพรียงเราก็สู้กันได้ แต่ผมเป็นคนไม่ประมาท เราจะเริ่มต้นในจำนวนที่น้อยกว่า แต่ในวันที่ 25-26 พ.ย. เราจะมีจำนวนคนที่มากกว่า แต่พรรคประชาธิปัตย์จะเริ่มต้นที่คนมากกว่า แล้วค่อยๆ ลดลงๆ แต่ขนาดเราจะเพิ่มขึ้น แค่เราไม่ยินยอมให้ฆาตกรล้มล้าง ทำลายระบอบประชาธิปไตย และรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งได้" นายจตุพรกล่าว


นายจตุพรกล่าวต่อว่า ถ้าเราไม่ชุมนุมในวันพรุ่งนี้ทิศทางของสังคมจะไปทิศทางเดียว แต่ถ้านปช.ชุมนุมที่ราชมังคลาฯ จะเป็นตัวสร้างความสมบูรณ์ถ่วงดุลอำนาจ เชื่อว่าใน วันต่อๆ ไปการขับเคลื่อนทั้งหมดก็จะอยู่ในมือคนเสื้อแดง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น นปช.จะยืนหยัดลากฆาตกรขึ้นสู่ศาลให้ได้ ฉะนั้น คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นการปักลิ่มเอาไว้ก่อน ทั้งที่ไม่มีอำนาจหน้าที่วินิจฉัย การยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก่อนบรรจุระเบียบวาระ จะต้องพิมพ์ครั้งสุดท้ายเพื่อส่งไปยังสมาชิก ยังแก้ไขได้ทุกขั้นตอน ถ้าเห็นว่าไม่ถูกต้องและจำเป็นต้องแก้ไขอีก เมื่อบรรจุเข้าที่ประชุมสภาแล้ว ยังขอมติที่ประชุมแก้ไขได้อีกจากต้นร่างเดิม คำวินิจฉัยของประธานถือเป็นเด็ดขาด แต่ศาลบอกว่าคำวินิจฉัยที่เด็ดขาดคือของศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนการกดบัตรแทนกัน สภามีข้อบังคับตรวจสอบ การกดบัตรแทนไม่ใช่เรื่องของศาล ไม่ใช่อำนาจศาล

ส่วนความเคลื่อนของกลุ่มนปช.ในต่างจังหวัด ที่จ.นครราชสีมา นายอนุวัฒน์ ทินราช ประธานนปช.ภาคอีสาน และประธานนปช.นครราชสีมา เปิดเผยว่า นปช.อีสานจะเดินทางไปร่วมชุมนุมกับมวลชนคนเสื้อแดงทั่วประเทศ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 24 พ.ย. โดยเตรียมรถบัสปรับอากาศจอดรอรับ เพื่อรองรับคนเสื้อแดงที่จะไปร่วมชุมนุมตามสถานที่ต่างๆ คาดมีผุ้ชุมนุมไม่ต่ำกว่า 30,000 คน


ที่จ.อุดรธานี นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร จัดเวทีปราศรัยบริเวณสนามทุ่งศรีเมืองอุดรธานี เพื่อให้คนเสื้อแดงมาร่วมชุมนุมและปราศรัยโจมตีการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อครั้งเป็นรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการสร้างโรงพักทั่วประเทศที่ปล่อยให้รกร้าง และอีกหลายโครงการ รวมทั้งไม่เห็นด้วยกับศาลรัฐธรรมนูญ ที่วินิจฉัยที่มาสว.

ที่จ.เชียงใหม่ กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 นำ โดยนายวรวุฒิ รุจนาภินันท์ แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 นำสมาชิกและกลุ่มคนเสื้อแดง 200 คน แห่รถเครื่องเสียงไปตามถนนรอบคูเมืองเชียงใหม่ จากนั้นซื้อโลงศพและพวงหรีด จำนวนหนึ่ง โดยเขียนชื่อระบุ "ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ" ใส่ลงไปในโลงศพ ก่อนขึ้นรถแห่ไปยังลานอเนกประสงค์ข่วงประตูท่าและจุดไฟเผา จากนั้นปราศรัยโจมตีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมให้เตรียมเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เข้ากรุงเทพฯ


นายวรวุฒิเปิดเผยว่า คนเสื้อแดงเชียงใหม่และภาคเหนือ ทยอยกันเดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยคาดว่าจะลงไปปักหลักอย่างน้อย 3 วันเป็นอย่างต่ำ และรอดูสถานการณ์


ที่จ.ปทุมธานี แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี ประสานทุกอำเภอให้นำคนเสื้อแดงเข้ากรุงเทพฯ โดยเตรียมรถบัสไว้ไม่ต่ำกว่าร้อยคัน และรถเมล์อีกจำนวนหนึ่ง เพื่อไปพบกันที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งคาดว่ามี ผู้ชุมนุมไม่ต่ำกว่า 20,000 คน