เวที "รัฐ ถูกประหาร โดยศาลรัฐธรรมนูญ " ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน 25 พ.ย. 2556 (ชมคลิป)



ทีมข่าว นปช.

26 พฤศจิกายน 2556



เมื่อวานนี้ เวที วันจันทร์ ที่ 25 พฤศจิกายน 2556 นปช.ได้ปราศรัยบนเวที"รัฐ ถูกประหาร โดยศาลรัฐธรรมนูญ " ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก กรุงเทพฯ นำโดยอ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานนปช. คุณจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ และแกนนำนปช.ส่วนกลาง ร่วมทั้งบรรดา ส.ส.พรรคเพื่อไทย ต่างขึ้นสลับกันปราศรัยบนเวที เพื่อปราศรัย และวิเคราะห์สถานการณ์การชุมนุมของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่นำมวลชนเข้ายึดสถานที่ราชการต่าง ๆ พร้อมทั้งตัดน้ำตัดไฟ พร้อมทั้งแกนนำนปช.ได้แถลงการณ์ประณามการกระดังกล่าวของนายสุเทพ ถือว่าเป็น "กบฎ" ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย


แถลงการ นปช. แดงราชมังคลา 25 11 56


เมื่อเวลาเวลา 18.05 น. อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ คุณจตุพร พรหมพันธุ์ พร้อมแกนนำนปช.ส่วนกลางร่วมกันขึ้นแถลงท่าทีบนเวที โดย แถลงว่า สถานการณ์เริ่มเข้มข้นยกระดับไปอีกขึ้นหนึ่ง ถึงขนาด นายสุเทพ นำมวลชนเข้ายึดกระทรวงการคลัง กรมประชาสัมพันธ์ ตัดน้ำตัดไฟ ซึ่งจะนำไปสู่วิกฤติทางการเมือง นปช. จึงมีท่าทีต่อสถานการณ์ดังกล่าวดังนี้

1.เราขอประณามนายสุเทพ เทือกสุบรรณ พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำมวลชนที่ปฏิบัติตัวเข้าข่าบการก่อการร้าย และการก่อกบฎในราชอาณาจัก ที่เข้าข่ายกระทำผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตตรา 215 - 216 ต้องโทษ 3 - 5 ปี

2.รัฐบาลต้องจัดการผู้ละเมิดกฎหมายที่นำมวลชนเข้ายึดสถานที่ราชการ ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของราชการและเจ้าหน้าที่รัฐเด็ดขาด

3.ปฏิบัติการทั้งหมดเราถือว่าเป็นการโค่นระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่โค่นระบอบทักษิณ หรือการล้มรัฐบาลและ

4.ถือว่าเป็นภาระหน้าที่ของประชาชนไทยท่ต้องร่วมกันต่อต้านขัดขวางและหยุดยั้งการทำลายประเทศไทยทั้งทางเศรษฐกิจการเมือง และสังคม เนื่องจากการนำของนายสุเทพ ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเมืองการปกครองประเทศให้ถอยหลัง อันเนื่องมาจากการไม่ยอมรับความพ่ายแพ้จากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย


อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานนปช.






















นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยอ่านแถลงการณ์วิปรัฐบาล เกี่ยวกรณีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ในประเด็นการแก้ไขที่มาของสมาชิกวุฒิสภา ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาคำวินิจฉัยดังกล่าว พร้อมข้อเท็จจริงตามรัฐธรรมนูญ แล้วพบว่าวันที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัย อยู่ระหว่างการเปิดสมัยประชุมสภาทั่วไป ซึ่งตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 131 วรรค 3 หากสมาชิกวุฒิสภา หรือสภาผู้แทนราษฎร ถูกฟ้องไม่ว่าจะนอก หรือในสมัยประชุม ศาลจะพิจารณาคดีนั้นระหว่างสมัยประชุมสภามิได้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากสภาก่อน

ทั้งนี้ การที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของ 4 สมาชิวุฒิสภา และมีคำวินิจฉัยในช่วงเวลาดังกล่าว จึงถือว่าศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีอำนาจพิจารณาคำร้องของผู้ร้องทั้ง 4 และคำสั่งที่เกิดขึ้นถือ เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย คำสั่งดังกล่าวจึงเป็น "โมฆะ"