ณัฐวุฒิตัดสินใจโหวตสวนมติพรรคไม่เอานิรโทษสุดซอย รับเป็นสถานการณ์ที่แหลมคมระหว่างนปช.กับเพื่อไทย
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ในฐานะแกนนำนปช. กล่าวในรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ทางสปริงนิวส์ ถึง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมกับประชาชนทุกสีเสื้อ แต่ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมผู้สั่งการไม่ว่าฝ่ายรัฐ หรือแกนนำผู้ชุมนุมฝ่ายต่างๆ ที่ถูกกล่าวหาว่าทำให้เกิดการเสียชีวิตและทรัพย์สิน จึงควรจะไปพิสูจน์กันในกระบวนการยุติธรรม
ส่วนการที่พรรคเพื่อไทยไม่เปิดให้ส.ส.ฟรีโหวตก็จะโหวตตามจุดยืนที่ประกาศและยืนหยัดกับประชาชนตลอด จึงไม่รู้สึกว่าพรรคออกมติมาหักดิบอะไร และก็บอกกับสมาชิกพรรค และที่ประชุมพรรคว่าตนไม่สามารถปฏิบัติเป็นอย่างอื่นได้ ส่วนสถานะจะเป็นอย่างไร ก็พร้อมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องชิงชังอาฆาตแค้นหรือตามล่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และยินดีหากมวลชนทุกฝ่ายทุกสีเสื้อได้อานิสงค์ และยินดีที่ผลพวงของการรัฐประหาร ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้กลับมาพิสูจน์ตัวเอง
ทุกอย่างที่จะเกิดขึ้น ไม่ได้ท้าทายมติพรรค และสมาชิกพรรคได้บอกกล่าวสมาชิกว่าอย่าว่าแต่ยกมือ แม้แต่ชีวิตก็ยกให้ เพียงแต่เรื่องนี้เป็นจุดยืน จำเป็นต้องบอกกล่าวที่ประชุมพรรค และคงต้องปฏิบัติเช่นนี้ ผมไม่ได้รู้สึกโดดเดี่ยว เพราะทุกคนยังเป็นพี่น้อง ผมเคารพในมติพรรค เพียงแต่เมื่อตัดสินใจมายืนตากฝน ก็ไม่ต้องกลัวความเหน็บหนาว และยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าใครจะไม่ยกมือบ้างถ้ามองจากฝ่ายเดียว
"นี่เป็นสถานการณ์ที่แหลมคมระหว่างเพื่อไทยกับนปช. ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หากไม่ประคับประคองทำความเข้าใจดีๆ ผลกระทบที่เกิดขึ้นข้างหน้าอาจจะใหญ่ได้ และคิดว่าเพื่อนสมาชิกคงเข้าใจว่า หมากกระดานนี้เราเป็นฝ่ายเดินอยู่ฝ่ายเดียว ที่เดินเข้าฮอตได้เลย แต่แท้จริงหมากกระดานนี้มีคนเดินสองฝ่าย คนที่เฝ้ามองก็จะเห็นหมด หากขบวนฝ่ายประชาธิปไตยเดินแล้วพลาดท่าเสียทีอาจถูกกิน 3 ต่อแล้วเข้าฮอตเลย ผมยืนยันว่าทุกอย่างที่พูดแสดงออกทำด้วยความหวังดี แต่ยังมีสถานการณ์แวดล้อมที่อาจมีการผสมโรงระหว่างเส้นทางเดินของกฎหมายฉบับนี้ ผมไม่ได้ห่วงว่ารัฐบาลจะไปลงมือกับผู้ชุมนุม แต่ฝ่ายที่ออกมาอาจทำให้เกิดสถานการณ์ที่ไม่พึงปรารถนา" นายณัฐวุฒิ กล่าว
ส่วนการเร่งเครื่องนิรโทษกรรมส่งผลบวกหรือลบกับรัฐบาล นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า คิดว่ารัฐบาลบริหารผ่านมา 2 ปี สถานการณ์ถ้ามองในมุมรัฐบาล ไม่ได้เข้าสู่ช่วงวิกฤตหรือซอยตัน ซึ่งรัฐบาลทุกชุดก็เป็นแบบนี้ โดยตัวของรัฐบาล นายกฯก็ยังมีวิธีการ กลยุทธ์เชิงบริหารที่เดินหน้าไปได้ แต่ภาพรวมทั้งหมดจะส่งผลต่อรัฐบาลหรือไม่เป็นสิ่งที่เป็นห่วง
ที่มา โพสต์ทูเดย์