ธิดาเย้ยม็อบต้านทักษิณแปรพักตร์ - จตุพรแฉปชป.ชักใยแช่แข็ง

ข่าวสด 13 ตุลาคม 2556


ธิดาเย้ยม็อบต้านทักษิณแปรพักตร์ - จตุพรแฉปชป.ชักใยแช่แข็ง

วันที่ 12 ต.ค. เมื่อเวลา 16.00 น. ที่อาคาร 52 ปี กรมอาชีวศึกษา วิทยาลัยเทคนิคดอนเมือง เขตดอนเมือง กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) จัดเวทีปราศรัยภายใต้ชื่อ เวทีสุภาพชน คนรักประชาธิปไตย
 โดยมีนางธิดา โตจิราการ ประธานนปช. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช.จำนวนมากร่วมเวที โดยมีตำรวจจากสน.ดอนเมือง มาดูแลความสงบเรียบร้อย ท่ามกลางคนเสื้อแดงประมาณ 300 คน

นางธิดาปราศรัยว่า สถานการณ์ขณะนี้แม้กลุ่มอำมาตย์จะวางแผนเยี่ยมยอดแค่ไหนเพื่อล้มระบอบทักษิณ แต่อยากบอกว่าไม่มีระบอบทักษิณ มีแต่ระบอบประชาธิปไตย และมีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และประชาชนอยู่ในระบอบประชาธิปไตย ฉะนั้นพวกที่ออกมาต่อต้านระบอบทักษิณเหมือนการชกลม ซึ่งกลุ่มนี้นั้นนับวันจะเหลือน้อยลง และหันมาอยู่กลุ่มคนเสื้อแดงมากขึ้น เพราะคนเสื้อแดงยอมรับในระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจเป็นของประชาชน

ทั้งนี้ ม็อบเป็นเพียงปัญหาย่อยที่จะสร้างปัญหาให้กับรัฐบาล เพราะปัญหาหลักอยู่ที่องค์กรอิสระ และตุลาการ อย่างไรก็ตาม เป้าหมายหลักของคนเสื้อแดงยังอยู่ที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมนักการเมือง

ด้านนายจตุพรปราศรัยว่า สถานการณ์ขณะนี้คนเสื้อแดงต้องเตรียมพร้อมและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อย่าหวั่นไหว ส่วนการชุมนุมที่แยกอุรุพงษ์ ที่มีนักศึกษาม.รามคำแหงเป็นแกนนำนั้น นักศึกษาเหล่านี้มีรุ่นพี่ทำงานอยู่ศาลาว่าการกทม. สังกัดพรรคประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลัง ขอให้คนเสื้อแดงอย่าวิตก เพราะฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลกำลังอ่อนแออย่างหนัก พรรคประชาธิปัตย์เปิดปราศรัยกว่า 70 เวที มีคนร่วมฟังแค่ 2 พันคนเท่านั้น

นายจตุพรกล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งทำงานและแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างหนัก พร้อมๆ กับการเร่งแก้กฎหมายที่เป็นปัญหาและขัดกับหลักการประชาธิปไตย และในโอกาสที่เราเป็นรัฐบาลนั้นต้องรีบแก้ให้หมด ทั้งกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.ต่างๆ รวมทั้งการออกกฎหมายที่จะทำให้ประเทศไทยเจริญรุดหน้า ทั้งเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท รวทั้งเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทที่มาบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานประเทศ