ปาฐกถาของ ผู้นำประเทศสองคน โทนี่แบล์ อาร์ติเซลี และพริสซีล่าเฮย์ ที่ทำงานองค์กรสากลในเรื่องการแก้ความขัดแย้ง
สองท่านแรก ผมไม่ทันได้ฟัง ผมได้ทันฟังคนที่สาม พริสซีล่าเฮย์ผมมีความเห็นบางข้อดังนี้
1.พริสซีล่าเฮย์ กล่าวถึงการนิรโทษ ในทำนองว่า อาชญากรรมในเรื่องการเผานั้นทางสากลยอมรับไม่ได้ หรือ “เรื่องเผานั้น ทางสากลถือว่านิรโทษไม่ได้”
อันนี้ พริสซีล่าเฮย์ ต้องตอบนะครับว่า นี่เป็นทัศนะส่วนตัวของคุณเท่านั้น ใช่หรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้น กลายเป็นคุณกล่าวเท็จในการแสดงความเห็นในวันนี้ เพราะ ใน รวันดา ไม่ว่า ทุซซี่หรือฮูตู ล้วนแต่มีการกระทำในการ “เผา” ทั้งสิ้น แล้วทำไมใน รวันดา “นิรโทษทุกฝ่ายที่ดำเนินอาชญกรรมเผาทั้งหมด” เล่าครับ นี่อันตรายมาก เพราะเนียนมากในการพูด
ทำให้ผู้ฟังอาจจะหลงเคลิ้มไปกับพริสซีล่าด้วย เพราะเฮย์แยกเรื่อง “ฆ่าและเผา” ออกจากกัน เฮย์ว่า “เผา” นิรโทษไม่ได้ แต่ “ฆ่า” นิรโทษได้ นี่ เฮย์กำลัง “ช่วยคนฆ่า” ใช่หรือเปล่า
ผมขอถามเฮย์และคนที่เห็นด้วยกับเฮย์ว่า
เฮย์ไม่ได้แยกระหว่าง “ประชาชนผู้รับชะตากรรม กับพวกผู้นำทรราชย์ที่ฆ่าฟันประชาชน” ถ้าเฮย์ วางน้ำหนักเฉพาะการกระทำเท่ากับยอมให้ “พวกสั่งฆ่า”ประชาชนได้รับนิรโทษ ใช่หรือไม่ครับ เนียนมากครับ
ผมเคยพบเฮย์หลายปีก่อน ภายหลังออกจากคุก เฮย์ถามว่า ถ้านิรโทษหมด ผมยอมรับไหม ผมบอก ผมไม่ยอมครับ เพราะถ้านิรโทษหมด “ฆาตกรที่สั่งฆ่าประชาชนจะหลุดหมดครับ” แล้วก็จะมีกลุ่มทรราชย์ใหม่ใช้ทหารมาฆ่าประชาชนด้วยอาวุธสงครามกลางถนนอีก ชีวิตผมเห็นต่อหน้าต่อตามาเจ็ดหนแล้ว ต้องไม่มีหนที่แปดอีก เฮย์อึ้งไปเลยครับ
2.พิธีกร จงใจในการเชิญ ตัวแทนประชาธิปัตย์ ขึ้นแสดงความเห็น นี่เป็นเรื่องไม่เหมาะสม
อย่างยิ่ง เพราะเวทีนี้เป็นเวทีรับฟัง ผู้นำระดับโลกในเรื่องการแก้ความขัดแย้งที่ตัวท่านได้มีส่วนร่วมแก้แล้วได้ผล
ซึ่งในมุมนี้ก็ไม่ควรเชิญ “พริสซีล่าเฮย์” เข้าร่วมด้วยเลย เพราะเฮย์ไม่ใช่ผู้นำประเทศที่เคยมีประสบการณ์ตรงในการแก้ปัญหาความขัดแย้งรุนแรงให้ยุติลงได้แต่เชิญเข้าร่วมด้วยเพราะอะไรไม่ทราบ (เราไม่ปฎิเสธการฟังความเห็นของคนครับ แต่ไม่ใช่ในเวทีนี้ ควรจะเป็นเวทีอื่น)
เพราะผู้จัดรู้ทัศนะของพริสซีล่าเฮย์แล้วอย่างงั้นหรือเปล่าว่า จะมาพูดให้เป็นประโยชน์กับ คณะของ อ.คณิต ณ.นคร ใช่หรือไม่ แม้ว่าเฮย์ไม่ได้เกี่ยวกับผลงานของสมชาย
แต่ คอป.ได้รายงานข้อสรุปของเหตุการณ์ 12 มีนา - 19 พ.ค. 53 ที่เกิดขึ้น เรื่องที่สำคัญที่สุดในข้อสรุปเท็จโดยสิ้นเชิง
ดังที่สมชายหอมลออได้กล่าวเท็จไว้ตรงข้ามกับข้อวินิจฉัยของศาล เรื่อง มีชายชุดดำวิ่งที่หน้าวัดปทุมวนารามแล้วยิงต่อสู้กับทหาร มีกองกำลังติดอาวุธยิงสู้กับทหารที่แยกเฉลิมเผ่า แล้ววิ่งเข้าไปในวัดปทุมฯยิงต่อสู้กับทหารต่อ มีรอยกระเทาะหรือบิ่นของแนวกำแพงเตี้ยกั้นบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อให้เข้าใจว่าเป็นรอยกระสุนที่ยิงต่อสู้ทหารจากในวัดปทุมฯซึ่งเท็จโดยสิ้นเชิง
เฮย์ได้ศึกษาแล้วหรือไม่ ทำไมไม่มีท่าทีในเรื่อง ข้อสรุปที่เป็นใจกลางสำคัญแต่เป็นเท็จ ซึ่งทำให้ รายงานของคอป.เป็นรายงานที่เป็นเท็จและเป็นเครื่องมือสำคัญในการใส่ร้าย “การชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อ2553” เลยสักนิด
3.หลังจากที่พิธีกรเชิญตัวแทน ปชป.ขึ้นพูด ปรากฏว่านายสุรินทร์ พิศสุวรรณ ลุกขึ้นยืนแล้วพูดในที่ประชุมว่า เขาไม่ได้เป็นตัวแทน ปชป.
เขากล่าวถูกต้องครับ ในวันนี้เขาทำงานองค์กรระหว่างประเทศองค์กรหนึ่ง ไม่ใช่เป็นตัวแทนของปชป. อย่าลืมว่า รัฐบาล ปชป.เป็นคนส่งสุรินทร์ พิศสุวรรณไปแข่งขันในตำแหน่งดังกล่าว
อาจจะมีคนโต้แย้งว่า ประเทศต่างๆเป็นคนเลือก แต่อย่าลืมว่าเรื่องระหว่างประเทศเป็นเรื่องของ มารยาทและคิวหรือลำดับที่ควรได้ รวมทั้งพวกฝ่ายด้วยนะครับ (ในอดีตที่เห็นชัดคือเป็นพวกของอเมริกาหรือโซเวียต) ในคราวนั้นเป็นโอกาสของประเทศไทยครับ สุรินทร์ก็เลยได้
แต่ระบบคิดของสุรินทร์ พิศสุวรรณ ไม่ได้ต่างไปจากระบบคิดของปชป.แม้แต่นิดเดียว สุรินทร์พูดก็คือ ปชป.พูดนั่นเอง
สุรินทร์พูดสองเรื่องในที่ประชุม คือ เขาบอกทำไมต้องรีบร้อนในเรื่องนิรโทษด้วย พูดเหมือนอภิสิทธิ์และปชป.ทุกคน และ เขาบอกว่าต้อง ถอนเรื่อง นิรโทษออกมาเสียก่อน นี่ก็ ปชป.พูดอีกเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังกล่าวหา ว่าเรื่องในเมืองไทยไม่ใช่มีแค่สองฝ่าย แต่ยังมีอีกฝ่าย คือ “ฝ่ายจากต่างประเทศ” ซึ่งก็คือ “ท่านนายกทักษิณชินวัตร” นั่นเอง
แม้ไม่ได้ระบุชื่อ แต่คนไทยทุกคนที่สนใจการเมืองก็รู้อยู่แก่ใจดีว่าหมายถึงทักษิณ ชินวัตร
เขาใช้โอกาสนี้ที่มีการถ่ายทอดสดทางช่อง11ไปทั่วไทยและทั่วโลก โจมตี “อดีตนายกทักษิณโดยไม่ออกชื่อ” และโจมตี สภาไทยในเรื่องการพิจารณา “นิรโทษกรรม” อย่างรีบร้อน เสนอให้ถอนออกมา และ โฆษณานโยบายปัจจุบันของ พวกประชาธิปัตย์
ผมไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศ คณะรัฐมนตรีรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และหลายคนที่รักความยุติธรรมในประเทศนี้และในโลกนี้ที่นั่งอยู่ในที่ประชุมนิ่งเฉยกันได้อย่างไรครับ
ทำไมพิธีกรจึงไม่เชิญอีกฝ่ายได้มีโอกาสแสดงทัศนะของตนถ่วงดุลย์กับสุรินทร์พิศสุวรรณบ้างครับ ใครจะรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นครับ
นพ.เหวง โตจิราการ 2 กันยายน2556
สองท่านแรก ผมไม่ทันได้ฟัง ผมได้ทันฟังคนที่สาม พริสซีล่าเฮย์ผมมีความเห็นบางข้อดังนี้
1.พริสซีล่าเฮย์ กล่าวถึงการนิรโทษ ในทำนองว่า อาชญากรรมในเรื่องการเผานั้นทางสากลยอมรับไม่ได้ หรือ “เรื่องเผานั้น ทางสากลถือว่านิรโทษไม่ได้”
อันนี้ พริสซีล่าเฮย์ ต้องตอบนะครับว่า นี่เป็นทัศนะส่วนตัวของคุณเท่านั้น ใช่หรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้น กลายเป็นคุณกล่าวเท็จในการแสดงความเห็นในวันนี้ เพราะ ใน รวันดา ไม่ว่า ทุซซี่หรือฮูตู ล้วนแต่มีการกระทำในการ “เผา” ทั้งสิ้น แล้วทำไมใน รวันดา “นิรโทษทุกฝ่ายที่ดำเนินอาชญกรรมเผาทั้งหมด” เล่าครับ นี่อันตรายมาก เพราะเนียนมากในการพูด
ทำให้ผู้ฟังอาจจะหลงเคลิ้มไปกับพริสซีล่าด้วย เพราะเฮย์แยกเรื่อง “ฆ่าและเผา” ออกจากกัน เฮย์ว่า “เผา” นิรโทษไม่ได้ แต่ “ฆ่า” นิรโทษได้ นี่ เฮย์กำลัง “ช่วยคนฆ่า” ใช่หรือเปล่า
ผมขอถามเฮย์และคนที่เห็นด้วยกับเฮย์ว่า
เฮย์ไม่ได้แยกระหว่าง “ประชาชนผู้รับชะตากรรม กับพวกผู้นำทรราชย์ที่ฆ่าฟันประชาชน” ถ้าเฮย์ วางน้ำหนักเฉพาะการกระทำเท่ากับยอมให้ “พวกสั่งฆ่า”ประชาชนได้รับนิรโทษ ใช่หรือไม่ครับ เนียนมากครับ
ผมเคยพบเฮย์หลายปีก่อน ภายหลังออกจากคุก เฮย์ถามว่า ถ้านิรโทษหมด ผมยอมรับไหม ผมบอก ผมไม่ยอมครับ เพราะถ้านิรโทษหมด “ฆาตกรที่สั่งฆ่าประชาชนจะหลุดหมดครับ” แล้วก็จะมีกลุ่มทรราชย์ใหม่ใช้ทหารมาฆ่าประชาชนด้วยอาวุธสงครามกลางถนนอีก ชีวิตผมเห็นต่อหน้าต่อตามาเจ็ดหนแล้ว ต้องไม่มีหนที่แปดอีก เฮย์อึ้งไปเลยครับ
2.พิธีกร จงใจในการเชิญ ตัวแทนประชาธิปัตย์ ขึ้นแสดงความเห็น นี่เป็นเรื่องไม่เหมาะสม
อย่างยิ่ง เพราะเวทีนี้เป็นเวทีรับฟัง ผู้นำระดับโลกในเรื่องการแก้ความขัดแย้งที่ตัวท่านได้มีส่วนร่วมแก้แล้วได้ผล
ซึ่งในมุมนี้ก็ไม่ควรเชิญ “พริสซีล่าเฮย์” เข้าร่วมด้วยเลย เพราะเฮย์ไม่ใช่ผู้นำประเทศที่เคยมีประสบการณ์ตรงในการแก้ปัญหาความขัดแย้งรุนแรงให้ยุติลงได้แต่เชิญเข้าร่วมด้วยเพราะอะไรไม่ทราบ (เราไม่ปฎิเสธการฟังความเห็นของคนครับ แต่ไม่ใช่ในเวทีนี้ ควรจะเป็นเวทีอื่น)
เพราะผู้จัดรู้ทัศนะของพริสซีล่าเฮย์แล้วอย่างงั้นหรือเปล่าว่า จะมาพูดให้เป็นประโยชน์กับ คณะของ อ.คณิต ณ.นคร ใช่หรือไม่ แม้ว่าเฮย์ไม่ได้เกี่ยวกับผลงานของสมชาย
แต่ คอป.ได้รายงานข้อสรุปของเหตุการณ์ 12 มีนา - 19 พ.ค. 53 ที่เกิดขึ้น เรื่องที่สำคัญที่สุดในข้อสรุปเท็จโดยสิ้นเชิง
ดังที่สมชายหอมลออได้กล่าวเท็จไว้ตรงข้ามกับข้อวินิจฉัยของศาล เรื่อง มีชายชุดดำวิ่งที่หน้าวัดปทุมวนารามแล้วยิงต่อสู้กับทหาร มีกองกำลังติดอาวุธยิงสู้กับทหารที่แยกเฉลิมเผ่า แล้ววิ่งเข้าไปในวัดปทุมฯยิงต่อสู้กับทหารต่อ มีรอยกระเทาะหรือบิ่นของแนวกำแพงเตี้ยกั้นบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อให้เข้าใจว่าเป็นรอยกระสุนที่ยิงต่อสู้ทหารจากในวัดปทุมฯซึ่งเท็จโดยสิ้นเชิง
เฮย์ได้ศึกษาแล้วหรือไม่ ทำไมไม่มีท่าทีในเรื่อง ข้อสรุปที่เป็นใจกลางสำคัญแต่เป็นเท็จ ซึ่งทำให้ รายงานของคอป.เป็นรายงานที่เป็นเท็จและเป็นเครื่องมือสำคัญในการใส่ร้าย “การชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อ2553” เลยสักนิด
3.หลังจากที่พิธีกรเชิญตัวแทน ปชป.ขึ้นพูด ปรากฏว่านายสุรินทร์ พิศสุวรรณ ลุกขึ้นยืนแล้วพูดในที่ประชุมว่า เขาไม่ได้เป็นตัวแทน ปชป.
เขากล่าวถูกต้องครับ ในวันนี้เขาทำงานองค์กรระหว่างประเทศองค์กรหนึ่ง ไม่ใช่เป็นตัวแทนของปชป. อย่าลืมว่า รัฐบาล ปชป.เป็นคนส่งสุรินทร์ พิศสุวรรณไปแข่งขันในตำแหน่งดังกล่าว
อาจจะมีคนโต้แย้งว่า ประเทศต่างๆเป็นคนเลือก แต่อย่าลืมว่าเรื่องระหว่างประเทศเป็นเรื่องของ มารยาทและคิวหรือลำดับที่ควรได้ รวมทั้งพวกฝ่ายด้วยนะครับ (ในอดีตที่เห็นชัดคือเป็นพวกของอเมริกาหรือโซเวียต) ในคราวนั้นเป็นโอกาสของประเทศไทยครับ สุรินทร์ก็เลยได้
แต่ระบบคิดของสุรินทร์ พิศสุวรรณ ไม่ได้ต่างไปจากระบบคิดของปชป.แม้แต่นิดเดียว สุรินทร์พูดก็คือ ปชป.พูดนั่นเอง
สุรินทร์พูดสองเรื่องในที่ประชุม คือ เขาบอกทำไมต้องรีบร้อนในเรื่องนิรโทษด้วย พูดเหมือนอภิสิทธิ์และปชป.ทุกคน และ เขาบอกว่าต้อง ถอนเรื่อง นิรโทษออกมาเสียก่อน นี่ก็ ปชป.พูดอีกเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังกล่าวหา ว่าเรื่องในเมืองไทยไม่ใช่มีแค่สองฝ่าย แต่ยังมีอีกฝ่าย คือ “ฝ่ายจากต่างประเทศ” ซึ่งก็คือ “ท่านนายกทักษิณชินวัตร” นั่นเอง
แม้ไม่ได้ระบุชื่อ แต่คนไทยทุกคนที่สนใจการเมืองก็รู้อยู่แก่ใจดีว่าหมายถึงทักษิณ ชินวัตร
เขาใช้โอกาสนี้ที่มีการถ่ายทอดสดทางช่อง11ไปทั่วไทยและทั่วโลก โจมตี “อดีตนายกทักษิณโดยไม่ออกชื่อ” และโจมตี สภาไทยในเรื่องการพิจารณา “นิรโทษกรรม” อย่างรีบร้อน เสนอให้ถอนออกมา และ โฆษณานโยบายปัจจุบันของ พวกประชาธิปัตย์
ผมไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศ คณะรัฐมนตรีรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และหลายคนที่รักความยุติธรรมในประเทศนี้และในโลกนี้ที่นั่งอยู่ในที่ประชุมนิ่งเฉยกันได้อย่างไรครับ
ทำไมพิธีกรจึงไม่เชิญอีกฝ่ายได้มีโอกาสแสดงทัศนะของตนถ่วงดุลย์กับสุรินทร์พิศสุวรรณบ้างครับ ใครจะรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นครับ
นพ.เหวง โตจิราการ 2 กันยายน2556