ศาลอาญากรุงเทพใต้นัดชี้อีก 2 ศพแดง 30 กันยายนนี้



ข่าวสด 29 กันยายน 2556


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 30 ก.ย. เวลา 09.00 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้นัดฟังคำสั่งไต่สวนชันสูตรพลิกศพนายจรูญ ฉายแม้น อายุ 46 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ อยู่บ้านเลขที่ 115 หมู่ 2 ต.สามขา อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ผู้ตายที่ 1 และนายสยาม วัฒนนุกูล อายุ 52 ปี ช่างซ่อมรถทัวร์ อยู่บ้านเลขที่ 79/2 หมู่ 1 ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ผู้ตายที่ 2 ถูกยิงเสียชีวิตหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ถนนดินสอ ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553

ด้านนางนวล ฉายแม้น ภรรยานายจรูญกล่าวว่า ตนพร้อมทั้งลูกสาวและญาติจะไปฟังคำสั่งศาลในวันดังกล่าวด้วย โดยที่ผ่านมาเดินทางไปฟังการไต่สวนแทบทุกนัด แม้จะไม่แน่ใจว่าคดีจะออกมาในรูปใด แต่ส่วนตัวเชื่อว่าสาเหตุการตายของสามีเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะจากการเดินทางไปชุมนุมพบเจ้าหน้าที่มีอาวุธประจำอยู่จำนวนมาก ทั้งนี้ ในวันเกิดเหตุ ตน สามี ลูกสาวและน้องสาวชุมนุมอยู่ที่แยกราชประสงค์ กระทั่งตกเย็นมีการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่บริเวณแยกคอกวัว โดยแกนนำประกาศว่ามี ผู้ชุมนุมบาดเจ็บ สามีกับเพื่อนจึงตัดสินใจเดินทางไปสมทบ โดยบอกว่าหากเดินทางไปเยอะเจ้าหน้าที่จะไม่ทำอะไร แต่ไม่ยอมให้ตนและน้องสาวเดินทางไปด้วย กระทั่งมาพบว่าถูกยิงเสียชีวิตเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะได้รับความยุติธรรม ที่ผ่านมาตนภาวนาทุกวันให้ความยุติธรรมเกิดขึ้น เพราะอยากให้ความจริงกระจ่างว่าใครทำอะไร

น.ส.กมลวรรณ ฉายแม้น ลูกสาวนายจรูญกล่าวว่า จะเดินทางไปฟังคำสั่งพร้อมกับแม่และญาติในวันที่ 30 ก.ย.ด้วย โดยคาดหวังว่าศาลจะชี้คนผิดได้ และทำให้สังคมได้รู้ความจริงว่าไม่ใช่ชายชุดดำที่เป็นผู้ก่อเหตุ แต่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ

ด้านนางบุญนำ ตาเวียง พี่สาวนายสยามกล่าวว่า ตนและญาติบางส่วนจะเดินทางมาฟังคำสั่งด้วย ส่วนตัวหวังว่าการเสียชีวิตของน้องชายจะได้รับความยุติธรรม เพราะเชื่อว่าเจ้าหน้าที่เป็นคนยิงน้องชายเสียชีวิต เนื่องจากมี เจ้าหน้าที่จำนวนมากอยู่ในซอยร.ร.สตรี วิทยา เพราะตนยืนหลบกระสุนอยู่ฝั่งตรงข้ามบริเวณร้านแมคโดนัลด์ จึงเชื่อว่ากระสุนมาจากฝั่งเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ โดยหลังเกิดเหตุตนได้ยินประกาศจากบนเวทีว่ามีชายไทยไม่ทราบชื่อเสียชีวิต แต่ไม่คิดว่าเป็นน้องชาย จนพี่สาวอีกคนไปเจอศพที่โรงพยาบาลเลยทราบว่าน้องชายถูกยิงเสียชีวิต ทั้งนี้ ยังไม่มั่นใจว่าศาลจะมีคำสั่งอย่างไร แต่หวังว่าจะได้รับความยุติธรรม

ด้านนายเจษฎา จันทร์ดี ทนายความญาติผู้ตายกล่าวว่า จากการไต่สวนในชั้นศาล พยานเบิกความสอดคล้องกับที่พนักงานอัยการยื่นคำร้องว่า สาเหตุการตายเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ เช่น พยานบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์เบิกความยืนยันว่าเห็นแสงไฟและเสียงปืนมาจากฝั่งเจ้าหน้าที่ ขณะที่ผลจากการตรวจพิสูจน์วัตถุพยาน เช่น กระสุนปืนและสถานที่เกิดเหตุ พบร่องรอยกระสุนปืนบริเวณเสาไฟฟ้า ต้นไม้ ตู้โทรศัพท์หรืออนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ที่มีทิศทางมาจากเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ฝั่งสะพานวันชาติ โดยไม่พบมีร่องรอยกระสุนอยู่บริเวณฝั่งสะพานวันชาติแต่อย่างใด