ทีมข่าว นปช.
3 สิงหาคม 2556
เมื่อเวลา 9.00 น. ณ วิทยาลัยเทคนิคดอนเมือง ได้จัดการประชุมแกนนำและผู้ประสานงานทั่วประเทศ โดยองค์กรแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือนปช. โดยมีเหล่าบรรดาแกนนำหลักของนปช.มากมายสลับกันขึ้นเวทีกล่าวกับผู้สานงานที่มาร่วมงานครั้งนี้ นำโดย อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานนปช.แดงทั้งแผ่นดิน, คุณวีระ มุสิกพงศ์, คุณจตุพร พรหมพันธ์, คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, คุณก่อแก้ว พิกุลทอง, นพ.เหวง โตจิราการ, คุณวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย, ผอ.นิสิต สินธุไพร, คุณสมหวัง อัสราษี, คุณวรชัย เหมะ, คุณอารีย์ ไกรนารา, คุณธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ, คุณยศวริศ ชูกล่อม, คุณพิเชษฐ สุขจินดาทอง ,คุณเกริกมนตรี รุจโสตถิรพัฒน์, คุณภาสกร กายสำโรง ฯลฯ ร่วมทั้งแกนนำและผู้ประสานจังหวัด จำนวน77 จังหวัดทั่วประเทศ ได้มาเข้าร่วมประชุม วิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน
และท่าทีของนปช.ในการเตรียมตัวอยู่ในที่ตั้งรอการนัดหมายหากเกิดความรุนแรงเพื่อล้มรัฐบาล ซึ่งให้ฟังการส่งสัญญาณจาก นปช.ส่วนกลาง
อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช.
ในช่วงเช้า อ.ธิดา กล่าวถึง การประชุมครั้งนี้เพื่อที่แกนนำส่วนกลางจะได้รับฟังสรุปผลการทำงานปี 55–56 ของแกนนำทั่วประเทศ และวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองของฝ่ายอำมาตย์กับฝ่ายประชาธิปไตย เพื่อสะดวกในการกระจายข่าวสารไปยังประชาชนในพื้นที่ระดับอำเภอ และตำบลอย่างทั่วถึง
ทั้งนี้จากการประเมินกลุ่มคนในระบอบอำมาตย์ที่ออกมาต่อต้านฝ่ายระบอบประชาธิปไตยส่วนใหญ่เป็นมวลชนของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่ระยะหลังจะไม่เคลื่อนมาในฐานะของกลุ่มพันธมิตรฯ โดยงานมวลชนของระบอบอำมาตย์แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือ งานมวลชนที่เกี่ยวกับหน่วยงานความมั่นคงของรัฐ ได้แก่ ม็อบแช่แข็ง ม็อบอพส. และมวลชนจากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี คงไม่อยากเอาดีงานทางสภาแล้ว แต่อยากเป็นแกนนำแข่งกับนายจตุพร และนายณัฐวุฒิ ซึ่งไม่มีทางเทียบกันได้ เพราะคำพูดเท็จไม่มีทางสู้คำพูดที่เป็นความจริงได้
ส่วนการเคลื่อนไหวในวันที่ 4 ส.ค.นี้ คงไม่ทำให้การเมืองสั่นสะเทือนหรือไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ แต่เขากำลังสร้างความชอบธรรม เราจึงไม่จำเป็นต้องไปปะทะกับเขา ตนอยากขอให้คนเสื้อแดงไม่ต้องออกมา อย่างไรก็ตามกองทัพและองค์กรอิสระยังมีบทบาทสูงมากที่จะล้มรัฐบาลนี้เพื่อให้เกิดสูญญากาศ แต่เราจะไม่ยอมให้เกิดขึ้น และจะไม่ยอมให้มีการรัฐประหารแน่นอน
แกนนำและผู้ประสานงานจากภาคต่างๆทั่วประเทศกว่า 4,000 คนเข้าร่วมการประชุม
นายแพทย์เหวง โตจิราการ
วีระกานต์ มุสิกพงศ์
จากนั้นเมื่อเวลา 13.45 น. นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า ประเทศไทยแตกแยกมานานมากแล้ว หลายคนจึงเสนอแนวคิดในการสร้างความปรองดองด้วยการเสนอกฎหมายต่างๆ ทั้งร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งหมด ล้วนแต่เป็นเจตนาดี ซึ่งไม่ตรงกับความประสงค์ของพรรคฝ่ายค้าน เขาแคลงใจว่า ทั้งหมดทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงขัดขวางทุกทาง ถึงขนาดฉีกปณิธานของพรรค ที่จะดำเนินการตามระบอบประชาธิปไตย ด้วยการผนึกกำลังนอกสภาฯ ต่อต้านระบอบทักษิณ เราต้องคิดกันให้ดีว่า ระบอบทักษิณมีจริงหรือไม่ การที่คนเสื้อแดงเกิดขึ้น และเติบโตมีเป้าหมายเพื่อต่อต้านเผด็จการ และสถาปนาระบอบประชาธิปไตย ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนไทยคนหนึ่งย่อมได้รับสิทธิเหมือนคนไทยทั้งประเทศ
คุณจตุพร พรหมพันธุ์
ต่อจากนั้นเวลา 14.00 น. คุณจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า ขณะนี้เป็นสถานการณ์ไม่ปกติ มีสภาพเหมือนก่อนเหตุการณ์ 19 ก.ย. 49 การข่าวข้อมูลไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เราเคยโชคร้ายที่เมื่อ 19 ก.ย.49 ไม่มีขบวนการของคนเสื้อแดงมาบอกความจริงเหมือนวันนี้ ไม่เช่นนั้นเหตุการณ์วันที่ 19 ก.ย. จะไม่มีทางเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเป็นตัวละครเดิมตั้งแต่ปี 48–49 มีเป้าหมายขับไล่ล้มรัฐบาลที่เขาบอกว่า เป็นระบอบทักษิณ อย่างไม่จำกัดวิธีการ ซึ่งเราไม่พร้อมที่จะอยู่ในฐานะผู้แพ้อีกต่อไป เราต้องสู้เพื่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่ต้องไม่มีระบอบอำมาตยาธิปไตยมาคั้นกลาง ซึ่งความแข็งแรงของรัฐบาล อยู่ที่ความแข็งแรงของประชาชน ไม่ใช่ความเมตตาของอำมาตย์ รัฐบาลต้องรู้ว่า มิตรที่แท้จริงคือ คนเสื้อแดง เท่านั้น รัฐบาลต้องไม่ถูกหลอกซ้ำซาก เราต้องขับเคลื่อนอย่างสุขุม ตนจึงขอให้คนเสื้อแดงอยู่ในที่ตั้ง รอฟังสัญญาณจากแกนนำ
“ประชาชนเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กของรัฐบาล จึงขอให้รัฐบาลคิดว่าเขาเป็นหุ้นส่วนของรัฐบาล อย่าผลักไสประชาชน และอย่านำไปสู่เหตุการณ์บาดเจ็บล้มตาย สูญเสียชีวิต และอิสรภาพ คนเสื้อแดงขอพูดในฐานะหุ้นส่วนชีวิตว่า ในสถานการณ์แบบนี้ต้องฟังมิตรมากกว่าศัตรู ถ้าหากฟังศัตรู รัฐบาลจะไปเร็ว ทั้งหมดเป็นความหวังดีของประชาชน”
“ประชาชนเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กของรัฐบาล จึงขอให้รัฐบาลคิดว่าเขาเป็นหุ้นส่วนของรัฐบาล อย่าผลักไสประชาชน และอย่านำไปสู่เหตุการณ์บาดเจ็บล้มตาย สูญเสียชีวิต และอิสรภาพ คนเสื้อแดงขอพูดในฐานะหุ้นส่วนชีวิตว่า ในสถานการณ์แบบนี้ต้องฟังมิตรมากกว่าศัตรู ถ้าหากฟังศัตรู รัฐบาลจะไปเร็ว ทั้งหมดเป็นความหวังดีของประชาชน”
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
ตามด้วย คุณณัฐวุฒิ ได้กล่าวว่า สถานการณ์ของรัฐบาล ช่วงครึ่งปีหลังปี ล่อแหลมที่สุด หากประคับประคองไปได้จะอยู่อีกยาว แต่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลต้องการโค่นล้มให้ได้ภายในปีนี้ แต่ฟันธงว่าแม้จะมีคนมาชุมนุม 2-3 หมื่นคนแต่ไม่สามารถล้มรัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้ อย่างไร ก็ตาม สถานการณ์ครั้งนี้วิเคราะห์ยากมาก เหมือนจิ๊กซอว์ที่ยังต่อไม่ครบ หวั่นใจว่าที่ขาดไปคือจิ๊กซอว์ที่รอให้เราเดินไปเข้าทางเขา จึงอยากขอความเป็นเอกภาพในหมู่คนเสื้อแดง ความสามัคคี และความสุขุม โดยระฆังยกที่หนึ่งดังให้เขาเดินกันไปก่อน เราไม่ต้องเข้าไปใกล้หรือสังเกตการณ์ ยกที่สองหากสถาน การณ์ต้องเคลื่อนไหวใดๆ ขอให้คนเสื้อแดงทุกกลุ่มฟังสัญญาณจากแกนนำส่วนกลาง
คุณณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า ส่วนยกที่สามหากถึงสถานการณ์ที่เขาลงมือชัดเจน เช่น องค์กรอิสระลงดาบรัฐบาล หรือมีการลุกขึ้นมาก่อ การรัฐประหาร ให้ถือปฏิบัติว่าการต่อต้านรัฐประหารเป็นหน้าที่ของเสรีชนไม่ว่าจะใส่เสื้อสีอะไร และไม่ว่าการกระทำนอกระบบจะทำให้แกนนำคนเสื้อแดงหายไปหรือไม่ ให้ถือเป็นหน้าที่ของเสรีชนที่จะปกป้องระบอบประชาธิปไตย และทางเดียวที่รัฐบาลจะเข้มแข็งคือต้องเดินไปพร้อมๆ กับประชาชน
แกนนำ นปช. ได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์จุดยืนต่อสถานการณ์ทางการเมือง
จากนั้นอ.ธิดาพร้อมแกนนำ ได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์จุดยืนต่อสถานการณ์ทางการเมือง โดยระบุว่า การอ้างเหตุผลในการเคลื่อนไหวนำประชาชนออกมาต่อต้านการเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และชูคำขวัญโค่นล้มระบอบทักษิณ เป็นเรื่องที่ขาดความชอบธรรม เพราะเนื้อหาในร่างกฎหมายดังกล่าว มุ่งนิรโทษกรรมให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ยกเว้นแกนนำและผู้สั่งการ ทั้งนี้ เห็นว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มอนุรักษ์สุดขั้ว ที่จัดการเคลื่อนไหวในเวลานี้ ล้วนแสดงออกถึงการไม่ยอมรับกระบวนการทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ไม่ยอมรับการแข่งขันอย่างเป็นธรรม และไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ตรงกันข้าม กลับใช้วิธีการอื่นเพื่อล้มล้างกระบวนการในระบอบประชาธิปไตย เพื่อให้กลุ่มตนเองขึ้นสู่อำนาจทางการเมืองการปกครอง
โดยสถานการณ์ขณะนี้ นปช.เห็นว่า อาจสุ่มเสี่ยงให้เกิดการรัฐประหารโดยกองทัพ โดยอ้างความไม่สงบจากความความขัดแย้งในประเทศ หรือทำให้เกิดการแทรกแซงและทำลายอำนาจอธิปไตยของประชาชน ด้วยการทำให้อำนาจตุลาการและองค์กรอิสระ ไม่ยึดโยงกับประชาชน อยู่ในฐานะครอบงำและสั่งการ มีบทบาทเหนืออำนาจนิติบัญญัติและอำนาจบริหาร ส่งผลให้ประเทศไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่ง นปช.ยืนยันว่า ประชาชนจะคัดค้านการทำรัฐประหารทุกรูปแบบ ไม่ว่ากองทัพหรือใช้กฎหมายและอำนาจนอกระบบ
อย่างไรก็ตาม จากการประเมินสถานการณ์แล้ว นปช.จะเตรียมพร้อมในที่ตั้งทั่วประเทศ เพื่อประเมินสถานการณ์และรอการนัดหมาย ในสถานการณ์ที่พลิกผัน หรือเกิดความรุนแรง เพื่อล้มรัฐบาล ซึ่งให้ฟังการส่งสัญญาณจาก นปช.ส่วนกลางเท่านั้น โดยระหว่างนี้ จะจัดการปรับปรุงเครือข่ายผู้ประสานงานให้เข้มแข็งทุกระดับ จัดการศึกษาในพื้นที่ ยกระดับการติดต่อสื่อสารระหว่างส่วนกลางและภูมิภาค รวมไปถึงการเตรียมพร้อมบุคลากร สถานที่และมวลชน ให้พร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ตลอดเวลา
แนะนำตัวผู้ประสานงานจังหวัดและภาคต่างๆ
รวมภาพบรรยากาศในงาน
ช่วงเที่ยงแจกอาหารกลางวัน
รวมภาพบรรยากาศในงาน
ช่วงเข้าตรู่ก่อนการลงทะเบียนเข้างานประชุมแกนนำ
การลงทะเบียนตามภาคต่าง ๆ
เหล่าบรรดาแกนนำหลักทักทายแกนนำจากทั่วประเทศ
แกนนำ นปช.จากจังหวัดต่าง ๆ ที่มาร่วมประชุมกันอย่างคับคั่ง
ผลงานหนังสือบทความและ วีทีอาร์ "ยิงนกในกรง" ของ อ.ธิดา ที่ นปช.นำมาจำหน่ายในงาน
ป้ายแบคดรอปของงานนี้
ช่วงเที่ยงแจกอาหารกลางวัน
แกนนำจากทั่วประเทศกว่า 4 พันคน
แกนนำหลักที่มาในงานนี้
เต้นท์สินค้าต่าง ๆ ที่จำหน่ายภายนอกอาคาร
จากนั้นช่วงพักกลางวันต่อด้วยกิจกรรมพบปะพูดคุยแกนนำในจังหวัดของแต่ละภาค
และแบ่งกลุ่มกันเลือกตั้งตัวแทนผู้ประสานงานจังหวัด เป็นตัวแทนขึ้นปราศรัยบนเวที
แกนนำและผู้ประสานนปช.กรุงเทพมหานคร
แกนนำและผู้ประสานงานภาคกลาง
แกนนำและผู้ประสานงานภาคตะวันออก
แกนนำและผู้ประสานงานภาคเหนือ
แกนนำและผู้ประสานงานภาคอีสาน