หนังสือ เรียกร้องให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) :

Facebook นพ.เหวง โตจิราการ
21 สิงหาคม 2556
ยกเลิก รายงานประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และรายงานผลการปฎิบัติงานประจำปี 2553-2554 และจัดทำใหม่ให้ถูกต้องตามความเป็นจริง
รัฐสภา อู่ทองใน กทม.
21 สิงหาคม 2556
เรื่อง เรียกร้องให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ยกเลิก รายงานประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนใน
ประเทศไทย และ รายงานผลการปฎิบัติงานประจำปี 2553-2554 และจัดทำใหม่ให้ถูกต้องตามความเป็นจริง
เรียน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.)
อ้างถึง รายงานประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในปะเทศไทย และรายงานผลการปฎิบัติงานประจำปี 2553-2554
ด้วยในรายงานฉบับที่อ้างถึงข้างต้น มีข้อความอันเป็นการกล่าวหาด้วยข้อกล่าวหาการชุมนุมของประชาชนในชื่อกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)แดงทั้งแผ่นดิน อย่างฉกาจฉกรรจ์ ที่เป็นเท็จโดยสิ้นเชิง และไม่ได้ตั้งอยู่บนหลักฐานข้อเท็จจริงที่น่าเชื่อถือหรือ ที่เป็นวิทยาศาสตร์ ใดๆ 
โดยปรากฏอยู่ 9 ข้อความดังต่อไปนี้
1.ที่หน้า 31 เขียนไว้ว่า “กลุ่มผู้ต่อต้าน(แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ นปช.กลุ่มคนเสื้อแดง)ก่อการจลาจล เผารถประจำทางฯลฯ”
เป็นเท็จเพราะไม่มีพนักงานขับรถและพนักงานประจำรถแม้แต่คนเดียวมากล่าวโทษยังสถานีตำรวจใดๆ
2.ที่หน้า32เขียนไว้ว่า “เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 ศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้มีคำวินิจฉัยให้ยึดทรัพย์พันตำรวจโท ทักษิณชินวัตรจำนวนสี่หมื่นกว่าล้านบาท ทำให้กลุ่มนปช.กลับมาชุมนุมอีก
เป็นเท็จโดยสิ้นเชิง เพราะการชุมนุมของนปช.แดงทั้งแผ่นดิน มีข้อเรียกร้อง “ให้รัฐบาลยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน”เท่านั้น ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับ การยึดทรัพย์ของพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตรแม้แต่น้อย
ที่หน้า33 มี มีข้อความเท็จ 5 ข้อความสำคัญดังนี้
3.จนวันที่ 10 เมษายน 2553 รัฐบาลสั่งการให้ใช้กองกำลังขอคืนพื้นที่จากผู้ชุมนุมบริเวณถนนราชดำเนิน โดยใช้โล่ กระบอง แก๊สน้ำตา สำหรับป้องกันตัวจากการปะทะ
โดยในความเป็นจริง มีการส่งรถสายพานลำเลียง รถหุ้มเกราะพร้อมอาวุธสงคราม เต็มพิกัด ผ่านทางสะพานพระปิ่นเกล้า จำนวน ไม่ต่ำกว่า 6 คน มีทหารพร้อมอาวุธสงครามทั้งปืนเล็กยาว ระเบิดมือประเภทต่างๆประจำที่ถนนตะนาวไม่ต่ำกว่า พันนาย
ที่ถนนดินสอ มีรถสายพานลำเลียงพลและรถหุ้มเกราะพร้อมอาวุธเต็มพิกัด รวมทั้งทหารพร้อมอาวุธสงครามยึดพื้นที่เต็มถนนดินสอ จำนวนพลไม่ต่ำกว่าสองพันนาย เป็นจำนวนไม่ต่ำกว่าสิบห้ากองร้อย
4.ช่วงเวลาใกล้เคียงเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2553 เกิดการปะทะกันด้วยอาวุธระหว่างผู้ประกอบธุรกิจและผู้อาศัยบริเวณถนนสีลมกับกลุ่มนปช.
เป็นเท็จ ไม่มีการปะทะระหว่างนปช.กับประชาชนที่ถนนสีลม มีผู้ยิงM79 จากตึกสูงด้านตรงข้ามกับธนาคารกรุงศรีอยุธยาตึกซิลลิกหัวถนนสีลม ทำให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งทิศทางเป็นมุมฉากกับ พระบรมราชานุสาวรีย์พระรูปร.6 ที่คนเสื้อแดงชุมนุม(หลักฐาน ดูรูปได้จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐในเช้าวันต่อมา23เมษายน2553)จึงเป็นไปไม่ได้ที่กระสุนดังกล่าวจะถูกยิงมาจากบริเวณที่คนเสื้อแดงชุมนุมอยู่
5.เกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มนปช.บริเวณอนุสรณ์สถานถนนวิภาวดีรังสิต ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง
เป็นเท็จเพราะไม่มีการปะทะ และ พลณรงค์ฤทธิ์ สาละ เสียชีวิตจาก ทหารในแนวบังเกอร์ยิงใส่ เรื่องนี้มีคำวินิจฉัย ศาลตามป.วิอาญา150 วางบรรทัดฐานไว้แล้วปรากฏภาพเป็นรายงานสดโดยสปริงนิวส์ บีบีซี และซีเอ็นเอ็น
6.(เหตุการณ์ระหว่าง 13-19พฤษภาคม2553)จากนั้นมีการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างกลุ่มผุ้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่
เป็นเท็จโดยสิ้นเชิง จากคำวินิจฉัยของศาลใน 6 ศพที่ผ่านมาตามป.วิอาญา150 ว่าไม่มีชายชุดดำไม่มีการปะทะระหว่างกองกำลังอาวุธกับทหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 6ศพที่วัดปทุมวนาราม
7.จนวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 แกนนำนปช.ประกาศยุติการชุมุนมและมอบตัว แต่ผู้ชุนนุมหลายคนไม่ยอมยุติ และได้กระจายก่อความวุ่นวายไปหลายจุดในกรุงเทพมหานคร
เป็นเท็จโดยสิ้นเชิง เพราะหลังแกนนำประกาศสลายตัวคนเสื้อแดงที่ชุมนุมทั้งหมดทยอยเดินทางกลับบ้านโดยไปขึ้นรถที่สนามศุภัชลาสัย และพักในวัดปทุมวนาราม มีเพียงคุณ ผสุดี งามขำ คนเดียวที่นั่งหน้าเวที แต่บ่ายคล้อยก็ยอมเดินออกมา และที่ว่าได้กระจายก่อความวุ่นวายไปหลายจุดในกรุงเทพมหานครก็เป็นเท็จเพราะไม่มีเหตุการณ์ใดๆ ยกเว้นเพลิงไหม้ที่ เซน เซ็นทรัลเวิลด์ โรงหนังสยาม ที่ศาลแพ่งได้มีคำพิพากษาแล้วว่า คนเสื้อแดงไม่ได้เป็นผู้เผา การชุมนุมของคนเสื้อแดงไม่ใช่การก่อการร้าย(แต่เป็นจลาจล)
ที่หน้า 35 มีข้อความเท็จ 3 ข้อความดังนี้
8.ยังไม่มีข้อยืนยันว่า รัฐบาลหรือศอฉ.มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำให้พลเมืองเสียชีวิต
เป็นเท็จเช่นกัน เพราะอย่างน้อย มี 3 ราย คือ นายพัน คำกอง ดช.อีซา(คุณากร) นายชาติชาย ชาเหลา ศาลได้มีคำสั่งตามป.วิอาญา150ว่า ผู้ตายตายจากกระสุนที่มาจากเจ้าหน้าที่ทหารที่มาทำหน้าที่ตามคำสั่งของศอฉ.ซึ่งย่อมหมายถึงรัฐบาลด้วย
9.ฝ่ายผู้ชุมนุม(นปช.)ก็ใช้การเรียกร้องโดยวิธีรุนแรงและมีอาวุธ เช่น การปิดล้อมสถานที่ราชการ .................จุดไฟเผารถยนต์ หรือสถานที่ต่างๆเป็นต้น
เป็นเท็จ เพราะไม่มีหลักฐานใดๆยืนยันว่า นปช. ไปปิดล้อมสถานที่ราชการที่ไหน หรือมีอาวุธ (คลิปที่รัฐบาลอภิสิทธิ์นำเรื่องชายชุดดำ กำบังเสา ยิงปืนอาก้า มาเผยแพร่ ) ก็เป็นคลิปที่ นักข่าวอัลจาชีเราะที่เป็นผุ้เผยแพร่รายแรก โดยนักข่าวอัจจาชีเราะยืนยันว่า ซื้อมาจาก ผู้อื่นไม่ทราบว่า ใครเป็นคนถ่ายทำ และเขายืนยันว่า บริเวณสี่แยกคอกวัว และถนนดินสอ พวกเขา4 คน ลาดตระเวนทำข่าวอยู่ในบ่ายจนค่ำวันที่ 10 เมษายน 2553 ไม่พบมีชายชุดดำ หรือมี กองกำลังติดอาวุธแต่อย่างใด
ทั้งหมดนี้เป็นการรายงานเท็จทั้งสิ้น
ไม่มีหลักฐานข้อเท็จจริงที่น่าเชื่อถือ และที่เป็นวิทยาศาสตร์ใดมายืนยันข้อสรุปแม้แต่น้อย
กสม.ไม่ได้ทำหน้าที่ในการปกป้องสิทธิมนุษยชนของประชาชนไทยทั่วไปเลยแม้แต่น้อย แต่กลับอธิบายสร้างความชอบธรรมให้แก่รัฐบาลอภิสิทธิ์อย่างเต็มความสามารถ แสดงอคติทางการเมืองของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนอย่างเลวร้ายที่สุด

จึงขอให้ กสม.ยกเลิก รายงานฉบับดังกล่าว และนำกลับไปดำเนินการใหม่ทั้งหมด
ขอแสดงความนับถือ

(นพ.เหวง โตจิราการ)
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย หมายเลข 442