ทีมข่าว นปช.
28 สิงหาคม 2556
วันนี้เวลา 13.00 น. เริ่มการแถลงข่าว นปช.แดงทั้งแผ่นดินที่อิมพีเรียลเวิร์ด ลาดพร้าว ชั้น 5 คุณธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ์ โฆษก นปช.ได้เริ่มการแถลงโดยการพูดถึงความพยายามอันไม่ลดละของฝ่ายตรงข้ามที่จะโค่นล้มรัฐบาล จนต้องสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นอย่างที่เป็นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จนทำให้เกิดความวุ่นวายในรัฐสภา พวกประชาธิปัตย์พยายามรวมรวมคนมาให้ได้มากที่สุด แล้วพยายามสร้างเงื่อนไขต่าง ๆ นา ๆ แล้วต้องการให้ทหารเข้ามารัฐประหารนั้นไม่สำเร็จ อย่างที่เขาตั้งเป้าไว้
คุณธนาวุฒิ กล่าวต่ออีกว่า วันนี้ในภาคใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช เรื่องราคายางเราเห็นใจอย่างที่สุดที่ท่านมาเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือเยียวยา แก้ไข สุดท้ายชาวสวนจริง ๆ ที่เขาเดือนร้อนก็ได้พูดกับตัวแทนรัฐบาล คือคุณสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ฝ่ายชาวสวนยางที่แท้จริงนั้น รัฐบาลก็รับปากว่าจะเยียวยาให้พ้นขีดที่ตัวเองได้รับความเดือดร้อน คุณธนาวุฒิ เห็นว่าสถานการณ์ม๊อบสวนยางนั้น ไม่ปกติธรรมดา มีคนจากสวนลุมพีนีกลุ่มแช่แข็งประเทศไทย ที่พวกเขาอยากสร้างความวุ่นวายจนให้เกิดรัฐประหารนั้น เขาได้ลงไปที่นครศรีธรรมราชเรียบร้อยแล้ว ประเด็นที่พวกเขาต้องการคือต้องการให้ม๊อบเลือดตกยางออก แล้วก็ใส่ร้ายรัฐบาลว่าเป็นมือเปื้อนเลือด คุณธนาวุฒิได้ขอร้องพี่น้องว่าอย่าไปร่วมมือกับม๊อบปิดถนนพวกนี้ ทางรัฐบาลก็บอกออกมาว่า อย่างไรก็แล้วแต่จะไม่ใช้การสลายการชุมนุมเป็นอันขาด ตรงนี้ นปช.แดงทั้งแผ่นดินเห็นว่าดี คุณธนาวุฒิ ชี้ให้เห็นว่า การปิดถนนในนครศรีธรรมราช ทำให้เศรษฐกิจในภาคใต้ได้รับผลกระทบเสียหายวันละเป็นร้อยล้าน แล้วคนในภาคใต้ 90 เปอร์เซ็นต์ได้รับความเดือดร้อนจากการปิดถนน 90 เปอร์เซ็นต์ในภาคใต้เชียร์ประชาธิปัตย์ 90 เปอร์เซ็นต์นี้ได้รับผลกระทบจากการปิดถนนที่ประชาธิปัตย์มีส่วนร่วมด้วย
คุณธนาวุฒิ ทิ้งท้ายว่า 19 กันยายน นี้จะครบรอบ 7 ปีรัฐประหาร เราจะปรึกษาหารือประชุมกันอีกครั้งหนึ่ง เพราะเดือนกันยาเป็นหน้าฝน ขอให้ติดตามข่าวว่าเราจะจัดกันวันไหน หากได้มติจากที่ประชุม นปช.แล้วจะแจ้งให้ทราบอีกที
อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ได้กล่าวต่อพี่น้องเสื้อแดงว่า "แกนนำ นปช.ไม่ใช่เจ้าของเสื้อแดง เพราะเสื้อแดงนั้นเป็นเจ้าของตัวเอง แต่แกนนำ นปช.นั้นได้เป็นส่วนในการเชื่อมประสาน และก็ดำเนินงานในนามของคนเสื้อแดง ในระยะเวลานานพอสมควร ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านฝ่าดงกระสุน และกระทั่งเข้าไปอยู่ในคุกในเรือนจำ ร่วมกันกับพี่น้อง" อ.ธิดา ยังได้กล่าวต่อพี่น้องเสื้อแดงว่า "เพราะฉะนั้นทั้งหมดนี้ แกนนำ นปช. ในความรู้สึกจริง ๆ นั้นก็คือ ต้องขอขอบคุณพี่น้องในความร่วมมือทำงานเพื่อประเทศชาติมาโดยตลอด"
อ.ธิดา กล่าวถึงจุดประสงค์สำคัญของฝ่ายตรงข้ามที่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ ประการแรกคือการรักษารัฐธรรมนูญ 2550 เอาไว้ยิ่งกว่าชีวิต นี่คือข้อหนึ่ง ข้อทีสองก็คือล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจจะเริ่มจากท่านนายกรัฐมนตรี ประการที่สาม ไม่ให้ผ่านกฎหมายนิรโทษกรรม ที่พวกเขาต้องรักษารัฐธรรมนูญปี 50 ไว้และไม่ต้องการให้นิรโทษนั้น ก็เพราะกลัวว่า ดร.ทักษิณ ชินวัตร จะได้รับประโยชน์ นอกจากนี้ยังมีความพยายามจากฝ่ายตรงข้ามที่ต้องการล้มรัฐบาล และยังมีความพยายามที่จะสลายคนเสื้อแดง โดย อ.ธิดา ได้ขอให้พี่น้องเสื้อแดงให้ความสนใจข้อนี้มากเป็นพิเศษ เพราะว่านี่คือเหตุผลที่เราขอร้องความเป็นเอกภาพทางยุทธศาสตร์ ในฝั่งที่ไม่ต้องการคืนอำนาจให้ประชาชน ก็ต้องการทำลายพลังของคนเสื้อแดง "ความเป็นเอกภาพในแนวทางใหญ่ จึงยังเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพื่อทำให้แกนนำ นปช.ยิ่งใหญ่ แต่ว่าที่จะต้องยิ่งใหญ่จริง ๆ นั้นก็คือ พลังของประชาชน"
ในเรื่องการปฏิรูปการเมืองนั้น อ.ธิดา ได้กล่าวว่า ประการแรกก็คือ ต้องการแรงงานพี่น้องเรา ในสิ่งที่ไปทำร่วมกันกับกลุ่มต่าง ๆ ในเวทีปฏิรูปของรัฐบาล ประการที่สองก็คือ ต้องการให้พี่น้องเราทั้งหลายทั่วประเทศ ได้มีส่วนร่วมเข้าใจบทบาท และยกระดับของกลุ่มแต่ละกลุ่มในเรื่องราวของการเมือง ที่สามารถทำให้พวกเราทั้งหลายมีบทบาทในการแก้ไขปัญหาของประเทศ อ.ธิดา ได้สั่งให้แสดงภาพถ่ายในวันที่ อ.ธิดาไปงานเวทีปฏิรูปการเมืองเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ที่ผ่านมา อ.ธิดา เล่าว่า ก็มีกลุ่มต่าง ๆ มีคนมาประมาณ 70 คน ซึ่งส่วนมากจุดสำคัญคือเป็นตัวแทนของพรรคการเมือง แล้วก็เป็นผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เฒ่า อ.ธิดา นั้นได้พูดในที่ประชุมว่า "สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ในประเทศนี้ขณะนี้มีความพยายามทำให้เป็นรัฐที่ล้มเหลว พยายามทำให้เกิดสภาพอนาธิปไตย เพราะฉะนั้นเป็นภาระหน้าที่ของรัฐบาล และพรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ที่จะทำให้ประเทศนี้ประชาชนยังสามารถมีความเชื่อมั่นในระบบรัฐสภาได้" แต่ว่าการปฏิรูปการเมืองที่จัดขึ้นนั้น จุดหนักก็จะเป็นเรื่องของชนชั้นนำในสังคม อ.ธิดา ไปนั้นในฐานะตัวแทนของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนเสื้อแดง และไม่ได้ไปในฐานะ นางธิดา ถาวรเศรษฐ แต่ไปในนามของพวกเราทั้งหมด ดังนั้นจึงได้ไปเรียกร้องว่า "การปฏิรูปการเมืองนั้นถ้ามีเฉพาะชนชั้นนำ จะต้องล้มเหลวแน่นอน เพราะว่าองค์ประกอบโครงสร้างนั้น เน้นหนักที่เป็นปฏิรูปการเมืองของชนชั้นนำก็คือ มีอดีตหัวหน้าพรรค อดีตประธานวุฒิสภา อดีตประธานรัฐสภาและก็ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนมาก ตัวแทนประชาชนนั้นมีไม่มากซักเท่าไหร่ จึงได้เสนอความคิดเห็นไปว่า การปฏิรูปการเมืองนั้นไม่ได้เริ่มนับหนึ่งที่นี่ เคยนับหนึ่งมาหลายครั้งแล้วแต่ทั้งหมดล้มเหลว เพราะประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมในการปฏิรูปการเมืองด้วย นี่จึงเป็นวาระสำคัญว่า การปฏิรูปการเมืองครั้งนี้ ต้องทำให้เป็นวาระของประชาชนทั่วประเทศ"
อ.ธิดา กล่าวว่า การปฏิรูปการเมืองอย่างเดียวเป็นไปไม่ได้ เพราะว่า 3 ส่วนนั้นไม่ว่าการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ล้วนมีปฏิสัมพันธ์กัน รากฐานเศรษฐกิจกำหนดโครงสร้างทางการเมืองการปกครอง และแนวคิดอุดมการณ์ตลอดจนวัฒนธรรม ถ้าจะปฏิรูปการเมืองต้องปฏิรูปทั้ง 3 ด้าน ก็คือต้องปฏิรูป การเมือง เศรษฐกิจ สังคมและอุดมการณ์ ไปด้วยกันทั้งหมด
คุณจตุพร พรหมพันธุ์ ได้กล่าวแถลงถึงการเคลื่อนไหวที่กำลังจะทำการล้มรัฐบาล ทั้งที่มาจากนอกและในสภา ซึ่งมันไม่ใช่การเดิมพันทางการเมืองเท่านั้น แต่เป็นการเดิมพันชีวิตกัน เพราะสุเทพ เทือกสุบรรณ กับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คดีฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล แม้ว่าอัยการจะเลื่อนสั่งคดีไปในเดือนกันยายน แต่อย่างไรก็ตามคดีก็ไม่พ้นที่จะไปถึงศาล ที่ผ่านมาเขาได้พยายามขับเคลื่อนทั้งนอกและใน พรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ตัวเองเป็นเสียงข้างมาก ก็จะบอกพี่น้องประชาชนให้ยึดมั่นในระบบรัฐสภา แต่เวลาที่ตัวเองเป็นเสียงข้างน้อยก็จะบอกว่า รัฐบาลเป็นเผด็จการเสียงข้างมาก พี่น้องอย่าไปคิดว่า ประชาธิปัตย์จะยึดมั่นในระบบรัฐสภา เพราะคำว่ายึดมั่นในระบบรัฐสภานั้น ได้เป็นวาทะกรรมทางการเมืองหลังจากเหตุการณ์ พฤษภา 2535 ที่พรรคประชาธิปัตย์ถือว่าเป็นพรรคการเมืองหนึ่ง ที่ออกมาร่วมในการต่อสู้กับรัฐบาลของ รสช.ในขณะนั้น แต่พรรคประชาธิปัตย์เป็นหนึ่งใน 5 พรรค ที่มีวิกฤตแล้วก็จะหายหน้าไป จะโผล่หน้าในสถานการณ์ที่ปกติ วันไหนถ้าสถานการณ์ปกติพรรคประชาธิปัตย์จะอยู่หน้ากันครบ แต่ถ้าวันใดจะมีการล้อมปราบ จะไม่เห็นหัวพรรคประชาธิปัตย์ซักคน คุณจตุพร จึงสรุปว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์