"นพ.เหวง" เรื่องส่งฟ้องศาลของอภิสิทธิ์สุเทพอาจจะต้องเลื่อนออกไป(ไม่รู้ว่าเมื่อไร)
Facebook นพ.เหวง โตจิราการ
8 กรกฏาคม 2556
ผมเห็นอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษแถลงข่าวแล้วไม่สบายใจเพราะฟังราวกับว่า เรื่องส่งฟ้องศาลของอภิสิทธิ์สุเทพอาจจะต้องเลื่อนออกไป(ไม่รู้ว่าเมื่อไร) เมื่อเทียบกับพวกเราแล้ว ต่างกันฟ้ากับดิน พวกเราโดนส่งฟ้องศาลในเวลาไม่ถึงสองเดือนหลังจากดีเอสไอทำการสืบสวนสอบสวนพวกเรา(ไม่เคยให้ความเป็นธรรมกับพวกเราเลยครับเราอยู่ในคุกแล้วจะไปหาหลักฐานอะไรมาโต้แย้งพวกเขาเล่าครับ)
ผมจึงจะไปยื่นหนังสือเรียกร้อง มาตรฐานของหลักยุติธรรม และการยึดมั่นในหลักนิติรัฐนิติธรรมในวันพรุ่งนี้ที่อัยการพิเศษถนนรัชดาครับ ผมส่งหนังสือมาให้ดูด้วยแล้วครับ
หนังสือถึงอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษเพื่อขอให้ปฏิบัติตามตามหลักการนิติธรรมรักษามาตรฐานอย่างเข้มงวดอย่ามีสองมาตรฐาน
รัฐสภา ถนนอู่ทองใน ดุสิต กทม.10300
9 กรกฎาคม 2556
เรื่อง ขอให้ปฏิบัติตามหลักการนิติธรรมรักษามาตรฐานอย่างเข้มงวดอย่ามีสองมาตรฐาน
เรียน ท่านอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ
อ้างถึงการแถลงข่าวเมื่อวันที่7กรกฎาคม2556ตามที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์ข่าวสดประจำวันที่8กค2556
ตามที่ท่านอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ได้แถลงข่าวดังปรากฏในอ้างถึง ว่า “ความคืบหน้ากรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ส่งสำนวนคดีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี
และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 59, 80, 83, 84 และ 288 จากกรณีที่ศอฉ. มีคำสั่งใช้กำลังเจ้าหน้าที่กระชับพื้นที่เพื่อขอคืนพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระหว่างเดือนเม.ย.-พ.ค. 53 บริเวณถนนราชดำเนิน และแยกราชประสงค์ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องว่า ตั้งคณะทำงานขึ้นมาประมาณ 7-9 คน ซึ่งเป็นพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ โดยตนเป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาเอกสารทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในสำนวนคดี ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะเนื่องจากมีเอกสารเป็นจำนวนมาก
นายวินัยกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ทางผู้ต้องหาอ้างว่าดีเอสไอไม่มีอำนาจสอบสวนนั้น ทางคณะทำงานคงจะต้องรอพิจารณาสำนวนอย่างละเอียดก่อน ส่วนจะสามารถพิจารณาและมีความเห็นสั่งคดีได้ภายในวันที่ 26 ส.ค.นี้หรือไม่ ทางคณะทำงานคงจะต้องรอประชุมกันอีกครั้ง ทั้งนี้ ผู้ต้องหาก็ยังไม่ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเพิ่มเติมแต่อย่างใด”
ผมและพวกอีก23คนซึ่งขณะนี้ถูกดำเนินคดีในศาลในข้อกล่าวหาว่า”เป็นผู้ก่อการร้าย”อยากเรียมายังท่านอัยการสำนักงานคดีพิเศษเพื่อเรียกร้องให้ท่านปฏิบัติตามหลักการนิติธรรมรักษามาตรฐานอย่างเข้มงวดอย่ามีสองมาตรฐาน” เพราะจากการฟังการแถลงของท่านทำให้เกิดความห่วงใยและวิตกกังวลว่า
1.ทำไมคดีของพวกผมที่ถูกกล่าวหาว่า”ก่อการร้าย” จึงดำเนินไปอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ ดีเอสไอ ตั้งต้นสืบสวนสอบสวนคดีจนไปถึง อัยการส่งฟ้องต่อศาล(ประมาณกลางเดือนมิถุนายน53ไปจนสิงหาคม53ในเวลาประมาณสองเดือน) ทั้งที่มีรายละเอียดของการกระทำความผิดที่ท่านส่งฟ้องถึง 28 กรณีด้วยกัน และเกือบทุกกรณี ดีเอสไอ ไม่สามารถจับกุมคนร้ายผู้กระทำความผิดและหลักฐานที่มีการกระทำความผิดที่สัณนิษฐานได้ว่ามีการกระทำความผิดจริง
แต่ก็ได้มีการยื่นส่งฟ้องต่อศาล ซึ่งทำให้เกิดข้อกังขามาจนทุกวันนี้ ว่าภายในเวลาประมาณสองเดือนเท่านั้น ดีเอสไอ และอัยการ สามารถรวบรวมหลักฐานของการกระทำความผิดในข้อหาก่อการร้ายได้อย่างแน่นหนาจนสามารถส่งฟ้องได้เป็นเรื่องที่เป็น”สิ่งมหัศจรรย์เป็นอย่างยิ่งของโลก”
เมื่อเปรียบเทียบกับการที่ อดีตนายกรัฐมนตรีนายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ และรองนายกรัฐมนตรีนายสุเทพเทือกสุบรรณและผู้อำนวยการศอฉ.สั่งการให้กองทัพปราบปรามประชาชนด้วยกำลังพลถึงประมาณ60,000นายใช้กระสุนจริงไปกว่า120,000นัดกระสุนสไนเปอร์กว่าสองพันแปดร้อยนัด มีประชาชนสองมือเปล่าถูกยิงเข้าที่ศรีษะและทรวงอกเสียชีวิตเกือบ100นายบาดเจ็บประมาณ2,000นาย รวมทั้งมีป้าย”เขตใช้กระสุนจริง”
หลักฐานชัดเจนปรากฏในเอกสารที่เป็นทางราชการของกรมยุทธศึกษาทหารบก”เสนาธิปัตย์ปีที่59ฉบับที่3ประจำเดือนกันยายน-ธันวาคม2553และรายงานของประธานกรรมาธิการทหารสภาผู้แทนราษฎร ในปี 2553 และปรากฏต่อสาธารณมากมาย ในสิ่งที่ผมได้ยืนยันไว้อย่างชัดเจนในรายละเอียดดังที่ผมได้เรียนมาแล้วยังจะต้องใช้เวลาศึกษายาวนานกว่า ที่พวกผมโดนดำเนินการทั้งสืบสวนสอบสวนสรุปสำนวนในขั้นดีเอสไอแล้วส่งให้อัยการพิจารณาส่งฟ้องศาลได้ภายในเวลาเพียงสองเดือนเท่านั้นหรือ?
2.ในคราวที่ผมและพวกถูกตั้งข้อกล่าวหาดังกล่าว ผมและพวก ได้ขอความเป็นธรรม ในการได้รับการประกันตัวชั่วคราวออกมาเพื่อต่อสู้การกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรมดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญ2550มาตรา39และ40
แต่ก็ไม่ได้รับการพิจารณาให้ความยุติธรรมปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อต่อสู้ดคีตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดแต่อย่างไร นอกจากนี้ทั้งในขั้นตอนของดีเอสไอและในขั้นตอนของอัยการ ผมและพวกได้ยื่นขอความเป็นธรรมเพื่อให้สอบพยานฝ่ายพวกผมเพิ่มเติมจำนวนกว่าร้อยปาก(ไม่มากเลยสำหรับการชุมนุมสองแห่งที่ผ่านฟ้าและราชประสงค์ ซึ่งมีคนชุมนุมจำนวนนับแสนเป็นเวลา 69 วัน)
แต่ผมและพวกก็ไม่ได้รับการพิจารณาให้ความยุติธรรมแก่พวกผมโดยสิ้นเชิง และผมและพวกก็ทราบมาอย่างไม่เป็นทางการว่า มีคำสั่งมาให้ดำเนินการกับผมและพวกอย่างรวดเร็วเพื่อให้ส่งฟ้องต่อศาลและไม่อนุญาตให้ประกันตัวซึ่งผมและพวกก็เข้าใจในความลำบากของทาง ดีเอสไอและอัยการ
แต่หากแม้จะเป็นเช่นนั้นจริง ความยุติธรรมและหลักนิติธรรมก็ต้องอยู่เหนือ อำนาจนอกระบบนะครับ ไม่งั้นประเทศเห็นทีจะหาความสงบได้อย่างยากยิ่ง ดีเอสไอและอัยการ(ทั้งในระยะนั้นและในขณะปัจจุบัน)ได้สรุปบทเรียนและทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นอันน่าจะเป็นการละเมิดหลักนิติธรรมและรัฐธรรมนูญแล้วหรือไม่อย่างไร?
3.ในครั้งนี้ผมไม่ได้มีความเคียดแค้นอาฆาตพยาบาท นายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะหรือนายสุเทพเทือกสุบรรณเป็นการส่วนตัว แต่ผมกังวลว่า
หากการ ดำเนินการทางกระบวนยุติธรรมเกิดสองมาตรฐานขึ้นอย่างชัดเจน ก็จะเป็นการละเมิดบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และอาจจะทำให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยที่รักความเป็นธรรมจะเกิดความไม่เห็นพ้องด้วย ซึ่งอาจจะนำไปสู่ความไม่สมานฉันท์และปรองดองอันอาจจะเป็นผลเสียต่อประเทศชาติบ้านเมืองสืบต่อไป
ดังนั้นผมจึงขอเรียกร้องให้ท่านอัยการสำนักงานคดีพิเศษได้โปรดปฏิบัติตามหลักการนิติธรรมรักษามาตรฐานอย่างเข้มงวดอย่ามีสองมาตรฐาน
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
ด้วยความนับถือ
(นพ.เหวง โตจิราการ)
สมาชิสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย หมายเลข442