สำรวจ แนวรบ "แนวรบ ประชาธิปัตย์" รัฐบาล ยิ่งลักษณ์


3 กรกฎาคม 2556

(ที่มา:มติชนรายวัน 2 ก.ค.2556)

แรกที่แนวร่วมคนไทยหัวใจรักชาติรักษาแผ่นดินของ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ย้ายเวทีจากลำตะคลองมายังมหานครกรุงเทพฯ เดินผ่านทำเนียบองคมนตรีไปปักหลัก ณ สวนสราญรมย์

แล้วย้ายมายึดบริเวณท้องสนามหลวงในวันที่ 7 พฤษภาคม

หลายคนไม่เข้าใจว่ามีเหตุผลอะไร และเมื่อ 1 ต้องเป็นที่สนามหลวง 1 ประกาศเจตนารมณ์ชุมนุมยืดเยื้อจนกว่าจะล้มรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

หลายคนก็ยิ่งไม่เข้าใจ

แต่เมื่อมีการประกาศสมานระหว่าง นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ กับ พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ พร้อมกับทำพิธีบวงสรวง ณ หลักเมือง

ทุกคนก็เริ่มร้อง ฮ้อŽ

เพราะนี่เท่ากับเป็นการประสานพลังระหว่างองค์การพิทักษ์สยามอันเคยชูธง แช่แข็งŽ ประเทศไทย เข้ากับแนวร่วมคนไทยหัวใจรักชาติ

จากนั้น การถวายฎีกาเพื่อขอ นายกฯพระราชทานŽ ก็เริ่มขึ้น

จากนั้น เมื่อเริ่มปรากฏการณ์ หน้ากากขาวŽ ที่แยกราชประสงค์ บทบาทของท้องสนามหลวง คือการไปช่วยเติมคน

ประกาย ดาวแดงŽ จึงเริ่ม แวววับŽ

ไม่ว่าการปรากฏของ หน้ากากขาวŽ จากเดือนพฤษภาคม ไม่ว่าการปรากฏของ ไทยสปริงŽ ดำเนินไปเหมือนกับเป็นเอกเทศ

กระนั้น เอกเทศนั้นก็มีความสัมพันธ์

เป็นความสัมพันธ์อันเป็นเช่นเดียวกับการยึดโยงของการปักหลักที่ท้องสนามหลวงกับองค์การพิทักษ์สยาม และหน้ากากขาว

ลักษณะของการเคลื่อนไหวอาศัยความจัดเจนจากอดีต

1 อดีตที่รายการ เมืองไทยรายสัปดาห์Ž สัญจรเคยเริ่มที่เวทีลีลาศสวนลุมพินีปลายปี 2548 ก่อนยกระดับเป็นการยึดทำเนียบรัฐบาลในเดือนมกราคม 2549

และประกาศจัดตั้งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในเดือนกุมภาพันธ์

1 เพียงแต่ย้ายจากเวทีลีลาศสวนลุมพินีมาเป็นการอาศัยโซเชียลมีเดีย เห็นได้จากการนัดหมายทุกวันเสาร์หรือวันอาทิตย์เพื่อนัดแสดงพลัง ขณะเดียวกัน ก็สร้างเวทีฟอรัมขึ้นจากกระบวนการออนไลน์

ที่ไม่ควรมองข้ามก็คืออาการขยับของพรรคประชาธิปัตย์

ชั่วเวลา 2 ปีที่เริ่มจัดตั้งเวที ผ่าความจริงŽ จากส่วนภูมิภาคก็ขยายและมาปักหลักจัดตั้ง ณ สี่มุมเมืองของ กทม. นับแต่ครั้งที่ 50 กว่าเป็นต้นมา

เริ่มจาก ชนบทŽ ล้อมและ ยึดเมืองŽ ในที่สุด

เมื่อต่อภาพแต่ละภาพให้ประสานเข้าด้วยกันก็จะมองเห็นภาพรวม และเห็นการก่อตัวขึ้นของขบวนการประชาชนครั้งใหม่

เหมือนกับจะซ้ำรอยเมื่อปี 2549 แต่ไม่ใช่

สถานการณ์ครั้งนี้ยังมองผู้นำในแบบที่เคยสัมผัสอย่างครึกโครมผ่านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่เห็น

พรรคประชาธิปัตย์จึงจำเป็นต้องเล่นเอง

ก่อนรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 พรรคประชาธิปัตย์ดำเนินบทบาทอย่างที่เรียกกันว่า อีแอบŽ

เป็นบทบาทในการเติมคนที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เป็นบทบาทในการเติมคนที่สะพานมัฆวานฯ เป็นบทบาทเติมคนในการยึดทำเนียบรัฐบาล ในการยึดสนามบิน

แต่มิใช่บทบาทของ กองหน้าŽ

แต่ในปี 2556 พรรคประชาธิปัตย์ออกโรงอย่างเต็มตัว แตะเข้าไปยังแนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดิน แตะเข้าไปยังองค์การพิทักษ์สยาม สร้างรูปการเคลื่อนไหวหน้ากากขาวทั้งในส่วนกลางและเนรมิตกำลังในส่วนภูมิภาคอย่างคึกคัก

เป็นการดำเนินในท่วงทำนองสะสมกำลังเพื่อรอโอกาส คำถามอยู่ที่ว่าเป็นโอกาสอะไรของพรรคประชาธิปัตย์

ถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ดำเนินการเคลื่อนไหวครั้งนี้อย่างโดดเดี่ยวและอย่างเอกเทศหรือ

ภาพที่เห็นตอบได้เลยว่าไม่ใช่ ตรงกันข้าม กลับนำเอาพันธมิตรภายในแนวร่วมอันกว้างขวางเข้ามาผสานร่วมกันอีกครั้งหนึ่งเพื่อรื้อฟื้นปฏิบัติการครั้งใหม่

สถานการณ์กันยายน 2549 หมายเลข 2