ทีมข่าว นปช.
4 กรกฎาคม 2556
ชี้แจง ข่าวไทยรัฐออนไลน์ ประจำวันพุธที่ 3 กรกฏาคม 2556
นักข่าวไทยรัฐออนไลน์ได้โทรมาสัมภาษณ์ผมจริงในช่วงบ่ายแก่ๆของวันที่3กรกฎาคม2556
แต่เนื้อข่าวที่นำเสนอในไทยรัฐออนไลน์ไม่ตรงตามข้อเท็จจริงและเจตนารมณ์ของผมหลายประการ จึงต้องขอชี้แจงดังนี้
1.ที่พาดหัวข่าวว่า “เหวง แฉ ธิดา ลาออก ปธ.นปช.เหตุต้องควักงบฯเองไร้ใครเหลียว”
ไม่เป็นความจริงครับ ผมไม่ได้ให้ข่าวหรือข้อเท็จจริงดังที่พาดหัวแต่ประการใดทั้งสิ้น
ผมบอกนักข่าวว่า “นี้เป็นการแสดงน้ำใจไมตรีของอ.ธิดาต่อคุณตู่อันเนื่องจากการที่พรรคเพื่อไทยมองข้ามความสำคัญของคุณตู่ในตำแหน่งรัฐมนตรี นี่เป็นการแสดงน้ำใจของมิตรร่วมรบ ที่ต้องการให้ความเชื่อมั่น ถนอมน้ำใจ และปกป้อง เพื่อนร่วมสู้รบ” ไม่ใช่เป็นเรื่องของการลาออก เพราะเหตุน้อยใจ ต้องควักงบฯเองไร้ใครเหลียวแล อย่างที่ไทยรัฐออนไลน์เขียน แต่อย่างใด
ผมยังได้ให้รายละเอียดอีกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกครั้งเดียว แต่เป็นครั้งที่สาม ทุกครั้งอ.ธิดาจะบอกคุณตู่ว่า “ตู่มาเป็นประธานนปช.ไหม” คราวนี้ก็ได้พูดกับคุณตู่ก่อนหน้าการประชุม คุณตู่ก็บอกว่า “อาจารย์ทำหน้าที่ต่อไปเถอะ” ในที่ประชุม คุณตู่ก็บอกว่า “อาจารย์ทำหน้าที่ต่อไปเถอะ ผมต้องรักษาสุขภาพ และต้องทำภาระกิจบางอย่าง”อ.ธิดา ก็บอกว่าพร้อมเมื่อไรก็ให้สะกิดแล้วกันนะ แล้วทั้งสองก็หัวเราะด้วยความเข้าใจกัน
ส่วนที่ไทยรัฐออกไลน์บอกว่า
“นพ.เหวง กล่างถึงกระแสข่าวที่มีการระบุออกมาในเฟซบุ๊ค หรือในโลกโซเชียบมีเดียกรณีที่นางธิดาตัดสินใจเตรียมลาออกจากตำแหน่งประธานนปช.นั้นเป็นเพราะมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายของการทำกิจกรรมของกลุ่มนปช.ที่ต้องมีการควักเนื้อตัวเองว่า เป็นความจริง ที่ผ่านมานางธิดาต้องใช้งบประมาณส่วนตัวจัดกิจกรรมโรงเรียนนปช.ขนาดกลุ่มชาวบ้านที่ต่างจังหวัดยังต้องออกเงินเองโดยที่ไม่มีการช่วยเหลือจากที่ใด”
เรื่องนี้ต้องแยกเป็นสองส่วน
1.ค่าใช้จ่ายของนปช. เรายืนบนลำแข้งของตัวเราเอง นี่จริงครับ เราต้องควักเนื้อของเราเองนี่จริงครับ แต่เราไม่ได้น้อยเนื้อต่ำใจในเรื่องนี้ และไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณขอเงินจากใคร “เพราะเราเป็นนักสู้ครับ เราตัดสินใจเข้าร่วมการต่อสู้โดยยินยอมอุทิศทุกอย่างของเรา อย่าว่าแต่เงินทองเลย แม้แต่อิสระภาพ และชีวิตของเราก็ยินดี ผมเองติดคุกมาแล้ว โดยไม่ได้คิดทุกข์ร้อนจิตใจแต่ประการใด และแม้ต้องถูกลงโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต ก็ไม่ได้นึกเสียใจแต่ประการใด แต่กลับรู้สึกภาคภูมิใจเสียด้วยซ้ำไปที่ได้มีโอกาส “พลีชีพเพื่อการต่อสู้ของประชาชน” ดังนั้นที่ จะมาพูดว่า ตัดสินใจเตรียมลาออกเพราะมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย จึงเป็นเรื่องไม่จริง ผมไม่ได้พูดเช่นนั้นครับ
2.ผมยืนยันว่า ค่าใช้จ่ายในการทำงานพวกเรา ควักเนื้อของพวกเรากันเองครับ นี่กลับเป็นความภาคภูมิใจที่ เราไม่ได้เป็นทาสในเรือนเบี้ยของใครด้วยซ้ำไป และนี่เป็นการปฏิเสธอย่างมีน้ำหนัก โดยสิ้นเชิงที่กล่าวหาว่า พวกเรา “รับเงินจากผู้ใด” “รับเงินจากทักษิณ”มาสู้ “สู้แล้วรวย”
แต่ความเป็นจริงก็คือ มีประชาชนที่พอมีอันจะกิน หรือร่ำรวยพอควร บริจาคเงินให้กับพวกเราครับ ในระหว่าง69วันของการต่อสู้เมื่อ 12มีนา.53-19พค.53 เราได้รับเงินบริจาคจากประชาชน ตกประมาณวันละห้าแสน แต่เราต้องดูแลประชาชนเรือนแสนหรือหลายแสน ดังนั้น พวกเราใช้เงินบริจาคไปในการต่อสู้เพื่อประชาชนทั้งหมด ไม่มีการคอรัปชั่น โกงกินอมเงินใดๆ
และในทุกวันนี้ก็มีประชาชนบริจาคเข้ามาโดยไม่ประสงค์ที่จะออกนาม และในการจัดโรงเรียนนปช.ทุกจังหวัด ประชาชนในจังหวัดเขาจะดูแลเรื่องเงินทองของเขาเอง
ดังนั้นที่ เขียนข่าว ว่า
” นางธิดาตัดสินใจเตรียมลาออกจากตำแหน่งประธานนปช.นั้นเป็นเพราะมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายของการทำกิจกรรมของกลุ่มนปช.ที่ต้องมีการควักเนื้อตัวเอง ว่าเป็นความจริงที่ผ่านมานางธิดาต้องใช้งบประมาณส่วนตัวจัดกิจกรรมโรงเรียนนปช.ขนาดกลุ่มชาวบ้านที่ต่างจังหวัดยังต้องออกเงินเองโดยที่ไม่มีการช่วยเหลือจากที่ใด”
จึงเป็นความจริงในแง่ที่ว่า “เราไม่ได้เป็นทาสในเรือนเบี้ย”ของใคร และไม่ใช่ทำให้อ.ธิดาน้อยใจ จนต้องลาออก
3.นปช.เป็นองค์กรสู้รบทางการเมืองที่มีรูปการ และต้องพูดว่า เป็นองค์กรที่ได้รับการยอมรับจากประชาชนคนเสื้อแดงหลายสิบล้านคน การทำงานทุกอย่างต้องตั้งอยู่บนหลักการ การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งประธาน จึงต้องดำเนินการอย่างเป็นกิจจะลักษณะเป็นไปตามหลักการทำงาน
ประธานมีวาระดำรงตำแหน่งไปจนเดือนกุมภาพันธ์57
ปัจจุบัน อ.ธิดา จึงเป็นประธาน โดยความยินยอมพร้อมใจของที่ประชุมจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงโดยที่ประชุมใหญ่
จึงขอให้ “ไทยรัฐออนไลน์”โปรดเข้าใจตามนี้ และโปรดแก้ข่าวให้ถูกต้องตามความเป็นจริงด้วยครับ
นพ.เหวง โตจิราการ 3 กค 56 21.00น