อัยการสั่งตั้งทีม ฟ้องมาร์ค-เทือก

ข่าวสด 8 กรกฎาคม 2556



อธิบดีอัยการคดีพิเศษ เผยตั้งทีมพิจารณาคำสั่งฟ้อง "อภิสิทธิ์-สุเทพ" เหตุสลายการชุมนุม99 ศพ เมื่อปี 53 ยังไม่แน่สั่งคดีได้ทัน 26 ส.ค. เพราะเอกสารจำนวนมาก ด้านรองฯ อนุชัย เผยความคืบหน้าคดีช่างภาพอิตาลี ฟาบิโอ โปเลงกี ชี้ดีเอสไอส่งสำนวนกลับมาภายใน 2-3 วันหลังศาลชี้สาเหตุการตายจากฝีมือจนท.เรียบร้อย พร้อมเดินหน้าทำ 7 สำนวนที่ค้างอยู่ให้เร็วที่สุด

เมื่อวันที่ 7 ก.ค. นายวินัย ดำรงค์มงคลกุล อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ส่งสำนวนคดีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 59, 80, 83, 84 และ 288 จากกรณีที่ศอฉ. มีคำสั่งใช้กำลังเจ้าหน้าที่กระชับพื้นที่เพื่อขอคืนพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระหว่างเดือนเม.ย.-พ.ค. 53 บริเวณถนนราชดำเนิน และแยกราชประสงค์ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องว่า ตั้งคณะทำงานขึ้นมาประมาณ 7-9 คน ซึ่งเป็นพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ โดยตนเป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาเอกสารทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในสำนวนคดี ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะเนื่องจากมีเอกสารเป็นจำนวนมาก

นายวินัยกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ทางผู้ต้องหาอ้างว่าดีเอสไอไม่มีอำนาจสอบสวนนั้น ทางคณะทำงานคงจะต้องรอพิจารณาสำนวนอย่างละเอียดก่อน ส่วนจะสามารถพิจารณาและมีความเห็นสั่งคดีได้ภายในวันที่ 26 ส.ค.นี้หรือไม่ ทางคณะทำงานคงจะต้องรอประชุมกันอีกครั้ง ทั้งนี้ ผู้ต้องหาก็ยังไม่ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเพิ่มเติมแต่อย่างใด

ขณะที่พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการทำสำนวนชันสูตรพลิกศพเหตุสลายการชุมนุมเมื่อเดือนเม.ย.-พ.ค. 2553 ว่า ทางพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด จะส่งสำนวนของนายฟาบิโอ โปเลงกี ช่างภาพชาวอิตาลีที่ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณแยกสารสิน ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 มาให้ หลังจากที่ศาลมีคำพิพากษาแล้วว่าการตายที่เกิดขึ้นโดยการกระทำของเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ โดยจะนำสำนวนดังกล่าวมารวมไว้ในสำนวนคดีอาญา ซึ่งลักษณะเหมือนคดีอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์สลายการชุมนุม ทั้งนี้ คาดว่าจะสำนวนดังกล่าวจะส่งมาถึงที่บช.น. ภายใน 2-3 วัน ส่วนสำนวนชันสูตรพลิกศพที่เหลืออีก 7 สำนวนนั้นจะเร่งสอบสวนให้เสร็จสิ้นต่อไป

เมื่อเวลา 14.30 น. บริเวณลานหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ แยกราชประสงค์ กทม. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มหน้ากากขาวประมาณ 200 คน รวมตัวกันเดินขบวนจากบริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ โดยใช้เส้นทางถนนราชดำริแล้วเลี้ยวขวาเดินย้อนไปทางถนนพระราม 1 มุ่งหน้าไปยังหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร ระหว่างทางนำริบบิ้นสีดำมาผูกที่ประตูรั้วสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมตะโกนด่าทอ ขณะเดียวกัน ยังไม่พบว่ามีกลุ่มหน้ากากหนุมานมาร่วมชุมนุมด้วย

รายงานข่าวจากหน่วยความมั่นคงระบุว่า คาดว่าการชุมนุมครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยเพราะมีผู้มาร่วมชุมนุมน้อย ซึ่งน่าจะเกิดจากการส่งข่าวผ่านอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับกรณีที่มีกลุ่มหน้ากากหนุมานเข้าร่วม ทำให้เกิดความเห็นแตกต่างระหว่างกลุ่มหน้ากากขาว หรือวีฟอร์ไทยแลนด์ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งไปติดตามฟังทอล์กโชว์ของพรรคการเมืองหนึ่งในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งนี้ กลุ่มหน้ากากขาวระบุว่า จะนัดรวมตัวอีกครั้งในวันที่ 14 ก.ค. เวลา 15.00 น. ณ ลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี

ที่จ.สมุทรสาคร กลุ่มคนหน้ากากขาวประมาณ 60-70 คน รวมตัวกันที่บริเวณวงเวียนน้ำพุใจกลางเมืองมหาชัย ถนนนรสิงห์ ต.มหาชัย อ.เมือง ก่อนสลายตัวไปโดยไม่มีเหตุรุนแรง

ที่จ.บุรีรัมย์ กลุ่มหน้ากากขาวรวมตัวกันที่บริเวณข้างคลองละลมโบราณ ใกล้สวนรมย์บุรีในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เพื่อแสดงพลังต่อต้านการบริหารประเทศของรัฐบาลติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 โดยยืนยันว่าจะร่วมกันออกมาเคลื่อนไหวแสดงพลังอย่างต่อเนื่องจนกว่ารัฐบาลจะยุบสภาหรือลาออก

ที่จ.อุดรธานี ที่สถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร บ้านหนองลีหู ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี นักจัดรายการอาทิ ดีเจ.ใจเดียว ดีเจ.ก้อง ดีเจ.บ่าวเซียงป่อง ผลัดเปลี่ยนจัดรายการเชิญชวนคนเสื้อแดงที่ไม่เห็นด้วยกับพวกต่อต้านรัฐบาลหรือกลุ่มหน้ากากขาว ให้ออกมารวมตัวไปเผชิญหน้ากับกลุ่มหน้ากากขาว เพื่อถามว่าต้องการอะไรและรัฐบาลทำอะไรผิด

ขณะที่พ.ต.อ.โกวิท เจริญวัฒนศักดิ์ ผกก.สภ.เมืองอุดรธานีเผยว่า เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 100 นาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบไว้คอยรักษาความสงบ ป้องกันเหตุปะทะกันระหว่างทั้งสองกลุ่ม

ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า คนเสื้อแดงจากชมรมคนรักอุดรร่วม 500 คน ใช้รถโมบายและเดินล้อมกรอบกลุ่มหน้ากากขาวที่มาชุมนุม 20 กว่าคน ที่ลานปูนสนามทุ่งศรีเมืองอุดรฯ ตำรวจกว่า 100 นายต้องทำงานหนัก โดยกลุ่มเสื้อแดงกดดันให้หน้ากากขาวยุติการชุมนุมโดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง กลุ่มหน้ากากขาวจึงยอมสลายตัวไปในที่สุดโดยนัดชุมนุมกันใหม่ในสัปดาห์หน้า