กรุงเทพธุรกิจ 9 กรกฎาคม 2556
ณัฐวุฒิ"ระบุเนื้อหาคลิปเสียงปริศนาไม่มีอะไรแปลกใหม่ เชื่อไม่มีใครมีเจตนาอัด
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่มีคลิปเสียงสนทนาคล้ายกับเสียงของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมว่า ตนไม่มีความเชี่ยวชาญที่ไปจะไปฟันธงว่าคลิปดังกล่าวนั้น ตัดต่อหรือไม่ แต่เห็นว่าตลอดการสนทนาเป็นการพูดคุยของคนสองคน ก็ไม่เห็นเหตุผลว่าทั้งคู่จะอัดคลิปที่สนทนากันทำไม หรือหากมีบุคคลอื่นในนั้น และอัดคลิปนำมาเผยแพร่ ป่านนี้ก็คงรู้เป็นการภายในว่าเป็นฝีมือใคร ซึ่งส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะมีผู้กล้าหาญทำแบบนั้น ส่วนเนื้อหาสาระ ฟังแล้วก็ไม่มีอะไรใหม่ หรือน่าหวาดกลัวอย่างที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อ้าง หรืออย่างที่ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ที่บอกว่าเรื่องที่พูดกันในคลิปนั้นเป็นความลับ รู้กันไม่กี่คน ซึ่งตนอยากให้กลับไปทบทวนใหม่ เพราะในประเทศนี้ เหตุการณ์ผ่านมา 10 ปี ไม่มีอะไรเป็นความลับแล้ว ส่วนในคลิปที่ฟังแล้ว ทำให้เห็นว่า พ.ต.ท. ทักษิณ อยากกลับบ้านใจแทบขาดนั้น ก็เรียนว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะรู้กันทั่วโลก ว่าอดีตนายกฯ อยากกลับบ้านมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง เพราะเป็นผู้ถูกกระทำทางการเมือง
"โดยส่วนตัวผมคิดว่า ไม่น่ามีใครไปเจตนาอัดกันขนาดนั้นได้ โดยเนื้อหาสาระก็ไม่มีประเด็นอะไรแปลกใหม่ และไม่น่าตกใจ สิ่งที่น่าตกใจคือหลังการปฏิวัติ ประเทศนี้ เต็มไปด้วยคลิปมั่วไปหมด ทั้งคลิปเสียงและคลิปภาพ และคลิปภาพพร้อมเสียง และหลายคลิป คนที่อยู่ในคลิปก็บอกว่าเป็นเรื่องตัดต่อ เช่นคลิปเสียงของคุณอภิสิทธิ์ คลิปเสียงกับภาพตุลาการรัฐธรรมนูญ ก็บอกว่าตัดต่อ พอมาคลิปนี้ ก็มีบางฝ่ายคาดคั้นเอาเป็นเอาตาย ให้รับให้ได้ให้เป็นคลิปจริง ก็เท่านั้นเอง เป็นเพียงปรากฎการณ์หนึ่งทางการเมืองที่มันค่อนข้างซับซ้อน ละเอียดอ่อนในขณะนี้ ผมเห็นว่าไม่น่าจะมีอะไร ไปขยายประเด็นกันต่อในเรื่องนี้ ยกเว้นแต่ว่า ถ้ามีคนอ้างว่าเสียหายหรือได้รับผลกระทบกับคลิปนี้โดยตรงกับเนื้อหาสาระโดยตรง ก็เป็นเรื่องของบุคคลนั้นๆ" นายณัฐวุฒิ กล่าว