30 มิถุนายน 2556
เป็นอีกวันที่รอคอยของญาติ พี่น้องนายพัน คำกอง แท็กซี่เสื้อแดง น้องอีซา วัย 14 ปี และนายสมร ไหมทอง คนขับรถตู้
ทั้งหมดถูกเจ้าหน้าที่ยิง เสียชีวิตและบาดเจ็บในเหตุการณ์สลายม็อบแดงเมื่อปี"53
ดีเอสไอหอบสำนวน 9 ลัง 61 แฟ้ม 11,242 แผ่น ส่งมอบให้อัยการสำนักงานคดีพิเศษเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.
มีความเห็นสมควรสั่งฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในข้อหาร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล
จากกรณีศอฉ.มีคำสั่งกระชับพื้นที่การชุมนุม นปช.ช่วงเม.ย.-พ.ค.53 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย
การส่งฟ้องครั้งนี้ ทั้งนายอภิสิทธิ์และนาย สุเทพได้เข้ารายงานตัวต่อพนักงานอัยการ ซึ่งอัยการนัดให้ผู้ต้องหาทั้งคู่มารับฟังการสั่งคดีนี้ในอีก 2 เดือนข้างหน้า (26 ส.ค.)
ในการรวมทั้ง 3 คดีมีความสำคัญยิ่ง เพราะเป็นจุดเริ่มต้นในการทวงยุติธรรมให้กับเหยื่อปืน 99 ศพ ผู้บาดเจ็บอีกกว่า 2 พันราย
อีกทั้งศาลมีคำสั่งในคดีชันสูตรศพนายพัน และน้องอีซาออกมาชัดเจนว่าถูกยิงด้วยปืน เจ้าหน้าที่รัฐ ในขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบปิดล้อมพื้นที่ควบคุมตาม คำสั่งศอฉ.
ในช่วง 2 เดือนนี้ นายอภิสิทธิ์ต้องลุ้นด้วยใจระทึก
เพราะนอกจากอัยการนัดฟัง คำสั่งฟ้องคดีนี้ในวันที่ 26 ส.ค. นี้แล้ว
ยังต้องลุ้นศาลรัฐธรรมนูญที่จะมีคำวินิจฉัยคดีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นให้ตรวจสอบว่านายอภิสิทธิ์พ้นสมาชิกภาพส.ส.แล้วหรือไม่ หลังรมว.กลาโหมมีคำสั่งถอนการบรรจุเป็นข้าราชการสัญญาบัตร และคำสั่งแต่งตั้งเป็นว่าที่ร้อยตรี
หากบังเอิญศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าพ้นสภาพส.ส.ขึ้นมาจริงๆ
แล้วเกิดอัยการสั่งฟ้องคดี 99 ศพ
นายอภิสิทธิ์ก็จะไม่มีเอกสิทธิ์ส.ส.คุ้มครอง ต้องสู้คดีในฐานะผู้ต้องหาธรรมดาๆ
เดือนส.ค.นี้ต้องลุ้นกันแบบไม่กะพริบตา !?