"ดีเอสไอ" ส่งอีก 3 ศพเหยื่อ ปืนปี"53 คาดเกิดจากการ กระทำของเจ้าหน้าที่ ให้บช.น. สอบชันสูตร พลิกศพ ทั้ง 3 รายถูกยิงเสียชีวิตบริเวณ บ่อนไก่ ถนนพระราม 4 "ธาริต" นัด 14 มิ.ย. ประชุมปิดคดีฆ่าพัน คำกอง น้องอีซา กับพยายามฆ่าลุงขับรถตู้ หลัง "มาร์ค" ส่งคำให้การแก้ข้อกล่าวหาแล้ว คาดสิ้นเดือนมิ.ย.ส่งสำนวนพร้อม 2 ผู้ต้องหายื่นฟ้อง ต่ออัยการ ขณะที่ "หมอเหวง" เสนออธิบดี ดีเอสไอดำเนินคดี "ถวิล" อดีตเลขาฯ สมช.ด้วย ฐานมีส่วนร่วมปราบม็อบเสื้อแดง
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าสอบสวนคดีการเสียชีวิตประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ 99 ศพ และบาดเจ็บอีกกว่า 2,000 คน จากเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองเมื่อเดือนเม.ย.-พ.ค.2553 ว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อชี้แจงข้อกล่าวหาฐานร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล กรณีการเสียชีวิตของนายพัน คำกอง และด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ หรือน้องอีซา และฐานร่วมกันก่อให้ผู้อื่นพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล กรณีเจ้าหน้าที่ยิงนายสมร ไหมทอง บาดเจ็บสาหัส
นายธาริตกล่าวว่า ส่วนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ และอดีตผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ส่งคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรมาก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้น ในวันศุกร์ที่ 14 มิ.ย. เวลา 14.00 น. จะประชุมพนักงานสอบสวนเพื่อปิดคดี ก่อนส่งสำนวนยื่นฟ้องต่อพนักงานอัยการ โดยจะทำหนังสือถึงผู้ต้องหาทั้ง 2 คน คือนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เพื่อแจ้งการนัดหมายส่งตัวพร้อมสำนวนในช่วงปลายเดือนมิ.ย.
อธิบดีดีเอสไอกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ดีเอสไอยังส่งสำนวนชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต ที่น่าเชื่อว่าเกิดจากการปฏิบัติงานของ เจ้าหน้าที่เพิ่มเติมไปให้กองบัญชาการตำรวจ นครบาล อีกจำนวน 3 ศพ จากเดิมที่ส่งไปให้แล้ว 36 ศพ รวมเป็น 39 ศพ ขณะเดียวกัน บช.น.ยังส่งข้อมูลผู้ต้องสงสัยเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์ จำนวน 31 ราย ให้ดีเอสไอนำไปประกอบการพิจารณาคดี จากเดิมที่ดีเอสไอมีข้อมูลแล้ว 2 ราย โดยในจำนวน 31 ราย ที่ส่งให้เพิ่มเติม เป็นหลักฐานภาพถ่ายบุคคลที่เห็นใบหน้าชัดเจน 6 ราย ดีเอสไอจะรวบรวมข้อมูลเพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ 3 ศพที่ดีเอสไอส่งให้บช.น.สอบสวนชันสูตรพลิกศพเพิ่มเติมนั้น ประกอบด้วย นายอินแปลง เทศวงศ์ อายุ 40 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 9 ต.นาตาล อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 พ.ค.2553 บริเวณบ่อนไก่ ถนนพระราม 4 นายเสน่ห์ นิลเหลือง อายุ 48 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ อยู่บ้านเลขที่ 185 ซอยแสนสุข แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 พ.ค.2553 หน้าปั๊มน้ำมันปตท. บริเวณบ่อนไก่ และนายวุฒิชัย วราห์คัม อายุ 22 ปี อาชีพรับจ้าง อยู่บ้านเลขที่ 118 หมู่ 2 ต.นาหว้า อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 พ.ค.2553 บริเวณถนนพระราม 4 รวมสำนวนที่ดีเอสไอส่งให้บช.น.สอบสวน มีทั้งสิ้น 39 สำนวน และบช.น.สอบสวนเอง 1 สำนวน รวมเป็น 40 สำนวน 40 ศพ
ที่ห้างอิมพีเรียล เวิลด์ ลาดพร้าว นางธิดา โตจิราการ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงถึงกรณีศาลปกครองกลาง เพิกถอนคำสั่งย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี พ้นจากตำแหน่งเลขา ธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่านายถวิลเป็นคนที่มีบทบาทสำคัญมากในเหตุการณ์เดือนเม.ย.-พ.ค.2553 เพราะเป็นผู้ที่ยอมรับว่าใช้กรณีชายชุดดำมาเป็นเหตุผล ให้นายอภิสิทธิ์ไม่ต้องรับผิดชอบการตายใน วันที่ 10 เม.ย.2553 และนายถวิลก็ยอมรับเองว่าเป็นคนแนะนำให้ตั้งข้อหาก่อการร้ายต่อแกนนำและคนเสื้อแดง นายถวิลได้เข้ามาทำงานในยุคที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นรัฐบาล โดยนายอภิสิทธิ์ย้ายเลขาธิการสมช.คนเดิมออกไป และตั้งนายถวิลแทน
ส่วน นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าการที่นายถวิลเคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการสมช. และเลขานุการศอฉ. ในสมัยนายอภิสิทธิ์ ก็เปรียบเสมือนมันสมองของศอฉ. ดังนั้น การที่ศาลชี้ว่า 5 ศพ เสียชีวิตโดยกระสุนของเจ้าหน้าที่ทหารที่มาปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของศอฉ. นายถวิลก็ต้องรับผิดชอบกับ 5 ศพเช่นกันหรือไม่ จึงอยากฝากให้นายธาริตพิจารณาว่านอกจากนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพแล้วนั้น ควรรวมนายถวิลเข้าไปในกลุ่มผู้ถูกกล่าวหาด้วย และอยากฝากไปถึงนายกฯ เดินหน้า พ.ร.ก.นิรโทษกรรม ผู้ชุมนุมทุกคน ยกเว้นแกนนำ และให้มีผลทันที รวมถึงลงนามรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ เฉพาะกรณีเม.ย.-พ.ค.2553 และผลักดันโหวตวาระ 3 แก้ไขรัฐธรรมนูญ ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเกิดขึ้น
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นางเอี่ยม โมลา ชาว จ.นนทบุรี หนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 พร้อมด้วยหลานสาว 2 คน นำหลักฐานทางการแพทย์ ยื่นขอความเป็นธรรมต่อนายไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการติดตามการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง ในคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพราะยังไม่ได้เงินเยียวยาจากรัฐบาล หลังจากไม่ได้รับเงินเยียวยาของรัฐบาล เนื่องจากความผิดพลาดทางเอกสารของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ระบุให้นางเอี่ยมเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่นางเอี่ยมยืนยันว่าเป็น ผู้ทุพพลภาพ
นางเอี่ยมกล่าวว่า ทราบว่านายไพโรจน์จะให้ความเป็นธรรม โดยให้นำเอกสารทางการแพทย์ที่ยืนยันว่าเป็นผู้ทุพพลภาพมาแสดง จึงมาพบที่รัฐสภา แต่ไม่ได้นัดล่วงหน้า และมีเรื่องอยากให้นายไพโรจน์ตรวจสอบการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ที่ห้ามไม่ให้ไปอุทธรณ์ว่าเป็นผู้ทุพพลภาพ เพื่อเข้าเกณฑ์รับเงินเยียวยา พร้อมระบุว่าหากไปอุทธรณ์แล้วจะไม่ได้รับเงินเยียวยา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางเอี่ยมรอนายไพโรจน์นาน 1 ชั่วโมง ก่อนได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาว่า นายไพโรจน์บอกให้มาอีกครั้งในวันที่ 6 มิ.ย. เวลา 09.30 น. และจากการติดต่อไปยังนายไพโรจน์ก็ระบุว่า ต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างละเอียด และเมื่อรับเรื่องแล้วจะนำเอกสารไปตรวจสอบกับกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ อีกครั้ง หากพบว่าขั้นตอนของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ผิดพลาด ก็จะทำให้ถูกต้อง
