เปิดคำสัมภาษณ์อันน่าทึ่ง ของอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา... เบื้องหลังสาเหตุในการไม่ให้ประกันตัว "ก่อแก้ว พิกุลทอง"


2 พฤษภาคม 2556 

"ทวื"ชีชัด!!! กลุ่มการเมืองบี้ศาลรธน.หวังให้ทำตาม-ขู่ฟัน"แดง"ที่ได้ประกันตัวหากโผล่ร่วม

"ทวี   ประจวบลาภ"  อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา  ชี้กลุ่มการเมืองกดดันศาลรัฐธรรมนูญให้ทำอย่างที่ตนต้องการ แต่ชี้คนค้านเป็นสิทธิ   พร้อม ระบุ ศาลก็ตรวจสอบดูแต่ยังไม่ปรากฏชัดเจนว่าจำเลยกลุ่มเสื้อแดงที่ศาลให้ประกันตัวไปอยู่ในกลุ่มที่แสดงบทบาทนี้ด้วย   ถ้าแสดงชัดเจนจะเรียกมาแน่นอน   

วันนี้ (25 เม.ย.) นายทวี   ประจวบลาภ   อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา   ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวทีนิวส์   กรณีศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว   นายก่อแก้ว   พิกุลทอง   ส.ส.พรรคเพื่อไทยและแกนนำกลุ่มเสื้อแดง   เหตุข่มขู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  ไม่มีความสำนึกผิด  

ทีนิวส์   :   ล่าสุดคุณก่อแก้ว   พิกุลทอง   บอกว่าทางเรามองในเรื่องความไม่สามัคคีตรงนั้น   ต้องมีการชี้แจงอย่างไร

ทวี   :   ผมก็อ่านคำให้สัมภาษณ์ของคุณก่อแก้วอยู่เหมือนกัน   คือดูแล้วเข้าใจว่าท่านให้ความเห็นในทัศนะของท่าน   ไม่ได้คิดแบบคุณเจ๋ง   ดอกจิก   แกนนำนปช.   แต่จริง ๆ แล้วศาลอาญาก็มองในลักษณะอย่างนั้นเจรจาว่าจะให้มีการประกันตัวหรือไม่

ทีนิวส์   :   คือต้องมีการขอโทษกันก่อน   ต้องมีการยอมรับความผิดก่อนใช่ไหมครับ

ทวี   :   ทางศาลอาญาได้มีการประชุมปรึกษาหารือกัน   กรณีติดเงื่อนไขอย่างที่ว่า   ที่ศาลให้ประกันตัวเนื่องจากเห็นว่า 1. จำเลยจะปฏิบัติตามคำสั่งของศาล   จึงมีการปล่อยตัวชั่วคราวให้ประกันตัวไป   และให้ปฏิบัติตามคำสั่ง   ศาลนัดเมื่อไหร่ก็ต้องมา    2. อย่าไปทำในสิ่งที่เป็นการขัดขวางกระบวนการยุติธรรม   อย่าไปมีเงื่อนไขว่าให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้   เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างการพิจารณาคดีเลยให้ประกันตัวไปและก็มีเงื่อนไข   กรณีตัวอย่างของกลุ่มคนเสื้อแดง   อย่าปลุกระดมประชาชนยุยงให้มีการทำผิดกฎหมาย   ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นก็เท่ากับว่าทำให้สังคมเดือดร้อน   ผิดเจตนารมณ์อันแท้จริงของศาลในการอนุญาตให้ปล่อยตัว   เพราะฉะนั้นทำอย่างนี้ก็เหมือนกับว่าไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนดไว้   แล้วไม่มีเหตุผลที่จะให้มีการปล่อยชั่วคราว   ถ้าปล่อยไปแล้วก็ยังทำผิดอีกทำนองอย่างนั้น   ศาลเลยต้องวางเงื่อนไขไว้   เมื่อทำผิดอีกก็ต้องมีการลงโทษในแง่ที่ว่าไม่ปฏิบัติตามที่ศาลกำหนด   ไม่ใช่ลงโทษเนื่องจากทำผิดกฎหมาย   คือทำผิดสัญญาที่ศาลได้กำหนดไว้เพราะศาลให้ประกันตัวไปและให้ปฏิบัติตามแบบนี้   เจตนารมณ์ของศาลก็เพื่อรักษาความสงบในบ้านเมือง   ไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งในระหว่างการปล่อยชั่วคราว   แต่พอจำเลยไม่ปฏิบัติตามก็ทำให้สังคมเกิดปัญหาได้   กลัวว่ามันจะเกิดความวุ่นวายเลยต้องลงโทษ   เนื่องจากว่ามันผิดเงื่อนไข   วิธีลงโทษของศาลก็คือให้มีการถอนประกันตัว   พอลงโทษเสร็จแล้วถ้าจำเลยอยากให้ศาลประกันตัวอีกครั้ง   ต่อไปก็ต้องทำให้ศาลเชื่อว่าคุณจะไม่ทำผิดเงื่อนไขตามที่คุณเคยทำมาแล้ว   เหตุที่ศาลให้ประกันตัวตั้งแต่ครั้งแรกเพราะศาลเชื่อว่าเขาจะไม่ทำผิดเงื่อนไขนั่นเอง   และปรากฏว่าเขาฝ่าฝืนมันก็ต้องมีการลงโทษ   การถอนประกันต้องไปถูกควบคุมตัว   ตามกฎหมายถ้าจำเลยไม่ได้รับการประกันตัวต้องถูกควบคุมตัวทุกคน   จนกว่าคดีจะถึงที่สุด   อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าจะปฏิบัติตาม   ถ้าปล่อยไปอีกครั้งหนึ่งจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก   หรืออย่างกรณีที่คุณเจ๋ง   ดอกจิกทำ   ทำนองคล้าย ๆ กับว่าเป็นการขอโทษ   เพราะบางทีทำไปเขารู้เท่าไม่ถึงการณ์   พอมีเหตุผลแสดงต่อศาลก็เลยทำให้ศาลเชื่อว่าจำเลยสำนึกผิดจริง ๆ จะไปขังเขามันก็ไม่สมควร   เลยให้โอกาสเขาประกันตัวอีกครั้งหนึ่ง   แต่กรณีคุณก่อแก้วท่านไม่ได้แสดงอย่างนั้น   พอท่านขอประกันตัวครั้งนี้   ท่านก็ยังเถียงต่อศาล   เถียงตามคำร้อง   ท่านบอกว่าท่านไม่ได้ทำผิดเงื่อนไข   ท่านทำตามสิทธิของท่าน   ยังมีการโต้เถียงในข้อเท็จจริงเรื่องนี้   ทั้ง ๆ ที่ข้อเท็จจริงได้มีการยุติแล้วทำอย่างนั้น   ทำอย่างนี้ศาลรัฐธรรมนูญ  

ทีนิวส์   :  ก็คือคุณก่อแก้วทำในลักษณะที่ว่าสวนทางต่อศาลรัฐธรรมนูญใช่ไหมครับ

ทวี   :   ใช่ครับ   ท่านต้องยื่นคำร้องมาและทำให้ศาลเชื่อได้ว่า   ถ้าศาลปล่อยไปอีกครั้งจะไม่ทำผิดเงื่อนไข   จะไม่ไปทำอย่างที่เคยทำ   ในแง่ของเขาเขาก็มองว่าเขาไม่มีความผิด   แต่ในแง่ของศาลก็มองว่าเป็นผู้อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวถือว่ามันผิดเงื่อนไข   จะก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง   เพราะว่าเจตนารมณ์ของการให้ประกันตัวในคดีอาญา  1. เพื่อไม่ให้จำเลยไปก่อเหตุร้ายอีก   2. ไม่ไปข่มขู่คุกคามพยาน   พยานโจทก์   พยานอะไรก็แล้วแต่   ก็เหมือนกับกรณีคดีคุณธาริต   เพ็งดิษฐ์   อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ  ( ดีเอสไอ )  กรณีขอให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว   เนื่องจาก พล.ต.ท.สมคิด   บุญถนอม   ไปคุกคามพยาน   ทำให้เกิดความหวาดกลัว  

ในทำนองเดียวกันที่ศาลให้ประกันตัวไปเพื่อกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น      แต่ว่าพอคุณก่อแก้วออกมาโต้แย้งว่าไม่ได้ทำผิดเงื่อนไข   ก็เหมือนกับโต้เถียงในข้อเท็จจริง   ศาลฟังแล้วยุติว่าคุณได้ฝ่าฝืนเงื่อนไขตามที่ศาลกำหนด   ถ้าท่านบอกว่าท่านไม่ผิด   มีอยู่ทางเดียวคือท่านต้องอุทธรณ์ไป   ให้ศาลอุทธรณ์ดูอีกทีว่าท่านไม่ผิดนะ   ก็อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวถ้าไม่ผิดจริง ๆ   ถ้ายื่นอีกศาลอาญาสั่งแล้วข้อยุติท่านผิดเงื่อนไข   แล้วจะบอกว่าไม่ผิดเงื่อนไขในสิ่งที่ทำมาแล้ว   ไม่มีพยานหลักฐานมายืนยันในประเด็นนี้   ท่านไปตั่งโต๊ะแถลงข่าวหน้าสภา   มีเจตนาอย่างอื่นท่านก็ไม่พูด   ที่มีปัญหาเป็นเพราะว่าท่านไปตั้งโต๊ะและไปพูดจาทำนองยุยงที่หน้าสภา   จึงเป็นที่มาของศาลรัฐธรรมนูญให้มีการร้องเรียน     

ทีนิวส์   :   อย่างนี้ก็เท่ากับว่าคุณก่อแก้วต้องไปร้องเรียนที่ศาลอุทธรณ์ใช่ไหมครับ

ทวี   :   คือถ้าศาลสั่งแล้วเขามีสิทธิ์  2  อย่าง    อุทธรณ์คำสั่งไม่เห็นด้วยที่ศาลอาญาสั่งยกคำร้องเขา   ควรจะอนุญาตให้มีการปล่อยตัวชั่วคราว    ให้ศาลอุทธรณ์ดูอีกที   ศาลอุทธรณ์มีช่องทางอยู่  2  ทาง   ยื่นตามคำสั่งของศาลอาญา   หรือว่า เห็นด้วยกับข้อโต้แย้งของเขา   เห็นว่าเขาไม่ผิดเงื่อนไข   เห็นว่าเขาสมควรปล่อยชั่วคราว   หรืออะไรก็แล้วแต่   ศาลอุทธรณ์ก็จะสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวไป   วิธีการที่  1. ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลอาญาต่อศาลอุทธรณ์   วิธีการที่ 2. ปล่อยชั่วคราวอีกครั้งหนึ่ง   แสดงเหตุผลว่าเขาจะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลสั่งกำหนดเงื่อนไขในการปล่อยชั่วคราว   อย่างเช่นต่อไปจะเกิดปัญหาอย่างนั้นอีก   จะไม่ให้ศาลเชื่อได้อย่างไร   เขาไม่ได้พิสูจน์ในประเด็นนี้   ท่านพิสูจน์ในประเด็นที่ว่าพอเปิดสมัยประชุม   ท่านก็ออกไปช่วยเหลือระงับข้อพิพาท   ข้อโต้แย้งกันระหว่างในสภา   นอกสภา   แกนนำต่าง ๆ    ท่านพูดถึงแต่ในประเด็นนั้น   แต่ไม่ได้พูดถึงในประเด็นที่ว่า   ท่านจะทำในสิ่งที่ฝ่าฝืนเงื่อนไขข้อห้ามที่ศาลห้ามไว้   ท่านจะทำหรือไม่ทำ   คือเถียงคนละประเด็น   ศาลมองว่าคนละประเด็นกัน   สิ่งที่ท่านทำมันถูกต้อง   แต่มันไม่ใช่เหตุผลที่ศาลสั่งท่าน   สิ่งที่ท่านทำมันเป็นเพราะท่านไปช่วยเหลือพรรค   หรือว่าอะไรก็แล้วแต่   แต่ว่ามันไม่ใช่แนวทางที่ศาลกำหนดว่า   ท่านอย่าไปผิดเงื่อนไขที่ศาลกำหนดนะ   ท่านยังไม่แสดงในจุดที่ศาลเห็น   เว้นแต่ท่านจะใช้ช่องทางที่สองก็คือยื่นประกันตัวใหม่อีกครั้งก็ได้   ยื่นเสร็จก็ต้องพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่า   ถ้าอนุญาตให้เขาปล่อยชั่วคราวไปแล้ว   เขาจะไม่ฝ่าฝืนอีก   มีหลักประกันว่าเขาจะไม่ฝ่าฝืนเพราะอะไร   เชื่อได้หรือเปล่า   มีใครรับรองว่าเขาจะไม่ฝ่าฝืนอีก   แต่ไม่มีใครพูดถึงในประเด็นนี้ว่าถ้าปล่อยชั่วคราวไปแล้ว   เขาจะไม่ฝ่าฝืนเงื่อนไขของศาลอีก   เพียงแต่รับรองความประพฤติว่าที่เปิดสมัยประชุมมาเขาทำตัวดี   ท่านยังไม่ได้ตกปากรับคำให้ศาลเชื่อ   ถ้าปล่อยไปแล้วท่านจะไม่ฝ่าฝืนเงื่อนไขอีก   จะไม่ไปกล่าวปลุกระดม   จะไม่ไปยุยงประชาชนให้ต่อต้านหน่วยงานรัฐ   หน่วยงานนั้น  จะไม่ดำเนินการก่อความวุ่นวาย   ท่านต้องชี้ต้องยื่นคำร้องมีพยานให้ศาลเชื่อ   ท่านอาจจะอ้างได้ว่าทำมาตั้งนานแล้วพอสมควรแล้ว  

ทีนิวส์   :   กรณีตอนนี้รู้สึกว่าศาลรัฐธรรมนูญ   ศาลอาญาโดนสังคมโจมตี 

ทวี   :   ใช่ครับ   เพราะว่าศาลอาญาสั่งไม่ให้มีการประกันตัว   มันก็เลยขัดทำให้เป็นที่ไม่พอใจของคนที่ได้รับผลประโยชน์คำสั่งของศาล   ท่านก็วิจารณ์ในแง่ลบ   ศาลก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา   แต่ว่าก็อย่าไปใช้อคติมาตำหนิติเตียนศาล   มาวิจารณ์ได้ที่ต้องให้เพราะอะไร   ไม่ใช่มาวิจารณ์แบบเสียดสี   ประชดประชันต่อศาลอาญา   แต่ศาลรัฐธรรมนูญผมไม่เกี่ยว   มันคนละเรื่องเพราะว่าเป็นเรื่องของทางการเมือง   ทางการเมืองเขาก็ต้องการกดดันเพื่อให้มีผลในแง่ของการแก้รัฐธรรมนูญ   การเข้ามาแทรกแซง   การดำเนินการของฝ่ายนิติบัญญัติ   ในแง่ของศาลอาญาคนที่ไม่เห็นด้วยก็ออกมาโต้แย้งตามที่ศาลไม่ให้มีการประกันตัว   ซึ่งหมายความว่าคนโต้แย้งเห็นว่าควรจะให้มีการประกันตัว   ก็ถือว่าศาลทำตามกฎหมายแล้วก็วิจารณ์ได้   แต่ต้องไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่กฎหมายให้ไว้   สามารถวิจารณ์ได้แต่ต้องฟังคำสั่งของศาลว่าศาลมีเหตุผลอะไร   ศาลทำเพื่อรักษาความสงบของสังคม   คนส่วนใหญ่ไม่ใช่ว่าทำโดยไม่มีเหตุผล   ศาลกำหนดเงื่อนไขเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย   เหตุที่เพิกถอนเพราะท่านทำให้เกิดความวุ่นวาย

ทีนิวส์   :   หน้าที่ของศาลเพื่อรักษาความยุติธรรม   ทำให้มันถูกต้อง

ทวี   :   ในแง่ของศาลรัฐธรรมนูญก็เป็นเรื่องศาลทางการเมือง   เป็นเรื่องของผลประโยชน์   แต่ศาลอาญาเป็นเรื่องของความผิดทางอาญา   ซึ่งมันกระทบต่อสังคม   ผิดเจตนารมณ์ของการปฏิบัติหน้าที่   ผมก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ประชาชนจะวิพากษ์วิจารณ์โต้แย้งไม่เห็นด้วยกับคำสั่งศาล   บางทีการที่วิจารณ์ท่านอาจจะไม่รู้เหตุผลมาตั้งแต่ต้น   ทำไมให้ประกันตัว   เรามีเงื่อนไขเพราะเหตุผลอะไร   แล้วทำไมเราต้องถอน   เนื่องจากศาลเห็นว่าจำเลยที่ฝ่าฝืนเงื่อนไขเป็นเรื่องที่ร้ายแรง   เป็นเรื่องที่ศาลกำหนดไว้แล้ว   เมื่อจะขอประกันตัว   เชื่อว่าถ้าปล่อยไปจะไม่ฝ่าฝืนอีก   ทางคุณก่อแก้วไม่ได้แสดงให้เห็นในลักษณะนั้น   ในระยะนี้มันเลยไม่มีเหตุผล   ไม่จำเป็นต้องถึงขนาดขอโทษขอโพย   แต่พอดีคุณเจ๋งท่านทำในแง่เกินเลย   เกินเลยในแง่ที่ว่าท่านแสดงความบริสุทธิ์ใจ   ถึงขนาดยอมขอโทษขอโพย   ซึ่งศาลไม่เจตนาขนาดนั้น   แต่พอดีเขาแสดงออกมาทำให้ศาลเห็นใจของจำเลย   เชื่อว่าสำนึกผิดที่ยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขแล้ว   เพราะฉะนั้นมันก็มีเหตุผลอนุญาตให้ปล่อยได้  

ทีนิวส์    :   คุณทวีกลัวไหมว่าวันหนึ่งเราพิพากษา  จะโดนเหมือนศาลรัฐธรรมนูญ   โดนกดดัน

ทวี   :   พอดีอำนาจของศาลอาญากับศาลรัฐธรรมนูญมีความแตกต่างกัน   ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจอื่นใดเลย   แต่ว่าศาลอาญามีอำนาจในแง่ของการพิพากษา   การกระทำความผิดทางอาญา   ลงโทษประหารชีวิต   ลงโทษจำคุก     อำนาจของศาลอาญาจึงเป็นอำนาจที่เด็ดขาดพอสมควร   แต่เราก็ไม่ได้ใช้อำนาจเพื่อในการข่มขู่คุกคาม   หรือทำให้บุคคลภายนอกเกรงกลัว   เพียงแต่ขอพูดด้วยเหตุด้วยผล   ขอให้เข้าใจในเหตุผลในคำสั่งของศาล   ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้มีอคติในการไม่ให้ประกันตัว   เพียงแต่ว่าจนถึงวันนี้คำสัมภาษณ์ล่าสุดของคุณก่อแก้ว   ยังให้คำสัมภาษณ์ที่ทำให้ศาลเชื่อถือไม่ได้   ถ้าปล่อยไปแล้วจะไม่ไปทำอะไรที่ก่อให้เกิดความเสียหายอีก

ทีนิวส์   :   ศาลรัฐธรรมนูญในรอบนี้น่าจะเกี่ยวข้องในเรื่องการเมืองมากกว่า

ทวี   :   ใช่ครับ   กลุ่มการเมืองไปกดดันให้แสดงท่าทีในบทบาท   ตามแนวทางที่กลุ่มการเมืองต้องการ   หรือเห็นว่าบทบาทของศาลรัฐธรรมนูญเกินเลยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้   ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของประชาชนที่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองต่อองค์กร   ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องของการเมืองโดยตรง   แต่ศาลอาญาไม่มีผลประโยชน์เกี่ยวกับทางการเมืองโดยตรง   แสดงความคิดเห็นในส่วนที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยในส่วนที่ว่ากระทำอย่างนั้นมีความเหมาะสมหรือไม่ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง   ซึ่งศาลก็ตรวจสอบดูแต่ยังไม่ปรากฏชัดเจนว่าจำเลยกลุ่มเสื้อแดงที่ศาลให้ประกันตัวไปอยู่ในกลุ่มที่แสดงบทบาทนี้ด้วย   ถ้าแสดงชัดเจนเราเรียกมาแน่นอน  

ทีนิวส์   :  ทาง    ส.ส .และ ส.ว. 312 คนที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องมา   ยังไม่มีการพิจารณาเลยว่าผิดหรือถูก   ตอนนี้สั่งอะไรมาแล้วไม่ยอมรับ

ทวี   :   คือถ้าไม่รับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมันก็จะเป็นปัญหา   เป็นการไม่ยอมรับอำนาจชี้ขาดของศาลรัฐธรรมนูญ   มันแสดงถึงความน่าเชื่อถือต่อสถาบันทางการเมือง   เหมาะสมหรือสมควรแค่ไหน   มันอาจจะเกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ได้ว่าถึงเวลาที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง   ไม่ใช่ว่ากลุ่มท่านแสดงมาจะเป็นเรื่องที่ผิด   มันต้องมองทั้ง  2  ด้านทั้งด้านบวกและด้านลบ   บางทีอาจจะเป็นอย่างที่กลุ่มการเมืองแสดงความคิดเห็นมาก็ได้   แต่เราต้องมีกลกลางที่พอดูเหตุผลแล้วพูดว่าศาลรัฐธรรมนูญทำไม่ถูกต้อง   แต่ไม่ใช่ว่าเขาแสดงออกมาแล้วผิด   มันต้องให้ความเป็นธรรมกับเขาอยู่เหมือนกัน   ต้องให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายเสื้อแดง   หรือฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย   เขาคงต้องการแสดงให้เห็นว่าไม่ยอมรับในการปฏิบัติตามคำสั่ง   ฝ่ายที่ถูกกล่าวหา   ฝ่ายที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มันก็สมควรที่จะต้องกลับมามองตัวเองเหมือนกัน   เราทำอย่างนั้นจริงหรือเปล่า   เราทำตามอำนาจหน้าที่ของเราหรือเปล่า   หรือว่าเราใช้อำนาจหน้าที่แสดงไป   ถ้าเรามองด้วยความเป็นกลาง   งานของรัฐที่ว่าก็คือตัวเองด้วย   ไม่ใช่ว่าเป็นหน่วยงานที่อยู่นอกเหนือการตรวจสอบของประชาชน   เพราะว่าหน่วยงานของรัฐต้องช่วยกันรักษาความสงบความเรียบร้อย   ให้ประชาชนเชื่อถือในความเป็นกลาง   เชื่อถือในการปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา   ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม   ไม่มีการทำตามใบสั่งของใคร   ถ้ามองแบบกลาง ๆ ก็น่าเห็นใจคนที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของรัฐ   ไม่ใช่ว่าท่านอยู่นอกเหนือการตรวจสอบที่ไหน   ถ้าเป็นบุคคลที่ประชาชนเคารพนับถือนั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง   แต่นี่มันไม่ใช่   ท่านเป็นบุคคลองค์กรทางการเมือง   ประชาชนแสดงความคิดเห็นแล้ว   ท่านทำให้กลุ่มคนสงสัยในการใช้อำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน   เพราะฉะนั้นก็น่าเห็นใจเขาอยู่เหมือนกัน   ทำไม่ชอบทำไม่ถูกต้องมันทำไม่ได้