2 พฤษภาคม 2556

"ทวื"ชีชัด!!! กลุ่มการเมืองบี้ศาลรธน.หวังให้ทำตาม-ขู่ฟัน"แดง"ที่ได้ประกันตัวหากโผล่ร่วม
วันนี้ (25 เม.ย.) นายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวทีนิวส์ กรณีศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.พรรคเพื่อไทยและแกนนำกลุ่มเสื้อแดง เหตุข่มขู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีความสำนึกผิด
ทีนิวส์ : ล่าสุดคุณก่อแก้ว พิกุลทอง บอกว่าทางเรามองในเรื่องความไม่สามัคคีตรงนั้น ต้องมีการชี้แจงอย่างไร
ทวี : ผมก็อ่านคำให้สัมภาษณ์ของคุณก่อแก้วอยู่เหมือนกัน คือดูแล้วเข้าใจว่าท่านให้ความเห็นในทัศนะของท่าน ไม่ได้คิดแบบคุณเจ๋ง ดอกจิก แกนนำนปช. แต่จริง ๆ แล้วศาลอาญาก็มองในลักษณะอย่างนั้นเจรจาว่าจะให้มีการประกันตัวหรือไม่
ทีนิวส์ : คือต้องมีการขอโทษกันก่อน ต้องมีการยอมรับความผิดก่อนใช่ไหมครับ
ทวี : ทางศาลอาญาได้มีการประชุมปรึกษาหารือกัน กรณีติดเงื่อนไขอย่างที่ว่า ที่ศาลให้ประกันตัวเนื่องจากเห็นว่า 1. จำเลยจะปฏิบัติตามคำสั่งของศาล จึงมีการปล่อยตัวชั่วคราวให้ประกันตัวไป และให้ปฏิบัติตามคำสั่ง ศาลนัดเมื่อไหร่ก็ต้องมา 2. อย่าไปทำในสิ่งที่เป็นการขัดขวางกระบวนการยุติธรรม อย่าไปมีเงื่อนไขว่าให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างการพิจารณาคดีเลยให้ประกันตัวไปและก็มีเงื่อนไข กรณีตัวอย่างของกลุ่มคนเสื้อแดง อย่าปลุกระดมประชาชนยุยงให้มีการทำผิดกฎหมาย ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นก็เท่ากับว่าทำให้สังคมเดือดร้อน ผิดเจตนารมณ์อันแท้จริงของศาลในการอนุญาตให้ปล่อยตัว เพราะฉะนั้นทำอย่างนี้ก็เหมือนกับว่าไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนดไว้ แล้วไม่มีเหตุผลที่จะให้มีการปล่อยชั่วคราว ถ้าปล่อยไปแล้วก็ยังทำผิดอีกทำนองอย่างนั้น ศาลเลยต้องวางเงื่อนไขไว้ เมื่อทำผิดอีกก็ต้องมีการลงโทษในแง่ที่ว่าไม่ปฏิบัติตามที่ศาลกำหนด ไม่ใช่ลงโทษเนื่องจากทำผิดกฎหมาย คือทำผิดสัญญาที่ศาลได้กำหนดไว้เพราะศาลให้ประกันตัวไปและให้ปฏิบัติตามแบบนี้ เจตนารมณ์ของศาลก็เพื่อรักษาความสงบในบ้านเมือง ไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งในระหว่างการปล่อยชั่วคราว แต่พอจำเลยไม่ปฏิบัติตามก็ทำให้สังคมเกิดปัญหาได้ กลัวว่ามันจะเกิดความวุ่นวายเลยต้องลงโทษ เนื่องจากว่ามันผิดเงื่อนไข วิธีลงโทษของศาลก็คือให้มีการถอนประกันตัว พอลงโทษเสร็จแล้วถ้าจำเลยอยากให้ศาลประกันตัวอีกครั้ง ต่อไปก็ต้องทำให้ศาลเชื่อว่าคุณจะไม่ทำผิดเงื่อนไขตามที่คุณเคยทำมาแล้ว เหตุที่ศาลให้ประกันตัวตั้งแต่ครั้งแรกเพราะศาลเชื่อว่าเขาจะไม่ทำผิดเงื่อนไขนั่นเอง และปรากฏว่าเขาฝ่าฝืนมันก็ต้องมีการลงโทษ การถอนประกันต้องไปถูกควบคุมตัว ตามกฎหมายถ้าจำเลยไม่ได้รับการประกันตัวต้องถูกควบคุมตัวทุกคน จนกว่าคดีจะถึงที่สุด อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าจะปฏิบัติตาม ถ้าปล่อยไปอีกครั้งหนึ่งจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก หรืออย่างกรณีที่คุณเจ๋ง ดอกจิกทำ ทำนองคล้าย ๆ กับว่าเป็นการขอโทษ เพราะบางทีทำไปเขารู้เท่าไม่ถึงการณ์ พอมีเหตุผลแสดงต่อศาลก็เลยทำให้ศาลเชื่อว่าจำเลยสำนึกผิดจริง ๆ จะไปขังเขามันก็ไม่สมควร เลยให้โอกาสเขาประกันตัวอีกครั้งหนึ่ง แต่กรณีคุณก่อแก้วท่านไม่ได้แสดงอย่างนั้น พอท่านขอประกันตัวครั้งนี้ ท่านก็ยังเถียงต่อศาล เถียงตามคำร้อง ท่านบอกว่าท่านไม่ได้ทำผิดเงื่อนไข ท่านทำตามสิทธิของท่าน ยังมีการโต้เถียงในข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ทั้ง ๆ ที่ข้อเท็จจริงได้มีการยุติแล้วทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้ศาลรัฐธรรมนูญ
ทีนิวส์ : ก็คือคุณก่อแก้วทำในลักษณะที่ว่าสวนทางต่อศาลรัฐธรรมนูญใช่ไหมครับ
ทวี : ใช่ครับ ท่านต้องยื่นคำร้องมาและทำให้ศาลเชื่อได้ว่า ถ้าศาลปล่อยไปอีกครั้งจะไม่ทำผิดเงื่อนไข จะไม่ไปทำอย่างที่เคยทำ ในแง่ของเขาเขาก็มองว่าเขาไม่มีความผิด แต่ในแง่ของศาลก็มองว่าเป็นผู้อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวถือว่ามันผิดเงื่อนไข จะก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เพราะว่าเจตนารมณ์ของการให้ประกันตัวในคดีอาญา 1. เพื่อไม่ให้จำเลยไปก่อเหตุร้ายอีก 2. ไม่ไปข่มขู่คุกคามพยาน พยานโจทก์ พยานอะไรก็แล้วแต่ ก็เหมือนกับกรณีคดีคุณธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ( ดีเอสไอ ) กรณีขอให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจาก พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ไปคุกคามพยาน ทำให้เกิดความหวาดกลัว
ในทำนองเดียวกันที่ศาลให้ประกันตัวไปเพื่อกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น แต่ว่าพอคุณก่อแก้วออกมาโต้แย้งว่าไม่ได้ทำผิดเงื่อนไข ก็เหมือนกับโต้เถียงในข้อเท็จจริง ศาลฟังแล้วยุติว่าคุณได้ฝ่าฝืนเงื่อนไขตามที่ศาลกำหนด ถ้าท่านบอกว่าท่านไม่ผิด มีอยู่ทางเดียวคือท่านต้องอุทธรณ์ไป ให้ศาลอุทธรณ์ดูอีกทีว่าท่านไม่ผิดนะ ก็อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวถ้าไม่ผิดจริง ๆ ถ้ายื่นอีกศาลอาญาสั่งแล้วข้อยุติท่านผิดเงื่อนไข แล้วจะบอกว่าไม่ผิดเงื่อนไขในสิ่งที่ทำมาแล้ว ไม่มีพยานหลักฐานมายืนยันในประเด็นนี้ ท่านไปตั่งโต๊ะแถลงข่าวหน้าสภา มีเจตนาอย่างอื่นท่านก็ไม่พูด ที่มีปัญหาเป็นเพราะว่าท่านไปตั้งโต๊ะและไปพูดจาทำนองยุยงที่หน้าสภา จึงเป็นที่มาของศาลรัฐธรรมนูญให้มีการร้องเรียน
ทีนิวส์ : อย่างนี้ก็เท่ากับว่าคุณก่อแก้วต้องไปร้องเรียนที่ศาลอุทธรณ์ใช่ไหมครับ
ทวี : คือถ้าศาลสั่งแล้วเขามีสิทธิ์ 2 อย่าง อุทธรณ์คำสั่งไม่เห็นด้วยที่ศาลอาญาสั่งยกคำร้องเขา ควรจะอนุญาตให้มีการปล่อยตัวชั่วคราว ให้ศาลอุทธรณ์ดูอีกที ศาลอุทธรณ์มีช่องทางอยู่ 2 ทาง ยื่นตามคำสั่งของศาลอาญา หรือว่า เห็นด้วยกับข้อโต้แย้งของเขา เห็นว่าเขาไม่ผิดเงื่อนไข เห็นว่าเขาสมควรปล่อยชั่วคราว หรืออะไรก็แล้วแต่ ศาลอุทธรณ์ก็จะสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวไป วิธีการที่ 1. ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลอาญาต่อศาลอุทธรณ์ วิธีการที่ 2. ปล่อยชั่วคราวอีกครั้งหนึ่ง แสดงเหตุผลว่าเขาจะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลสั่งกำหนดเงื่อนไขในการปล่อยชั่วคราว อย่างเช่นต่อไปจะเกิดปัญหาอย่างนั้นอีก จะไม่ให้ศาลเชื่อได้อย่างไร เขาไม่ได้พิสูจน์ในประเด็นนี้ ท่านพิสูจน์ในประเด็นที่ว่าพอเปิดสมัยประชุม ท่านก็ออกไปช่วยเหลือระงับข้อพิพาท ข้อโต้แย้งกันระหว่างในสภา นอกสภา แกนนำต่าง ๆ ท่านพูดถึงแต่ในประเด็นนั้น แต่ไม่ได้พูดถึงในประเด็นที่ว่า ท่านจะทำในสิ่งที่ฝ่าฝืนเงื่อนไขข้อห้ามที่ศาลห้ามไว้ ท่านจะทำหรือไม่ทำ คือเถียงคนละประเด็น ศาลมองว่าคนละประเด็นกัน สิ่งที่ท่านทำมันถูกต้อง แต่มันไม่ใช่เหตุผลที่ศาลสั่งท่าน สิ่งที่ท่านทำมันเป็นเพราะท่านไปช่วยเหลือพรรค หรือว่าอะไรก็แล้วแต่ แต่ว่ามันไม่ใช่แนวทางที่ศาลกำหนดว่า ท่านอย่าไปผิดเงื่อนไขที่ศาลกำหนดนะ ท่านยังไม่แสดงในจุดที่ศาลเห็น เว้นแต่ท่านจะใช้ช่องทางที่สองก็คือยื่นประกันตัวใหม่อีกครั้งก็ได้ ยื่นเสร็จก็ต้องพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่า ถ้าอนุญาตให้เขาปล่อยชั่วคราวไปแล้ว เขาจะไม่ฝ่าฝืนอีก มีหลักประกันว่าเขาจะไม่ฝ่าฝืนเพราะอะไร เชื่อได้หรือเปล่า มีใครรับรองว่าเขาจะไม่ฝ่าฝืนอีก แต่ไม่มีใครพูดถึงในประเด็นนี้ว่าถ้าปล่อยชั่วคราวไปแล้ว เขาจะไม่ฝ่าฝืนเงื่อนไขของศาลอีก เพียงแต่รับรองความประพฤติว่าที่เปิดสมัยประชุมมาเขาทำตัวดี ท่านยังไม่ได้ตกปากรับคำให้ศาลเชื่อ ถ้าปล่อยไปแล้วท่านจะไม่ฝ่าฝืนเงื่อนไขอีก จะไม่ไปกล่าวปลุกระดม จะไม่ไปยุยงประชาชนให้ต่อต้านหน่วยงานรัฐ หน่วยงานนั้น จะไม่ดำเนินการก่อความวุ่นวาย ท่านต้องชี้ต้องยื่นคำร้องมีพยานให้ศาลเชื่อ ท่านอาจจะอ้างได้ว่าทำมาตั้งนานแล้วพอสมควรแล้ว
ทีนิวส์ : กรณีตอนนี้รู้สึกว่าศาลรัฐธรรมนูญ ศาลอาญาโดนสังคมโจมตี
ทวี : ใช่ครับ เพราะว่าศาลอาญาสั่งไม่ให้มีการประกันตัว มันก็เลยขัดทำให้เป็นที่ไม่พอใจของคนที่ได้รับผลประโยชน์คำสั่งของศาล ท่านก็วิจารณ์ในแง่ลบ ศาลก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ว่าก็อย่าไปใช้อคติมาตำหนิติเตียนศาล มาวิจารณ์ได้ที่ต้องให้เพราะอะไร ไม่ใช่มาวิจารณ์แบบเสียดสี ประชดประชันต่อศาลอาญา แต่ศาลรัฐธรรมนูญผมไม่เกี่ยว มันคนละเรื่องเพราะว่าเป็นเรื่องของทางการเมือง ทางการเมืองเขาก็ต้องการกดดันเพื่อให้มีผลในแง่ของการแก้รัฐธรรมนูญ การเข้ามาแทรกแซง การดำเนินการของฝ่ายนิติบัญญัติ ในแง่ของศาลอาญาคนที่ไม่เห็นด้วยก็ออกมาโต้แย้งตามที่ศาลไม่ให้มีการประกันตัว ซึ่งหมายความว่าคนโต้แย้งเห็นว่าควรจะให้มีการประกันตัว ก็ถือว่าศาลทำตามกฎหมายแล้วก็วิจารณ์ได้ แต่ต้องไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่กฎหมายให้ไว้ สามารถวิจารณ์ได้แต่ต้องฟังคำสั่งของศาลว่าศาลมีเหตุผลอะไร ศาลทำเพื่อรักษาความสงบของสังคม คนส่วนใหญ่ไม่ใช่ว่าทำโดยไม่มีเหตุผล ศาลกำหนดเงื่อนไขเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย เหตุที่เพิกถอนเพราะท่านทำให้เกิดความวุ่นวาย
ทีนิวส์ : หน้าที่ของศาลเพื่อรักษาความยุติธรรม ทำให้มันถูกต้อง
ทวี : ในแง่ของศาลรัฐธรรมนูญก็เป็นเรื่องศาลทางการเมือง เป็นเรื่องของผลประโยชน์ แต่ศาลอาญาเป็นเรื่องของความผิดทางอาญา ซึ่งมันกระทบต่อสังคม ผิดเจตนารมณ์ของการปฏิบัติหน้าที่ ผมก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ประชาชนจะวิพากษ์วิจารณ์โต้แย้งไม่เห็นด้วยกับคำสั่งศาล บางทีการที่วิจารณ์ท่านอาจจะไม่รู้เหตุผลมาตั้งแต่ต้น ทำไมให้ประกันตัว เรามีเงื่อนไขเพราะเหตุผลอะไร แล้วทำไมเราต้องถอน เนื่องจากศาลเห็นว่าจำเลยที่ฝ่าฝืนเงื่อนไขเป็นเรื่องที่ร้ายแรง เป็นเรื่องที่ศาลกำหนดไว้แล้ว เมื่อจะขอประกันตัว เชื่อว่าถ้าปล่อยไปจะไม่ฝ่าฝืนอีก ทางคุณก่อแก้วไม่ได้แสดงให้เห็นในลักษณะนั้น ในระยะนี้มันเลยไม่มีเหตุผล ไม่จำเป็นต้องถึงขนาดขอโทษขอโพย แต่พอดีคุณเจ๋งท่านทำในแง่เกินเลย เกินเลยในแง่ที่ว่าท่านแสดงความบริสุทธิ์ใจ ถึงขนาดยอมขอโทษขอโพย ซึ่งศาลไม่เจตนาขนาดนั้น แต่พอดีเขาแสดงออกมาทำให้ศาลเห็นใจของจำเลย เชื่อว่าสำนึกผิดที่ยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขแล้ว เพราะฉะนั้นมันก็มีเหตุผลอนุญาตให้ปล่อยได้
ทีนิวส์ : คุณทวีกลัวไหมว่าวันหนึ่งเราพิพากษา จะโดนเหมือนศาลรัฐธรรมนูญ โดนกดดัน
ทวี : พอดีอำนาจของศาลอาญากับศาลรัฐธรรมนูญมีความแตกต่างกัน ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจอื่นใดเลย แต่ว่าศาลอาญามีอำนาจในแง่ของการพิพากษา การกระทำความผิดทางอาญา ลงโทษประหารชีวิต ลงโทษจำคุก อำนาจของศาลอาญาจึงเป็นอำนาจที่เด็ดขาดพอสมควร แต่เราก็ไม่ได้ใช้อำนาจเพื่อในการข่มขู่คุกคาม หรือทำให้บุคคลภายนอกเกรงกลัว เพียงแต่ขอพูดด้วยเหตุด้วยผล ขอให้เข้าใจในเหตุผลในคำสั่งของศาล ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้มีอคติในการไม่ให้ประกันตัว เพียงแต่ว่าจนถึงวันนี้คำสัมภาษณ์ล่าสุดของคุณก่อแก้ว ยังให้คำสัมภาษณ์ที่ทำให้ศาลเชื่อถือไม่ได้ ถ้าปล่อยไปแล้วจะไม่ไปทำอะไรที่ก่อให้เกิดความเสียหายอีก
ทีนิวส์ : ศาลรัฐธรรมนูญในรอบนี้น่าจะเกี่ยวข้องในเรื่องการเมืองมากกว่า
ทวี : ใช่ครับ กลุ่มการเมืองไปกดดันให้แสดงท่าทีในบทบาท ตามแนวทางที่กลุ่มการเมืองต้องการ หรือเห็นว่าบทบาทของศาลรัฐธรรมนูญเกินเลยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของประชาชนที่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองต่อองค์กร ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องของการเมืองโดยตรง แต่ศาลอาญาไม่มีผลประโยชน์เกี่ยวกับทางการเมืองโดยตรง แสดงความคิดเห็นในส่วนที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยในส่วนที่ว่ากระทำอย่างนั้นมีความเหมาะสมหรือไม่ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง ซึ่งศาลก็ตรวจสอบดูแต่ยังไม่ปรากฏชัดเจนว่าจำเลยกลุ่มเสื้อแดงที่ศาลให้ประกันตัวไปอยู่ในกลุ่มที่แสดงบทบาทนี้ด้วย ถ้าแสดงชัดเจนเราเรียกมาแน่นอน
ทีนิวส์ : ทาง ส.ส .และ ส.ว. 312 คนที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องมา ยังไม่มีการพิจารณาเลยว่าผิดหรือถูก ตอนนี้สั่งอะไรมาแล้วไม่ยอมรับ
ทวี : คือถ้าไม่รับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมันก็จะเป็นปัญหา เป็นการไม่ยอมรับอำนาจชี้ขาดของศาลรัฐธรรมนูญ มันแสดงถึงความน่าเชื่อถือต่อสถาบันทางการเมือง เหมาะสมหรือสมควรแค่ไหน มันอาจจะเกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ได้ว่าถึงเวลาที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่ว่ากลุ่มท่านแสดงมาจะเป็นเรื่องที่ผิด มันต้องมองทั้ง 2 ด้านทั้งด้านบวกและด้านลบ บางทีอาจจะเป็นอย่างที่กลุ่มการเมืองแสดงความคิดเห็นมาก็ได้ แต่เราต้องมีกลกลางที่พอดูเหตุผลแล้วพูดว่าศาลรัฐธรรมนูญทำไม่ถูกต้อง แต่ไม่ใช่ว่าเขาแสดงออกมาแล้วผิด มันต้องให้ความเป็นธรรมกับเขาอยู่เหมือนกัน ต้องให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายเสื้อแดง หรือฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย เขาคงต้องการแสดงให้เห็นว่าไม่ยอมรับในการปฏิบัติตามคำสั่ง ฝ่ายที่ถูกกล่าวหา ฝ่ายที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มันก็สมควรที่จะต้องกลับมามองตัวเองเหมือนกัน เราทำอย่างนั้นจริงหรือเปล่า เราทำตามอำนาจหน้าที่ของเราหรือเปล่า หรือว่าเราใช้อำนาจหน้าที่แสดงไป ถ้าเรามองด้วยความเป็นกลาง งานของรัฐที่ว่าก็คือตัวเองด้วย ไม่ใช่ว่าเป็นหน่วยงานที่อยู่นอกเหนือการตรวจสอบของประชาชน เพราะว่าหน่วยงานของรัฐต้องช่วยกันรักษาความสงบความเรียบร้อย ให้ประชาชนเชื่อถือในความเป็นกลาง เชื่อถือในการปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ไม่มีการทำตามใบสั่งของใคร ถ้ามองแบบกลาง ๆ ก็น่าเห็นใจคนที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของรัฐ ไม่ใช่ว่าท่านอยู่นอกเหนือการตรวจสอบที่ไหน ถ้าเป็นบุคคลที่ประชาชนเคารพนับถือนั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่นี่มันไม่ใช่ ท่านเป็นบุคคลองค์กรทางการเมือง ประชาชนแสดงความคิดเห็นแล้ว ท่านทำให้กลุ่มคนสงสัยในการใช้อำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน เพราะฉะนั้นก็น่าเห็นใจเขาอยู่เหมือนกัน ทำไม่ชอบทำไม่ถูกต้องมันทำไม่ได้
