ข่าวสดออนไลน์
2 พฤกษภาคม 2556
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
สมิงสามผลัด
การที่ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล่าวปาฐกถาในที่ประชุมประชาคมประชาธิปไตยโลกที่มองโกเลีย กลายเป็นข่าวใหญ่ในเมืองไทย
ต้องยอมรับว่าท่าทีนายกฯยิ่งลักษณ์เปลี่ยนไป หลังเป็นฝ่ายตั้งรับมาตลอด 2 ปี
ที่ผ่านมาที่นายกฯยิ่งลักษณ์เลือกที่จะไม่ตอบโต้ ก็มีเหตุผลหลายๆ อย่าง
อาจเป็นเพราะความเป็น ผู้หญิง มีความอดทนสูง ไม่ใช่คนก้าวร้าว
ไม่ใช่พวกดีแต่พูด
ที่สำคัญเข้าใจว่าต้องการให้เกิดบรรยากาศปรองดองขึ้นในประเทศ!
แต่ความอดทน-อดกลั้น ไม่ตอบโต้ฝ่ายตรงข้าม
กลับกลายเป็นเป้าให้โดนถล่มอยู่เรื่อยไป
ฉะนั้น การที่นายกฯยิ่งลักษณ์ประกาศฟ้องต่อชาวโลกถึงวิบากกรรมประชาธิปไตยไทย
ถือเป็นการเปลี่ยนเกมจากตั้งรับเป็นรุกไล่บ้างแล้ว
เริ่มจากเปิดโปงการรัฐประหารในไทย ล้มรัฐบาลเลือกตั้งเมื่อปี"49 ทำให้ประชาชนสูญเสียเสรีภาพออกมาต่อสู้ทวงคืนจนเสียชีวิตกว่า 91 ศพ
ถูกลอบยิงด้วยสไนเปอร์ใจกลางเมืองหลวง
ระบุด้วยว่ารัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นในรัฐบาลภายใต้คณะรัฐประหารได้ใส่กลไกที่ตีกรอบเพื่อจำกัดความเป็นประชาธิปไตย
องค์กรอิสระก็ใช้อำนาจเกินขอบเขต
ทุกวันนี้ขบวนการต่อต้านประชาธิปไตยในไทยยังมีอยู่จริงๆ
แต่นายกฯยิ่งลักษณ์ก็ไม่วายโดนโจมตีจากฝ่ายตรงข้ามหน้าเดิมๆ
พูดทำนองไม่น่าจะเอาเรื่องนี้ไปพูดนอกประเทศให้เสื่อมเสีย ควรเอามาถกกันในสภาจะดีกว่า
คนที่วิพากษ์วิจารณ์เช่นนี้แสดงว่าแกล้งไม่รู้เรื่อง
นายกฯยิ่งลักษณ์ปาฐกถา ในที่ประชุมประชาคมประชาธิป ไตยโลก
ถ้าไม่พูดเรื่องประชาธิปไตย แล้วจะให้พูดอะไร
บ้างก็โจมตีว่าไม่เหมาะสม ด่าคนไทยให้ฝรั่งฟัง
นี่ก็อ่านไม่แตก
นายกฯยิ่งลักษณ์ไม่ได้ทำร้ายประเทศ แต่เปิดโปงพวกเผด็จการ พวกทำลายประชาธิปไตย
คนอื่นที่รับฟังก็เข้าใจ และชื่นชม
มีก็แต่พวกตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร พวกเห็นดีเห็นงามกับการปฏิวัติ
ที่ไม่มีวันเข้าใจเรื่องนี้!?

