ทีมข่าว นปช.
9 พฤษภาคม 2556
จากเฟสบุ๊ค "น.พ.เหวง โตจิราการ" วันพุธที่ 8 พฤษภาคม 2556
"โกหกคำโต" ในแถลงการณ์ของ "พรรคประชาธิปัตย์" ซึ่ง นพ.เหวง โตจิราการ ได้เขียนลงในเฟสบุ๊คไว้ เมื่อวันพุธที่ 8 พฤษภาคม 2556 และเนื่องจากเป็นบทความที่ค่อนข้างยาวพอสมควร ทางทีมข่าว นปช. จึงขออนุญาตนำเสนอเป็นตอนที่ 1-3 ดังมีเนื้อหาดังต่อไปนี้
1. ในแถลงการของ ปชป. เริ่มต้นก็พุ่งเป้าใส่ทักษิณเลยครับ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เข้าสู่เวทีการเมืองและดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี พ.ศ. 2544-2549
1.1 การบริหารราชการแผ่นดินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้นเต็มไปด้วยการทุจริตคอรัปชั่น มีการแก้กฏหมายเพื่อตอบสนองผลประโยชน์ทางธุรกิจ"
ปชป.ครับ คุณโกหกหน้าด้าน ๆ เลยครับ
หากเต็มไปด้วยการทุจริตคอรัปชั่น ประเทศไทยจะมั่งคั่งได้อย่างไรครับ?
แสดงออกที่ทักษิณสามารถใช้คืนหนี้ไอเอ็มเอฟล่วงหน้าถึงสองปี ประหยัดเงินแผ่นดินได้กว่าสี่พันล้านบาทครับ
ทักษิณเป็นรัฐบาลแรกที่ทำให้งบประมาณสมดุล และเลยไปถึงขั้นงบประมาณเกินดุล ทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนโฉมจากประเทศลูกหนี้ (ต้องกู้จากประเทศอื่น) ให้เป็นประเทศเจ้าหนี้ (ให้ประเทศอื่นกู้)
1.2 ปชป.กล่าวว่า "นโยบายการทำสงครามยาเสพติด ซึ่งก่อให้เกิดการฆาตกรรมเกินขอบเขตกฏหมายหรือ การฆ่าตัดตอน หลายพันศพ"
นี่ก็โกหกคำโตอีกเช่นกัน ก็พวกเผด็จการทหารเป็นรัฐบาลอยู่ปีกว่า (ก.ย.2549 ถึงธ.ค.2550) แล้วปชป.ก็เป็นรัฐบาลหลังรัฐประหารถึง 2 ปีกว่า (2551 ปลายปีถึง 2554 กลางปี) ไม่เคยปรากฏว่ามีคดีในเรื่องฆ่าตัดตอนที่สาวถึงทักษิณเลยแม้แต่คดีเดียว ถ้า "ฆ่าตัดตอน" ตั้ง 2,500 ศพ ก็ต้องมีสักคดีซิครับที่สาวถึงทักษิณ นี่ไม่มีเลย คุณอย่าโกหกดีกว่า
2. แถลงการณ์ ปชป. กล่าวว่า "ฝ่ายทหารได้เข้าแทรกแซงในเดือนกันยายนปีพ.ศ. 2549 และแต่งตั้งรัฐบาลพลเรือนชั่วคราว ต่อมาก็มีการจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนได้ให้ความเห็นชอบต่อรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในเดือนสิงหาคมปีพ.ศ. 2550 ในการลงประชามติซึ่งเป็นครั้งแรกของประเทศไทย การเลือกตั้งทั่วไปจึงได้เกิดขึ้น"
ปชป. ใช้ภาษาเรียกการรัฐประหารว่า "แทรกแซง" ไม่น้องไปหน่อยหรือ รัฐประหารไม่ใช่การแทรกแซงครับ แต่เป็นการทำลายล้างระบอบประชาธิปไตยลงไปเลย ไหนปชป.บอกว่าไม่สนับสนุนการรัฐประหารไงล่ะ คุณไปผัดหน้าทาแป้งให้การรัฐประหารกลายเป็นเพียง "ได้เข้าแทรกแซง" เฉยเลย ดูราวกับว่าไม่เห็นรุนแรงอะไรเลย ไม่ก่อให้เกิดความพินาศฉิบหายใด ๆ
และก่อนที่จะกล่าวถึง "ฝ่ายทหารได้เข้าแทรกแซง" ก็ใส่ร้ายเต็มที่ว่าเกิดขึ้นเนื่องจากความชั่วร้ายของทักษิณทั้งหมด นี่ก็เป็นการโกหกคำโตชัด ๆ เพราะเงื่อนไขรัฐประหารเกิดจากความเกลียดและกลัวของพวกอำมาตย์ที่มีต่อทักษิณ เนื่องจากทักษิณบริหารประเทศประสบผลสำเร็จ จนประชาชนนับวันรักและเข้าข้างทักษิณมากยิ่งขึ้นทุกที
ที่จับได้คาหนังคาเขาและพวกอำมาตย์ไม่ปฏิเสธเลยคือ การสารภาพของพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ออกมาบอกสาธารณชนว่า ในกลางเดือน (พ.ค.หรือมิ.ย.49) ที่บ้านสุขุมวิทของนายปีย์ มาลากุล มีบุคคลระดับสูงของประเทศ 7 คนไปประชุมปรึกษาหารือกันเพื่อเล่นงานทักษิณ แล้วพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ถามพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณีว่า "มีวิธีทำให้ทักษิณหายไปหรือไม่?" พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณีตอบว่า "มี แต่ต้องตายกันจำนวนไม่น้อย"
นี่ไงเล่าครับ มีการเตรียมการทำรับประหารของพวกอำมาตย์กันอย่างเป็นระบบแล้ว การเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงเป็นการเดินหมากเพื่อนำไปสู่การรัฐประหารนั่นเอง
ในค่ำคืนเดือนก.พ. 49 ที่พันธมิตรฯ นำโดยสนธิลิ้มเข้าไปประชุมลับกับพล.อ.สนธิ บุณยรัตกลินหัวหน้าคณะรัฐประหารเป็นเวลาหลายชั่วโมงที่หอประชุมกองทัพบกในเวลาเข้าสู่วันใหม่ สมคบกันวางแผนอะไรครับ?
แล้วที่ ปชป. บอกว่า "เสียงส่วนใหญ่ได้ให้ความเห็นชอบต่อรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในเดือนสิงหาคมปีพ.ศ. 2550 ในการลงประชามติซึ่งเป็นครั้งแรกของประเทศไทย" นั้น ปชป. ตั้งใจปิดบังความเลวร้ายของกระบวนการลงประชามติครั้งนั้นเอาไว้
ไม่สำเร็จดอกหรับ เพราะทุกคนเห็นตำตาว่า ประชามติครั้งนั้นทำภายใต้กฏอัยการศึก (หมายความว่าปกครอบด้วยปืน) เกือบ 40 จังหวัด พวกรับประหารส่งทหารพร้อมอาวุธครบมือ 3-5 คนเข้าเกือบทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ เพื่อข่มขู่ประชาชนให้โหวตรับรัฐธรรมนูญ 50 แล้วยังขู่ว่าถ้าไม่ยอมรับพวกรัฐประหารก็จะไปเอารัฐธรรมนูญที่พวกเขาชอบใจมาบังคับใช้เลย
ประชาชนก็เลยไปโหวดรับพวกคุณ 14.7 ล้านเสียง แต่ในนี้ 30% บอกว่า "จำใจโหวตรับไป" เพราะเกลียดรัฐบาลสุรยุทธ์ ต้องการเลือกตั้งโดยเร็ว ต้องการให้พวกเผด็จการทหารหมดอำนาจไปโดยเร็วครับ
จึงเป็นประชามิตภายใต้การบงการของกระบอกปืนครับ

