คำพิพากษา " ศาลอาญากรุงเทพใต้ " วางเพลิงห้างเซ็นทรัลฯ
ทีมข่าว นปช.
26 มีนาคม 2556
ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง วันที่ 25
มี.ค.56 เวลา 09.30 น.
ศาลอ่านคำพิพากษาวางเพลิงเผาศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด คดีหมายเลขดำ ด.
2478/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสายชล
แพบัว อายุ 31 ปี ชาว จ. ชัยนาท การ์ด นปช. และนายพินิจ จันทร์ณรงค์ อายุ
29 ปี เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์
โรงเรือนที่เก็บสินค้า เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
พี่น้องเสื้อแดงครับถ้าพวกมันยังพูดว่า “แดงเผาบ้านเผาเมือง” “แดงก่อการร้าย”ละก็
แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ “พวกมัน”ทั่วประเทศเลยครับ ผมขอเริ่มโดยการคัดเอาคำพิพากษาศาลจากข่าวสดรายวัน(25/3/56)ให้พี่น้องได้อ่านก่อนนะครับ
ศาลเห็นว่าแม้โจทก์มีพยานเป็น รปภ.ซึ่งเป็นผู้ถ่ายภาพของจำเลยที่ 1 ได้ในที่เกิดเหตุ แต่ก็อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 30 เมตร และเห็นเพียงว่าจำเลยที่ 1 ถือถังดับเพลิง ซึ่งไม่ใช่อุปกรณ์ที่จะใช้ในการวางเพลิง แม้จะอนุมานไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 จะเข้าไปช่วยดับเพลิงหรือไม่ ประกอบกับพยานโจทก์ปากนี้ก็ไม่สามารถตอบคำถามทนายจำเลยได้ว่าเห็นจำเลยที่ 1 เป็นผู้วางเพลิงหรือไม่ นอกจากนี้โจทก์ยังไม่มีพยานปากอื่นที่จะมาเบิกความชี้ชัดถึงพฤติการณ์จำเลยที่ 1 ในการวางเพลิงหรือสนับสนุนการวางเพลิงแต่อย่างใด นอกจากภาพถ่ายเพียงใบเดียวที่แสดงให้เห็นเพียงช่วงเวลาหนึ่ง แต่ไม่มีใครเห็นว่าจำเลยที่ 1 จะทำอย่างไรต่อไป พยานโจทก์จึงยังมีเหตุสงสัยว่าจำเลยที่ 1 เป็นคนร้ายที่ร่วมทำผิดในคดีนี้หรือไม่ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย
ส่วนจำเลยที่ 2 นั้น โจทก์มีพนักงานห้างเบิกความว่า
ขณะเกิดเหตุเห็นคนร้ายประมาณ 40-50 คน มีชาย 4-5 คน
เดินนำหน้าใช้หนังสติ๊กยิงใส่เป็นระยะพนักงานจึงหลบหาที่กำบัง และเห็นชายชุดดำลายพรางสวมหมวกปีก ใช้ระเบิดโยนใส่มีคนเจ็บ 9 คน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายภายในห้างได้จำนวน 9 คน มีจำเลยที่ 2 รวมอยู่ด้วย จึงพาไปคุมตัวที่ลานจอดรถ อย่างไรก็ตามคำเบิกความของพยานโจทก์กลุ่มนี้ที่สามารถจดจำรูปพรรณสัณฐานจำเลยที่ 2 ได้ตรงกันหมด ยกเว้นเพียงสีเสื้อที่ไม่ตรงกับภาพที่ปรากฎทั้งที่ระหว่างพยานต้องคอยหลบลูกหินที่กลุ่มคนร้ายยิงเข้าใส่ อีกทั้งพยานอยู่ห่างไปกว่า 30 เมตร นั้นน่าส่งสัยว่าจะสามารถจำคนร้ายได้จริงหรือไม่ นอกจากนี้โจทก์ยังไม่นำเจ้าหน้าที่ซึ่งจับกุมจำเลยที่ 2 มาเบิกความถึงการจับกุมจับจำเลยว่าจับกุมได้ที่ชั้นไหน มีวัสดุหรืออุปกรณ์ หรือมีร่องรอยหลักฐานตามตัวในการวางเพลิงหรือไม่อย่างไร พยานโจทก์ที่นำสืบมานั้นยังมีเหตุสงสัยว่าจำเลยที่ 2 จะกระทำผิดตามฟ้องจริงหรือไม่ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย จึงพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งสองในข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ โรงเรือนที่เก็บสินค้า เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ที่ผมนำมาเผยแพร่ซ้ำเป็นคำพิพากษาศาล(ผมคัดลอกมาจากข่าวสดออนไลน์วันที่ 25 มีนา 56)ที่ยกฟ้อง พี่น้องเรา สองคน นายสายชล แพบัว กับ นาย พินิจ จันทรณรงค์ ก็เท่ากับ พี่น้องเราที่ถูกจับกุมและถูกกล่าวหาว่า “เผาเซนทรัลเวิลด์”ทั้งหมด ศาลได้พิพากษา แล้วว่าไม่มีความผิด
ก่อนหน้านี้ ศาลแพ่ง ก็ได้พิพากษาชัดเจน แล้วสามสำนวน(คดีดำ เลขที่ ผบ.4326/54,ผบ.1212/55และผบ.1219/55)เมื่อวันที่1และ5มีนาคม2556
ว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดง ไม่ใช่ก่อการร้าย คนเสื้อแดงไม่ได้เผาเซนทรัลเวิลด์ เซน และสยามสแควร์ การปราศรัยของแกนนำก็เพื่อป้องปรามไม่ให้รัฐบาลมาปราบปราม ทำลายการชุมนุม เหตุที่เกิดขึ้น เป็นเพียง”การจลาจล”
ย่อมยืนยันอย่างชัดแจ้งจากคำพิพากษาศาลแล้วว่า “คนเสื้อแดงไม่ได้เผาเซนทรัลเวิลด์” “คนเสื้อแดงไม่ใช่พวกก่อการร้าย” “การชุมนุมของคนเสื้อแดงไม่ใช่การก่อการร้าย” “แต่เป็นเพียงจลาจล”
ดังนั้นมีประเด็นต่อเนื่อง คือ หากพรรคประชาธิปัตย์ไปตั้งเวทีปราศรัย ที่ใดใดก็ตาม แล้ว กล่าวหาว่า “แดงก่อการร้าย” “แดงเผาบ้านเผาเมือง” ขอให้พี่น้องทุกคน ที่ทราบเรื่องไปร้องทุกข์กล่าวโทษที่
สถานีตำรวจใกล้เคียงที่สุด อย่าลืมนะครับ ถ้าเวลาปชป.ไปปราศรัย
ควรบันทึกวิดีโอการปราศรัย ที่ปรากฏสถานที่วันเวลาด้วย
และเห็นหน้าผู้ปราศรัยและดวงตราของพรรคประชาธิปัตย์ชัดเจนนะครับ
คราวนี้เอาพวกนี้เข้าคุกให้ได้ เที่ยวปราศรัย โกหก ใส่ร้ายป้ายสี คนเสื้อแดงเรา มายาวนานเกือบสามปีแล้ว
และพวกประชาธิปัตย์นี่เองแหละ ชอบใช้กฏหมาย เป็นอาวุธในการทำร้ายพวกเรา บางคราวก็ถึงแก่ชีวิต
คราวนี้เราก็ต้องเอาอาวุธของมันนี่แหละ หันปลายคมไปทิ่มแทงพวกมันบ้าง ก็คือเอากฏหมายไปเล่นงานพวกมันบ้าง การไปร้องทุกข์กล่าวโทษไม่ยากครับ ก็เอาหลักฐานที่เราบันทึกวิดิโอไว้ แล้วเอาบัตรเสื้อแดงของเราในฐานะที่เราเป็นผู้เสียหาย(พวกเรามีกันเกือบทุกคน)ไปสถานีใกล้เคียง
แล้วก็แจ้งความไว้กับตำรวจ ตำรวจเขาจะรับแจ้งความไว้
แล้วเขาต้องดำเนินเรื่องต่อ หากไม่เดินเรื่องต่อ
ตำรวจจะมีความผิดตามมาตรา157 และต้องรับผิดชอบทางวินัยด้วย ไม่ยากเลยครับ
ข้อต่อมา พวกเราหลายคน ศาลพิพากษายกฟ้องแล้ว ดังนั้นรัฐบาลของเราต้องเอาใจใส่ในการเยียวยาตามกฎหมาย (ไม่ใช่เยียวยาเพราะเป็นพวกเดียวกัน) ใครที่ ศาลยกฟ้อง แล้ว เดินเรื่องลำบาก ผมยินดีรับอำนวยความสะดวกให้ครับ แต่ต้องมาหาผมที่พรรคเพื่อไทย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ทุกวันอังคาร หรือที่ รัฐสภา ถนนอู่ทองใน(ตรงข้ามเขาดิน)ในวันพุธ,พฤหัสบดีมาถึงก็โทรเข้ามาบอกผม (0817005931)นะครับ แล้วผมจะได้ออกไปรับ แต่โปรดนำเอาเอกสารมาด้วยนะครับ เช่น คำพิพากษาศาล หรือหลักฐานที่ถูกจำขังตั้งแต่เมื่อไรถึงเมื่อไร จะได้ดำเนินการในคราวเดียว หรือหากท่านสะดวก ก็สามารถไปที่กระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะกรมคุ้มครองสิทธิ์ฯก็ได้เช่นกัน
ในขณะนี้ ประธานธิดา ถาวรเศรษฐประธานนปช.แดงทั้งแผ่นดิน ได้เดินเรื่องถึงท่านรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมให้ดำเนินการประกันตัวพี่น้องเราที่ เหลืออยู่ทั้งหมด รวมทั้งพวก112อีกครั้งหนึ่ง
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ศาลท่านจะเมตตา เฉกเช่นเดียวกับที่ศาลท่านมีเมตตาให้พวกพันธมิตรได้ประกันตัวทั้งหมดในคดีร้ายแรง ยึดสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมืองและยึดทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นความผิดร้ายแรง ทำลายความมั่นคงของประเทศ ก่อการร้าย มีโทษสูงถึงขั้นประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิตเช่นเดียวกับพวกเรา นะครับ
และเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ เพราะก่อนหน้าวันที่อัยการจะยื่นฟ้องพวกพันธมิตรต่อศาล อัยการอนุญาตให้พวกพันธมิตรเลื่อนมอบตัวเพื่อส่งฟ้องเป็นครั้งที่ 18 เพราะต้องรอรวบรวมเงินประกันตัวให้ครบก่อน ผมงง ไม่เข้าใจจริงๆ นี่จะแปลว่า พวกพันธมิตรทราบล่วงหน้าหรืออย่างไรว่า พวกเขาจะได้รับการประกันตัวแน่ๆ เพราะที่ผ่านมาเกือบทุกคดี ไม่มีใครทราบล่วงหน้าว่าจะได้รับประกันตัวหรือไม่ ก็ได้แต่เฝ้าภาวนาว่าจะได้รับความเมตตา แล้วภายหลังทราบว่าได้รับประกันตัว ก็จะวิ่งหาหลักทรัพย์และเงินประกันตัวครับ แต่คราวนี้ทำไมอัยการจึงยอมเลื่อนให้พันธมิตรครับ
นี่เป็นเรื่องที่ประเทศไทยต้องช่วยกันศึกษาต่อไปว่า ทำไมคดีของพันธมิตรดูอะไรจะง่ายไปเสียทั้งหมด แล้วคล้ายกับว่าจะทราบอนาคตล่วงหน้าใช่หรือไม่?
แต่ของเสื้อแดงเรา ยากทุกเรื่องครับ และดูเหมือนว่าจะต้อง
อยู่ในเรือนจำกันเกือบจะทุกคดี และอยู่กันอย่างยาวนาน แต่พวกพันธมิตร
ยกเว้นคดีที่ขับรถทับตำรวจแล้ว คดีอื่นยังไม่เห็นมีใครต้องเข้าเรือนจำเลยสักคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งแกนนำของพันธมิตร สนธิลิ้ม จำลอง พิภพ สมศักดิ์ สมเกียรติ ยะใส ไม่เห็นพวกเขาต้องเข้าคุกสักคนเลยครับ
ผมไม่เข้าใจจริงๆครับ
พวกเราต้องเข้าใจพวกเรากันเองนะครับ นปช.แดงทั้งแผ่นดินและ รัฐบาลทำเต็มที่มาแล้วครับ และจะทำเต็มที่ต่อไปครับ แต่การจะได้รับความกรุณาปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่ อยู่ที่ดุลพินิจและความเมตตาของศาลนะครับ ซึ่งพวกเราทุกคนต้องเคารพครับ
นพ.เหวง โตจิราการ 25 มีนาคม 2556