ข่าวสด วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556
ทิ้งหมัดเข้ามุม
มันฯ มือเสือ
ท่ามกลางศึกชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.
มีคนกลุ่มหนึ่งพยายามไม่เลิกที่จะบิดเบือนเหตุการณ์ปี 2553 ว่าเป็นการก่อจลาจลเผาบ้านเผาเมือง โดยไม่พูดถึงประชาชนถูกฆ่า 99 ศพ
เพื่อปลุกปั่นคนกรุงให้เกลียดชังคนเสื้อแดง ส่งผลกระทบชิ่งไปถึงคะแนนนิยมของ พล.ต.อ. พงศพัศ พงษ์เจริญ เหมือนที่เคยทำได้ผลในการเลือกตั้ง 3 ก.ค. 2554
ครั้งนี้โชคดีตรงที่ข้อเท็จจริงบางประการเกี่ยวกับเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองปี 2553 ถูกเปิดเผยออกมาเสียก่อน
เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่ผ่านมา ศาลอาญานัดสืบพยานจำเลย 2 ปากสุดท้ายคดีเผาเซ็นทรัลเวิลด์
พ.ต.ท.ชุมพล บุญประยูร ที่ปรึกษาด้านอัคคีภัยกลุ่มบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา และผู้ควบคุมการดับเพลิงในเซ็นทรัลเวิลด์ เบิกความตอนหนึ่งว่า
"ตลอดเวลา 2 เดือน เราได้ประสานไมตรีกับผู้ชุมนุมเป็นอย่างดี โดยเฉพาะพวกการ์ดแทบจะรู้จักทุกคน แต่ในวันเกิดเหตุเผาเซ็นทรัลเวิลด์ไม่เห็นหน้าคนเหล่านั้นเลย"
"เวลาประมาณ 15.00 น. จากการตรวจสอบกล้องซีซีทีวีเห็นว่ามีกลุ่มคนชุดที่สอง 7-8 คน แต่งกายคล้ายทหารและมีอาวุธด้วย เข้ามาทางด้านห้างเซ็นทรัลเวิลด์ รปภ.พยายามต้านทานแต่กลับถูกปาระเบิดใส่ ตำรวจเข้ามาช่วยก็ยังต้องถอนกำลังออกไป"
เมื่ออัยการซักว่ากลุ่มคนชุดที่สอง 7-8 คนที่ติดอาวุธมีลักษณะอย่างไร
พ.ต.ท.ชุมพล กล่าวว่า "จากกล้องซีซีทีวีประกอบกับได้รับการยืนยันจากหัวหน้า รปภ. คาดว่าเป็นชุดปฏิบัติการรบในลักษณะปฏิบัติการพิเศษ มีหมวด เหล็ก ท็อปบู๊ต ชุดพรางและมีฮู้ดปิดหน้า"
ส่วนภาพจำเลยแต่งชุดดำถือถังสีเขียว พ.ต.ท.ชุมพลระบุเป็นถังดับเพลิงของห้าง ไม่ใช่ถังแก๊ส และถังดับเพลิงไม่สามารถใช้เป็นอุปกรณ์วางเพลิงได้
คดีนี้ศาลนัดพิพากษาวันที่ 25 มี.ค.
แต่กว่าจะถึงตอนนั้น บางพรรคการเมืองคงได้รับบทเรียนไปก่อนแล้วว่าการเป่าหูประชาชน ใส่ร้ายคู่แข่งด้วยความเท็จไม่อาจนำมาซึ่งชัยชนะทางการเมืองได้