ญาติวีรชน'พฤษภาทมิฬ'ขอทุกฝ่ายหนุนออก พ.ร.บ.นิรโทษฯความผิด ปชช.

ไทยรัฐ
วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม 2556
กลุ่มญาติวีรชนพฤษภาทมิฬ เตรียมขอ “สภา-รัฐบาล-ผู้นำฝ่ายค้าน” หนุน ออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมความผิด ปชช. เข้าร่วมชุมนุมการเมือง พร้อม จี้ “ธาริต” ออกตำแหน่งจนกว่าผลสอบเสร็จ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.เวลา 13.30 น.นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’ 35 และนายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการญาติวีรชนฯ แถลงเรียกร้องให้ทุกกลุ่มการเมืองที่เกี่ยวข้องกับวิกฤติความขัดแย้งในประเทศไทยช่วยกันหาทางออกให้กับประเทศ สร้างประชาธิปไตยเพื่อประชาชนที่แท้จริง ไม่ให้กลับไปสู่ทางตัน หรือเป็นเรื่องเฉพาะประโยชน์ของกลุ่มการเมืองใดการเมืองหนึ่ง โดยเรียกร้องให้รัฐบาล ผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม ออกเป็น พ.ร.บ.แทนการออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรม ตามข้อเสนอของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เพื่อยกเลิกความผิดให้กับประชาชนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ตั้งแต่ พ.ศ.2548-พ.ศ.2553 โดยยกเว้นแกนนำกลุ่มการเมืองที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้นำเหล่าทัพ เพื่อสร้างบรรทัดฐานทางการเมือง และนำไปสู่ความปรองดองของภาคประชาชนอย่างแท้จริง “ภายในสัปดาห์หน้าทางคณะกรรมการญาติวีรชนฯ จะเคลื่อนไหวเพื่อขอการสนับสนุนประธานรัฐสภา นายกรัฐมนตรี ผู้นำฝ่ายค้าน เพื่อให้สนับสนุนการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เฉพาะประชาชน เพราะเกรงว่าถ้าออกเป็น พ.ร.ก.นิรโทษกรรม ถึงแม้จะเร็วจริง แต่เชื่อว่าจะมีคนไม่เห็นด้วยจำนวนมาก แต่หากเข้าสภาก็จะพูดคุยกันก่อนที่ออกมาเป็นกฎหมาย ผมเชื่อว่าจะดีกว่าเพราะทำเพื่อประชาชนจริงๆ” นายอดุลย์กล่าว นายอดุลย์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้คณะกรรมการญาติวีรชนฯ ยังขอเรียกร้องให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน คดีการสลายการชุมนุมเสื้อแดงในเหตุการณ์ เม.ย.-พ.ค.2553 เนื่องจากนายธาริตเคยเป็นคณะกรรมการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้-เสียในคดี อาจใช้อำนาจแทรกแซงในการทำคดีต่างๆ ที่มีอยู่ในขณะนี้ อีกทั้งเกรงว่าเมื่อผลทางคดีออกมาแล้วจะไม่เป็นที่ยอมรับกับสังคม ซึ่งจะเป็นการซ้ำรอยกับผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และคณะกรรมการญาติวีรชนฯ ขอเรียกร้องไปยังแกนนำคนเสื้อแดง และคนเสื้อแดงทั่วประเทศที่สนับสนุนรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ช่วยบอกรัฐบาลว่าต่อไปนี้ต้องดำเนินการเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนโดยเร็ว หยุดการกระทำคอรัปชันจากนโยบายของรัฐ ให้หันมาทำเรื่องของประชาชนอย่างจริงจัง