บทความนพ.เหวง โตจิราการ
30 มกราคม 2556
เพื่อนๆครับ วันนี้(30มค.56) ผมได้ประชุมร่วมกับ รมต.ต่างประเทศ เรื่องที่กัมพูชาร้องไปศาลโลกเพื่อขอคำอธิบายคำพิพากษาปี 2505 ขอ งปราสาทพระวิหารนั้น ผมเองเห็นว่าเรามีทางต่อสู้และเ ป็นไปได้ที่ศาลจะยกคำร้อง หรือประเทศไทยจะชนะได้ เพราะมันไม่เข้ากับมาตรา 60 ของธร รมนูญศาลโลก ดังนี้
1.เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ การพิพาทที่เกิดจากคำพิพากษา แต่เป็นเรื่องจากการสู้รบที่ปรา สาทตาเมือนธม ปราสาทตาพระยาและเขามออีแดง ศาลโลก...จะรับได้ต้อง มีการพิพาทอันเกิดจากคำพิพากษา ซึ่งนับแต่จอมพลสฤษดิ์ ขีดแผนที่ L7017 และล้อมรั้วไว้จน ถึงวันนี้เกือบ 50 ปีแล้วกัมพูชาไ ม่เคยคัดค้านสักแอะเดียว แถมสมเด็จนโรดมสีหนุยินดีที่จะปีนป่ายห น้าผาเพื่อขึ้นปราสาทพระวิหารด้ วยคือยอมรับปฏิบัติตามแผนที่ L70 17 ด้วยพระองค์เอง
2.กัมพูชาเสนอให้โยงกับแผนที่ 1: 200,000 ของฝรั่งเศส เท่ากับ กัมพูชา ฟ้องเป็นคดีใหม่ หรือฟ้องอุทธรณ์ ซึ่งศาลรับไว้ไม่ได้
3.คำพิพากษาใช้คำภาษาอังกฤษชัดเ จนว่า vicinity ของ ซากวิหารร้างฮินดู แปลเป็นอย่างอื่นไม่ได้ครับ ก็ต้องหมายเฉพาะที่ล้อมรอบปราสา ทพระวิหาร(ซากวิหารร้างฮินดู) เท่านั้น คล้ายกับ vicinity ของวัดสระเกศ ก็ต้องที่ดินรอบๆวัดสระเกศ ไม่ใช่กรุงเทพทั้งกรุงเทพ ดังนั้นจะกล่าวอ้าง 4.6 ตารางกิโลเมตรไม่ได้ครับ
ผลจะออกมาอย่างไรขึ้นต่อศาลโลกค รับ แต่ไม่ว่าจะออกมาอย่างไรมีผลเพี ยง 3 ประการ คือ
ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้เปรียบ(ไทยได ้ หรือกัมพูชาได้) หรือไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบ แล้วเป็นไงครับ ก็คือ ประเทศเพื่อนมิตรที่ดีต่อกันสอง ประเทศต้องมีบาดแผลที่ตราติดแน่ นไปยาวนานในประวัติศาสตร์เพิ่มข ึ้นจากเดิมที่สงบราบเรียบไปแล้ว เรา คือทั้งไทยและกัมพูชา อย่าไปเลือกทางนี้ดีกว่าไหมครับ
เราเลือกที่จะอยู่กันฉันท์เพื่อ นมิตรที่ดีต่อกันไปจะดีกว่า เพราะเราอยู่กันอย่างสงบมายาวเกือบ 50 ปีแล้ว
ที่มาเกิดเรื่องก็ในสมัยรัฐบาลอ ภิสิทธิ์นี่แหละ ที่ใช้นโยบายเป็ นศัตรูกับเพื่อนบ้าน (ไม่มีใครแม้แต่ในอาเซียนยินดีต ้อนรับรัฐบาลอภิสิทธิ์เลย) อภิสิ ทธิ์เอาคนที่ด่านายกฯฮุนเซนมาเป ็นรมต.ต่างประเทศ
แต่ตอนนี้ รัฐบาลเปลี่ยนแล้วครับ ได้รัฐบาลที่มาจากประชาชนจริงๆ และเป็นรัฐบาลที่เป็นมิตรกับประ เทศเพื่อนบ้านและประเทศต่างๆทั่ วโลกครับ
ผลจะออกมาอย่างไรขึ้นต่อศาลโลกค
ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้เปรียบ(ไทยได
เราเลือกที่จะอยู่กันฉันท์เพื่อ
ที่มาเกิดเรื่องก็ในสมัยรัฐบาลอ
แต่ตอนนี้ รัฐบาลเปลี่ยนแล้วครับ ได้รัฐบาลที่มาจากประชาชนจริงๆ และเป็นรัฐบาลที่เป็นมิตรกับประ
ดังนั้นในฐานะที่อยากเห็นประชาช นสองประเทศไม่เกิดความหมองหมางร ้าวฉานกันในอนาคต
ผมและเพื่อนสส.อีกหลายคนได้เสนอ ในที่ประชุมเพื่อจะได้ดังไปถึงก ัมพูชาว่า อย่ากระนั้นเลย ขอให้กัมพูชาเป็นฝ่ายถอนเรื่องจ ากศาลโลก จะดีไหมครับ(ไม่ใช่เพราะคิดว่าไ ทยแพ้แน่ หรือขี้ขลาดไม่กล้าสู้คดี หรือขายชาติอย่างที่พวกคลั่งชาต ิบ้าเลือดมันโกหกใส่ร้ายป้ายสีไ ว้นะครับ) ไม่มีใครเสียหน้า เราอยู่กันเหมือน 50 ปี ที่ผ่านมา (ยกเว้นเฉพะในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์) แล้วพัฒนาร่วมกัน ทั้งทางการท่องเที่ยวทางวัฒนธรร ม
ผมและเพื่อนสส.อีกหลายคนได้เสนอ
อย่าลืมนะครับ อาณาจักรขอมครอบครองบริเวณนี้ กว้างไปจนเกือบจรดประเทศพม่า ดังนั้นหากพัฒนาการท่องเที่ยวเช ิงวัฒนธรรม ฝรั่ง หรือชาติต่างๆที่สนใจ นครวัด นครธม ก็จะได้ประโยชน์ในการเรียนรู้ปร าสาทต่างๆได้ครบ(ในไทยก็ยังมีอี กมากเช่น ปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทหินพิมายเป็นต้น)
กัมพูชาก็ได้ประโยชน์มหาศาล ไทยก็ได้ประโยชน์มหาศาล นอกจากนี้ ไทยเราในฐานะที่ฐานเศรษฐกิจแข็ง แกร่งกว่ามีน้ำใจสร้างระบบโลจิส ติกส์ภายในประเทศไทยเอง แต่กัมพู ชาพลอยได้ประโยชน์ไปด้วย พร้อมกับช่วยเหลือพัฒนาเศรษฐกิจ การศึกษา และการสาธารณสุขฯลฯให้กัมพูชา ผมว่าเขาต้องดีใจแน่
เรื่องนี้ผมและเพื่อนสส.เป็นฝ่า ยเสนอ เผื่อท่านรมต.จะเห็นดีเห็นงาม และนำไปปรึกษาหารือกับ กัมพูชา เพื่อจะได้เป็นทางออกที่สวยงามส ำหรับทั้งสองประเทศ
กัมพูชาก็ได้ประโยชน์มหาศาล ไทยก็ได้ประโยชน์มหาศาล นอกจากนี้ ไทยเราในฐานะที่ฐานเศรษฐกิจแข็ง
เรื่องนี้ผมและเพื่อนสส.เป็นฝ่า
ผมและเพื่อนสส.จำนวนหนึ่งคิดอย่ างนี้มานานแล้ว แต่สถานการณ์และจังหวะเวลาไม่เป ิดให้เราได้มีโอกาสแสดงออกครับ ไม่ใช่ว่า เราเพิ่งคิดนะครับ (เดี๋ยวจะมีคนมากล่าวหาอีกว่าทำ ไมคิดช้าจัง)
ปัจจุบันกล่าวได้ว่า ประเทศอารยะต่างๆทั่วโลกเขาใช้ว ิธีนี้แก้ปัญหาข้อพิพาททางด้านเ ขตแดน กันทั้งนั้น
ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์และไม่ต ้องรบราฆ่าฟันกัน แบบที่พวกคลั่งชาติในไทยต้องการ (พวกนี้ต้องการทำให้เกิดความวุ่ นวายจนถึงขั้นล้มรัฐบาลยิ่งลักษ ณ์เลยครับ) เพื่อนๆเห็นอย่างไรกันบ้างครับ
ปัจจุบันกล่าวได้ว่า ประเทศอารยะต่างๆทั่วโลกเขาใช้ว
ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์และไม่ต