17 มกราคม 2556
เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2556 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดา ห้องพิจารณาคดี 804 ศาลได้อ่านคำสั่งคดีของพี่เจ๋งดอกจิก ในข้อหาหมิ่นสถาบันผิดมาตรา112 ศาลได้อ่านคำสั่งลงโทษ คุณเจ๋ง ดอกจิก จำคุก3ปี ลดโทษให้1ปี คงเหลือจำคุก2ปี โดยไม่รอลงอาญา กรณีนี้มันสะท้อนให้เห็นว่าสังคมไทยยังมีปัญหาอยู่ และ ไม่สามารถทำให้เกิดความปรองดองและความสามัคคีกันได้ ยังมีความคิดที่เป็นอคติกันอยู่แบบนี้ ผมจะยกตัวอย่างให้เห็นว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล เอาคำพูด ดา ตอร์ปิโด มาพูดซ้ำ แต่ดา ตอร์ปิโดติดคุก นายสนธิไม่โดนติดคุก ทั้งๆที่กฏหมายเขียนไว้ชัดเจนว่า ผู้ใดนำคำพูดที่หมิ่นสถาบันมาพูดซ้ำต้องมีความผิดเท่ากับผู้พูด ถ้าปฏิบัติตามกฏหมายกันจริงๆ และ ไม่มีความคิดที่มีอคติ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ต้องติดคุกไปแล้ว แต่สนธิ ลิ้มทองกุลเส้นใหญ่มาก ไม่มีใครกล้าแตะต้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล แต่แกนนำ นปช. ต้องถูกสังเวยคนแล้วคนเล่า บางคนก็ติดคุกไปแล้ว 2 รอบ มันเป็นความเหลื่อมล้ำในสังคม มันถึงมีแรงกดดันในการต่อสู้เพื่อหาความยุติธรรมในสังคมให้ประเทศไทย ในส่วนของคุณก่อแก้ว พิกุลทองนั้น ที่ออกจากคุกมาเพราะมีเอกสิทธิ์คุ้มครองในฐานะที่เป็น ส.ส. ไม่ได้ถูกปล่อยตัวเพราะได้ประกันตัว ดังนั้นในเดือนเมษายน ประมาณวันที่ 20 ปี 56 สภาจะต้องปิดสมัยประชุม ทันทีที่สภาปิด คุณก่อแก้วต้องเข้าคุกต่อ เราไม่เคยเห็นแกนนำพันธมิตร ติดคุกแม้แต่คนเดียว ผมมองว่าพวกอำมาตย์ กำลังจะทำให้ประเทศไทยย้อนกลับไปยุคสมัยสมบูรณาญาสิทธิราช ก่อน พ.ศ.2475 แต่คนไทยไม่พึงปรารถนา