แถลงการณ์นปช. เสนอร่างพ.ร.ก.นิรโทษกรรม



ทีมข่าว นปช.
15 มกราคม 2556

วันนี้ที่เรือนจำหลักสี่  หลังจากที่แกนนำนปช.โดย อ.ธิดา  ถาวรเศรษฐ, คุณจตุพร  พรหมพันธุ์, คุณสมหวัง  อัสราษี, นพ.เหวง  โตจิราการ และอีกหลายท่านได้ทำการมอบเครื่องออกกำลังกายให้กับทางเรือนจำเรียบร้อยแล้ว  จะมีการจัดเลี้ยงปีใหม่ให้กับผู้ถูกคุมขังทางการเมืองเหล่านี้ 

จากนั้นจะเป็นการอ่านแถลงการณ์แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.แดงทั้งแผ่นดิน) เพื่อเสนอร่างพระราชกำหนดนิรโทษกรรมให้แก่ผู้ที่ได้รับโทษหรือถูกกล่าวโทษทางอาญา อันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางการเมือง  (ติดตามรายละเอียดแถลงการณ์ด้านล่าง)




ขอบคุณวีดีโอโดยคุณBlackcat Tom
---------------------------------------------------------------


  
แถลงการณ์แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ

 (นปช.แดงทั้งแผ่นดิน)

                เพื่อเสนอร่างพระราชกำหนดนิรโทษกรรมให้แก่ผู้ที่ได้รับโทษหรือถูกกล่าวโทษทางอาญา  อันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๐     ถึง วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ ต่อรัฐบาล ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร เพื่อดำเนินการโดยเร็ว

                สืบเนื่องจากการทำรัฐประหารในวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๙ โดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ที่เปลี่ยนชื่อเป็น คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)  ได้ก่อให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองและความแตกแยกครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศ  และเกิดการเคลื่อนไหวทางการเมืองของประชาชนที่แบ่งประชาชนเป็นสองฝ่าย  ฝ่ายหนึ่งมีส่วนริเริ่มและเคลื่อนไหวสนับสนุนการทำรัฐประหารเพื่อยึดอำนาจจากรัฐบาลที่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน  โดยเชื่อว่าเป็นรัฐบาลของผู้นำที่เป็น “ทุนสามานย์”  และการได้รับเลือกตั้งมานั้นเกิดจากกระบวนการฉ้อฉล  ซื้อเสียง และประชาชนถูกหลอกลวง  แม้จะเป็นรัฐบาลที่มาจากเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ  คนฝ่ายนี้ก็ไม่อาจยอมรับได้  จึงมีความเคลื่อนไหวชุมนุมและเคลื่อนไหวอื่น ๆ เป็นลำดับมาตลอด  จนมีความรุนแรงและเสียหายเกิดขึ้นหลายครั้ง  ทั้งในระดับประเทศและในระดับพื้นที่ท้องถิ่น  ก่อให้เกิดคดีความและการบาดเจ็บล้มตายส่วนหนึ่ง

                ประชาชนและผู้คนอีกฝ่ายหนึ่งคัดค้านและต่อต้านการทำรัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ จึงดำเนินการเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อคัดค้านต่อต้านผู้มีส่วนริเริ่ม, ตระเตรียม,  ผู้กระทำการรัฐประหารและผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองสนับสนุนการทำรัฐประหารที่ร่วมกันเป็นเครือข่ายระบอบอำมาตยาธิปไตย   มีการจัดการเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อต่อต้านรัฐประหารในยุคที่คณะรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน  ฉีกรัฐธรรมนูญ ๒๕๔๐  แต่งตั้งรัฐบาลและคณะบุคคลเพื่อเขียนรัฐธรรมนูญใหม่  ยึดกุมและสร้างกติกากลไกรัฐตามความเชื่อและผลประโยชน์ของตนเอง  ก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อต่อต้านโดยประชาชนจำนวนมากและยืดเยื้อยาวนานนับจากปีพ.ศ. ๒๕๔๙ มาจนถึงปัจจุบัน  เกิดการบาดเจ็บ ล้มตาย สูญหาย และคดีความนับพันคดี  มีผู้ถูกจับกุมคุมขังหลายพันคน  แม้ประชาชนส่วนที่ไม่ได้มาชุมนุมก็ได้รับผลกระทบกระเทือนจากเคราะห์กรรมของประชาชนที่ถูกกระทำจากการปราบปราม เข่นฆ่า จับกุมคุมขัง และถูกพิพากษาลงโทษทั้งสองฝ่าย

                แม้นว่านปช.แดงทั้งแผ่นดินจะไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองของฝ่ายสนับสนุนการทำรัฐประหาร  ที่ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติและประชาชนไทยเกินกว่าจะบรรยาย ณ. ที่นี้  แต่ในฐานะที่เป็นประชาชนไทยด้วยกัน  และคนเหล่านี้ไม่ใช่ผู้นำในการตัดสินใจกระทำการ  ประชาชนเหล่านี้ก็สมควรที่จะได้รับการนิรโทษกรรมในคดีความทางอาญาที่จะได้รับทั้งปวง  ทั้งที่พิพากษาถึงที่สุด  และอยู่ในระหว่างพิจารณา  ระหว่างสอบสวนรวบรวมข้อมูล  เช่นเดียวกับฝ่ายที่เคลื่อนไหวคัดค้านต่อต้านการทำรัฐประหารและรัฐบาลที่ได้มาโดยมิชอบด้วยระบอบประชาธิปไตย

                นั่นคือนิรโทษกรรมให้กับประชาชนทั้งสองฝ่าย  ยกเว้นผู้นำที่มีอำนาจในการตัดสินใจกระทำการ

                ในเวลานี้ผ่านการต่อสู้ของประชาชนและผู้คนในแต่ละฝ่ายระลอกแล้วระลอกเล่า  ก่อให้เกิดการบาดเจ็บล้มตาย  ถูกจับกุมคุมขัง  ถูกพิพากษารับโทษหนักเบามากมาย  เมื่อมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนสามารถดำเนินงานผ่านมากว่า ๑ ปี  ก็น่าจะเป็นเวลาที่สมควรดำเนินการพิจารณาร่างพระราชกำหนดฉบับนี้ของนปช.แดงทั้งแผ่นดิน  เพื่อให้ประชาชนไทยทั้งสองฝ่ายได้พ้นทุกขเวทนา  อันเนื่องมาจากการดำเนินคดีและการถูกจับกุมคุมขัง  และคำพิพากษาแห่งคดีอาญาอันเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมือง  เพราะพวกเขาไม่ใช่อาชญากรที่ทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน  ยิ่งกว่านั้น  จะเป็นการลดปัจจัยความเสี่ยงต่อความมั่นคงทางการเมือง  เศรษฐกิจ  และสังคมที่อาจมีความรุนแรง  เพราะประชาชนแต่ละฝ่ายเชื่อว่าตนไม่ได้รับความยุติธรรม  ด้วยอคติแห่งการแบ่งฝักฝ่ายทางการเมือง  และนโยบายทางการเมืองของอำนาจรัฐที่ได้มาโดยมิชอบ  ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐส่วนหนึ่งไม่ได้ให้ความเป็นธรรมเพียงพอ  ตั้งแต่ขั้นสอบสวน  การตั้งข้อหารุนแรงเกินจริง  และการตรวจสอบพยานหลักฐานที่ไม่ถูกต้องตามหลักนิติรัฐนิติธรรม  จึงทำให้ผู้ถูกกระทำมีความโกรธแค้นเจ็บช้ำน้ำใจที่ถูกคุมขังโดยไม่ได้รับสิทธิการประกันตนและการต่อสู้คดีที่ยุติธรรม  ก่อให้เกิดความเครียด  ต้องเสียชีวิตในห้องขัง  บ้างก็มีปัญหาทางจิต  แม้กระทั่งผู้ถูกดำเนินคดีที่เขาเชื่อว่าไม่ถูกต้อง  ถูกใส่ร้ายป้ายสีโดยไม่เป็นจริงก็มีความเคียดแค้นหนักเช่นกัน

                ทั้งหมดนี้ นปช.แดงทั้งแผ่นดินพิจารณาแล้วว่า  ถ้าปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้ดำเนินต่อไป  ประชาชนทั้งประเทศและทั้งสองฝ่าย  จะมองไม่เห็นอนาคตความมั่นคงทางการเมือง  เศรษฐกิจ  และสังคมของประเทศ  มองเห็นแต่ความทุกขเวทนาของประชาชน  และรัฐบาลนี้ก็ไม่อาจเป็นความหวังของประชาชนที่จะขจัดทุกขเวทนาของเขาได้  นปช.แดงทั้งแผ่นดินจึงขอให้รัฐบาล ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร  ได้โปรดพิจารณาร่างพระราชกำหนดนี้และดำเนินการให้เป็นผลโดยเร็ว  และขอให้รัฐสภาได้มองเห็นทุกขเวทนาของประชาชนที่ถูกดำเนินคดีและถูกจับกุมคุมขังจนถึงปัจจุบัน  ได้โปรดสนับสนุนร่างพระราชกำหนดฉบับนี้ในคราวที่จะต้องลงมติรับรองให้เป็นพระราชบัญญัติ  ทั้งหมดนี้จะเป็นนิมิตหมายที่ดีในการหาทางออกให้กับสังคมไทย  และเป็นเสาหลักที่พึ่งได้ของประชาชน

แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ
(นปช.แดงทั้งแผ่นดิน)

15  มกราคม  2556

--------------------------------------------------------------
                                                      (ร่าง)
พระราชกำหนดนิรโทษกรรมให้แก่ผู้ที่ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาอันถึงที่สุด  และผู้ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีอาญาอันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางการเมือง ตั้งแต่ วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๐ ถึง วันที่ ๓๑ ธันวาคม  พ.ศ. ๒๕๕๔
          มาตรา ๑  พระราชกำหนดนี้ เรียกว่า พระราชกำหนดนิรโทษกรรมให้แก่ผู้ที่ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาอันถึงที่สุด และผู้ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีอาญาอันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางการเมืองตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม  พ.ศ ๒๕๕๐ จนถึง วันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
          มาตรา ๒  พระราชกำหนดนี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
          มาตรา ๓  บรรดาผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดอาญาอันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางการเมืองตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ ๒๕๕๐ จนถึง วันที่  ๓๑ ธันวาคม  พ.ศ ๒๕๕๔ ไม่ว่าจะได้รับโทษจำคุกจากคำพิพากษาอันถึงที่สุด หรืออยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีซึ่งยังไม่ถึงที่สุด  ให้ถือว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด  และให้พ้นจากความผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิง
          ความในวรรคก่อนไม่รวมถึงบรรดาผู้ ซึ่งมีอำนาจในการตัดสินใจหรือสั่งให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง ในห้วงเวลาดังกล่าว
          มาตรา ๔  ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชกำหนดนี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
นายกรัฐมนตรี
หมายเหตุท้ายพระราชกำหนดฯ  ความขัดแย้งทางการเมืองและการแสดงออกเป็นเรื่องที่รัฐธรรมนูญฉบับปีพ.ศ.๒๕๕๐ ได้ให้การรับรองไว้ ดังนั้นหากประชาชนแสดงออกซึ่งความขัดแย้งทางการเมือง จนมีการกระทำอันเป็นความผิด คดีอาญาจึงเห็นสมควรที่จะได้รับการนิรโทษกรรม ยกเว้นผู้ซึ่งมีอำนาจในการตัดสินใจหรือสั่งให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองในห้วงเวลาดังกล่าว เพื่อให้ได้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในประเทศไทยอย่างแท้จริง