เมื่อวันที่ 6 ม.ค.2556 ในการเสวนาเรื่อง “รัฐธรรมนูญปี 50 ปัญหาของประเทศ ภาระของคนไทย” ในงานสัมมนาพรรคเพื่อไทย ที่โรงแรมกรีนเนอรี่ รีสอร์ท แอนด์ สปา เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้ เรื่องที่ใหญ่กว่า รัฐธรรมนูญ คือ เรื่องละคร “เหนือเมฆ2” เพราะ แม้แต่กรณี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ถอดยศนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ยังไม่เกิดแรงสะเทือนเท่ากรณีช่อง 3 ถอดละคร “เหนือเมฆ2” เราจึงจำเป็นต้องคุยกันว่า ทำไมต้องแก้ รัฐธรรมนูญ
ขณะนี้มีองค์กร ที่อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ โดยรัฐธรรมนูญ 2550 ทำให้มี “เสาที่ 4” ตนหมายถึง องค์กรอิสระ ซึ่งใหญ่กว่า 3 เสาแรก (นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ) สำหรับ “เสาที่4” นึกจะจัดการกับใครก็จัดการ เช่น เคยจัดการนายสมัคร สุนทรเวช เคยจัดการนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แต่ถ้าจะจัดการกับ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องข้ามศพ “ณัฐวุฒิ” ไปก่อน ทั้งนี้ การบรรยายดังกล่าวสร้างเสียงหัวเราะให้แก่ผู้เข้าร่วมสัมนา
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่แก้รัฐธรรมนูญ ก็อาจถูกจัดการด้วยอำนาจสารพัดวิธี แล้วเอาประชาธิปัตย์ใส่ทำเนียบด้วยวิธีพิเศษ ซึ่งจะปล่อยให้กงล้อเดิมๆ บดต่อไปไม่ได้ จำเป็น ต้องทำเพื่อประโยชน์ประชาชน ไม่ใช่เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อคนคนเดียว เพราะ คนทำปฏิวัติ กลัวดำเนินคดีหากแก้ มาตรา 309 ซึ่งมาตรา 309 เป็นอำนาจเหนือกว่าใคร ไม่มีใครสามารถไปจัดการกับ คมช. ทั้งนี้ เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญของพรรค ต้องมีความเป็นเอกภาพ มิเช่นนั้น จะเดินต่อไปไม่ได้
สำหรับ กรณีหลายฝ่ายคิดเห็นแตกต่างกันในเรื่องแก้รัฐธรรมนูญก็ไม่ได้หมายความว่าคนทั้งประเทศคิดแบบนั้น เพราะยังมีประชาชนที่ยังเครียดกับละคร “แรงเงา” ไม่ได้ติดตามว่า หากแก้รัฐธรรมนูญแล้วจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ขอให้พรรคเพื่อไทยอย่าเหน็ดเหนื่อยกับการสื่อสารทำความเข้าใจประชาชน เพื่อให้เข้าใจถึงความจำเป็นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ