ทีมข่าว นปช.
29 ธันวาคม 2555
วันนี้ นพ.เหวง โตจิราการ และ นพ.สลักธรรม โตจิราการ ได้เข้าร่วมการชันสูตรศพวีชน วันชัย รักสงวนศิลป์ โดย นพ.เหวง ได้เล่ารายละเอียดดังนี้
ผมได้มีโอกาส เข้าร่วมสังเกตุการณ์ในการ ตรวจศพ "วีรชน วันชัย รักสงวนศิลป์" เพื่อนเราที่จากไปตั้งแต่วันที่ 27 ธค. 55 ที่ ภาควิชานิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ อังรีดูนังต์ เมื่อเวลาประมาณ 9.30 น.ในวันนี้( 29 ธค.55) หัวหน้าคณะได้แก่ คุณหมอ พ.ต.อ.พัฒนา กิจไกรลาศ (พบ.ว.ว.นิติเวชศาสตร์,น.บ.)(ท่านเก่งมากครับได้เนติบัณฑิตด้วยนะครับ ผมถามประวัติคร่าวๆ ท่า่นเข้าร่วมการต่อสู้เมื่อพฤษภา 35 ด้วยครับ) ได้ให้ความสะดวกเป็นอย่างดีครับ
ผลของการตรวจศพไม่พบมีเลือดออกในสมองหรือในช่องกะโหลกศรีษะ ปอด ตับ ม้าม ไต ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะอยู่ในเกณฑ์ปกติ มีรอยจ้ำอยู่ที่แขนใต้ศอก และขาใต้เข่า สันนิฐานว่าอาจจะเกิดจากอุบัติเหตุธรรมดาทั่วไป ไม่พบ หลักฐานว่าถูกทำร้ายแต่ประการใด ดังนั้นการเสียชีวิตไม่น่าจะเกิดจากการถูกทำร้าย แต่ยังยืนยันไม่ได้ว่า เสียชีวิตจากอะไร
ที่ตรวจพบและอาจจะเป็นสิ่งที่น่าสงสัย ก็คือ มีลิ่มเลือดในเส้นเลือดที่เลี้ยงหัวใจ ซึ่งในขณะนี้ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่า เป็นลิ่มเลือดใหม่หรือเก่า คงต้องส่งชัณสูตรในห้องปฏิบัติการทางพยาธิวิทยาอีกต่อไปว่า เป็นอย่างไร
นอกจากนี้คุณหมอก็รอบคอบ ได้นำเอาอาหารที่ค้างในกระเพาะ และตัวอย่างเลือด รวมทั้งชิ้นส่วนสำคัญอื่นๆ บางอย่าง เช่น สมอง ตับ ไต ม้าม ปอด หัวใจ กระเพาะ ลำไส้ ส่งตรวจห้องปฏิบัติอีกเช่นกัน
ผมเป็นเพียงผู้สังเกตุการณ์ แม้จะเป็นแพทย์ก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางนี้โดยตรง ไม่ได้ทำงานด้านนี้ จึงทำหน้าที่เพียงแต่บอกเล่าให้เพื่อนๆของเราทุกคนได้รับทราบความคืบหน้าเท่านั้นครับ คำตอบสุดท้าย ก็คงต้องรอจากการรายงาน หรือการแถลงของคุณหมอ พัฒนา กิจไกรลาศครับ นั่นจะเป็นรายงานอย่างเป็นทางการ และรับรองได้ ทางกฏหมายครับ
ในเรื่องนี้ผมขอแสดงความคิดเห็นบางอย่า่งไม่รู้ว่าจะถึงหูรัฐบาล ถึงหูรัฐมนตรีและผู้รับผิดชอบหรือเปล่า ผมขอเสนอให้ ทางกรมราชทัณฑ์ ทำการตรวจร่างกายผู้ถูกคุมขังทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดัน เบาหวาน เส้นเลือดหัวใจตีบตาย กล้ามเนื้อหัวใจตาย โรคถุงลมปอดโป่งพอง โรคไต ฯลฯ กรุณาตรวจให้ละเอียดด้วยครับ อาจจะส่งมาตรวจที่ร.พ.ตำรวจก็ได้ หากว่ารพ.กรมราชทัณฑ์มีข้อจำกัดในเรื่องบุคคลากรหรือเครืองไม้่เครื่องมือก็ตาม เพื่อจะได้ทำรายงานต่อศาลได้ว่า ผู้ถูกจำขังผู้ใด สมควรได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อไปรับการรักษาตัว แทนที่จะขังเอาไว้ในเรือนจำ ซึ่งไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรกับ ใคร หรือกับสังคมแม้แต่น้อย
อันที่จริงปรัชญาของเรือนจำ เขามีไว้เพื่อเป็นประโยชน์กับสังคมนะครับ ไม่ใช่มีไว้เพื่อลงโทษให้สะใจ การขังเพื่อสร้างหลักประกันว่า คนทำผิดไม่สามารถทำร้ายสังคมซ้ำ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเรือนจำจะทำให้พวกเขาได้กลับใจเป็นคนดี สำนึกในความผิดที่ทำ ดังนั้นเรือนจำไม่ควรจะเป็นสถานที่กักขังจนทำให้เขาตายด้วยโรคประจำตัวของพวกเขานะครับ เพื่อนๆเห็นอย่างไรก็ช่วยกันแนะนำเข้ามานะครับ