เผยจดหมายเปิดผนึกจาก "พานทองแท้" ถึง "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ทั้ง 2 ฉบับ

go6TV 20 ธันวาคม 2555



ภายหลังที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกลงในเฟสบุ๊คส่วนตัว ระบุถึงการถูก DSI ดำเนินคดีในเหตุการร์สลายชุมนุม53 และเรียกร้องให้ประชาชนคว่ำการทำประชามติเพื่อไม่ให้มีการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อล้างผิดให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น

ในหน้าเพจเฟสบุ๊คของนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของอดีตนายกฯ ทักษิณ ก็ได้มีจดหมายเปิดผนึกถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะถึง 2ฉบับ ดังนี้

จดหมายเปิดผนึก ฉบับที่ 1 จาก ลูกชายของอดีตนายกฯ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็น “นักโทษหนีคดี” ถึงอดีตนายกฯ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็น “ฆาตกร” ลงวันที่ 18 ธ.ค.

ผมได้อ่าน “จดหมายเปิดผนึกจากใจ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถึงคนไทยทั้งประเทศ” ซึ่งได้โพสต์ในเฟสบุ๊คของท่าน ความยาวประมาณ 1 หน้ากระดาษแล้ว สิ่งที่ท่านต้องการจะสื่อสารถึงคนไทยทั้งประเทศ มีเพียง 2 ประเด็นหลักๆเท่านั้นคือ

1. การออกตัวว่าท่านไม่ผิด กรณีที่ DSI เรียกไปแจ้งข้อกล่าวหา และ
2. ชักชวนให้คนไทย คว่ำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการแก้มาตรา 309

ผมขอทำตัวเป็น คอมเมนต์เตเตอร์ ไม่ให้ผ่านทั้ง 2 ประเด็นนะครับ โดยในจดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 1 นี้จะขอพูดเฉพาะในประเด็นที่ 1 ก่อน แล้วพรุ่งนี้ (19 ธ.ค.) จึงจะขอต่อในประเด็นที่ 2 ดังนี้ครับ

ประเด็นที่1. การที่ท่านออกตัว โดยใช้คำว่า
“DSI บิดเบือนยัดเยียดข้อกล่าวหาให้ท่านเป็น “ฆาตกร” ท่านได้ขอให้ทุกคนสบายใจว่าท่านไม่หวั่นไหว เพราะสิ่งที่ท่านได้ดำเนินการทั้งหมดนั้น ไม่ได้มีคำสั่งใดเป็นใบอนุญาตให้ฆ่าประชาชน และหากมีตัดสินให้ประหารชีวิต ท่านก็พร้อมที่จะน้อมรับ นั้น

ผมขอเรียนว่า ผู้ถูกกล่าวหาเกิน 90% ย่อมที่จะไม่ยอมรับในสิ่งที่ถูกกล่าวหาครับ ผมไม่ได้ว่าเฉพาะท่านคนเดียว เพราะคุณพ่อผมและครอบครัวของผม ตลอดจนพี่น้องประชาชนเกินครึ่งประเทศ ที่เลือกพรรคเพื่อไทย ผมเชื่อว่าทุกคนก็ไม่ยอมรับการถูกกล่าวหา

ที่เริ่มต้นกระบวนการสอบสวนจาก คตส. ซึ่งตั้งขึ้นมาโดยคณะปฏิวัติเช่นเดียวกัน ทุกคนต่างคนก็ต่างมีเหตุผลของตัวเองกันทั้งนั้น ท่านจะแก้ตัวให้ตายยังไง พวกผมก็ไม่เชื่อว่าท่านบริสุทธิ์ เช่นเดียวกับที่พวกท่านไม่เชื่อว่า คุณพ่อผมบริสุทธิ์ไงครับ

และที่ท่านบอกว่าท่านไม่เคยมีคำสั่งใด เป็นใบอนุญาตให้ฆ่าประชาชนนั้น ตอนที่คุณพ่อผมเป็นนายกฯ ก็ไม่เคยมีคำสั่งใดไปที่กองทุนฟื้นฟูฯ เป็นใบอนุญาตในเรื่องซื้อ-ขายที่ดินรัชดาเช่นเดียวกันครับ

คุณแม่ผมเป็นคนไปประมูลที่ดินก็ตัดสินแล้วว่าไม่ได้ผิดกฎหมายด้วย เพียงแค่คุณพ่อเซ็นต์ยินยอมให้คุณแม่ ในฐานะคู่สมรสเท่านั้น ยังโดนตัดสินจำคุก 2 ปีเลย ผมว่าข้อกล่าวหามันเบากว่าการสลายการชุมนุมทางการเมือง แล้วมีคนตายเกือบร้อยคนตั้งเยอะนะครับ

ส่วนประเด็นที่ท่านบอกว่า ถ้าถูกตัดสินประหารชีวิตก็จะน้อมรับนั้น ผมว่ามันดราม่าเรียกน้ำตาแม่ยกเกินไปครับ เพราะแค่เริ่มต้นท่านก็ดิสเครดิต DSI ว่าบิดเบือนยัดเยียดข้อกล่าวหาแล้ว หากคดีได้ดำเนินไปจนถึงที่สุด และท่านถูกตัดสินว่าผิดจริง ท่านจะกลับลำกลืนน้ำลายตัวเองมาน้อมรับว่า

“คำตัดสินนั้นชอบแล้ว, DSIตั้งข้อหาข้าพเจ้าฯ ถูกต้องแล้ว, ข้าพเจ้าฯสมควรตาย” ผมยิ่งต้องขออนุญาตไม่เชื่อใหญ่เลยครับ

สุดท้ายประเด็นที่ ท่านได้ขอให้ทุกคนสบายใจว่าท่านไม่หวั่นไหวนั้น ผมเห็นว่าท่านจะหวั่นไหวหรือไม่หวั่นไหวนั้น ก็เป็นเรื่องของท่านครับ ยังไงทุกคนก็ย่อมต้องสบายใจขึ้นอยู่แล้ว

โดยเฉพาะดวงวิญญาณของวีรชนที่ต้องเสียชีวิต จากการออกมาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยทุกท่าน หากหยั่งรู้ได้ว่า กระบวนการยุติธรรมที่รอกันมานาน ได้เริ่มต้นสตาร์ทนับหนึ่งแล้ว ยิ่งต้องสบายใจถึงขั้นนอนตายตาหลับครับ

วันพรุ่งนี้จดหมายเปิดผนึกฉบับที่2 เรื่องการชักชวนให้คนไทย คว่ำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการแก้มาตรา309 มีเงื่อนงำอย่างไร ห้ามพลาด แล้วเจอกัน สวัสดีครับ

……………………………………………………………………

จดหมายเปิดผนึกถึง อดีตนายกฯซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็น “ฆาตกร” ฉบับที่2 (ลงวันที่ 19 ธ.ค.)



ผมขอพูดถึงประเด็นที่ท่านออกมาชักชวนให้คนไทย ให้ร่วมกันคว่ำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ โดยท่านได้เขียนจดหมายเปิดผนึก โดยสรุปว่า

“ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ช่วยกันหยุดความล้มเหลวทางการเมือง เป็นเพียงสิ่งเดียวที่จะช่วยให้ประเทศของเราก้าวข้ามอุปสรรคที่ขวางทางบ้านเมืองมานานหลายปีไม่ให้เดินไปข้างหน้า

นั่นคือความต้องการอยู่เหนือกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ด้วยการร่วมกันล้มประชามติที่นายกฯผู้เป็นน้องสาวกำลังจะทำเพื่อรื้อรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ หวังลบมาตรา ๓๐๙ เพื่อล้มคดีทั้งหลายของพี่ชายนักโทษ”

ผมว่าจดหมายเปิดผนึกของท่านทั้งฉบับนี้ ทำให้เราได้เข้าใจตัวตนของอดีตนายกฯ ได้ชัดเจนในหลายเรื่อง วันนี้นอกจากท่านจะยอมรับว่าถูกกล่าวหาเป็น “ฆาตกร” จากDSI

ซึ่งท่านออกตัวว่าเป็นการยัดเยียดข้อหา ผมว่าน่าจะทำให้ท่านได้ลิ้มรสความเจ็บปวดขั้นที่ 1 อย่างที่พ่อผมเคยได้รับการยัดเยียดข้อหาจาก คตส.เช่นกัน

ต่างกันที่ คตส.เป็นองค์กรที่กลุ่มเผด็จการปฏิวัติอุปโลกน์กันขึ้นมา เพื่อให้ร้ายคุณพ่อผมโดยเฉพาะ แต่ DSI เป็นองค์กรของรัฐที่ที่ตั้งถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งตัวท่านเองและผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ก็ได้เคยเชยชม และใช้บริการอย่างเข้มข้นถึงลูกถึงคนมาโดยตลอด

การที่ท่านออกมาปกป้องรธน.ปี 50 โดยเน้นไปที่มาตรา 309 เพียงมาตราเดียว มันชี้ให้เห็นชัดเจนครับ ว่าท่านกำลังสืบสานผลพวงของรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ

เพราะเป็นเพียงมาตราเดียว และเป็นมาตราสุดท้ายในรธน.ปี 50 ที่เป็นตัวเชื่อม(Gate Way) ให้รธน.เผด็จการที่ คปค.ร่างไว้หลังปฏิวัติ 19 กย. 49 มีผลบังคับใช้จนถึงชั่วลูกชั่วหลาน

และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่แจ้งเกิดทางการเมืองด้วยคำว่า “ผมเชื่อมั่นในระบบรัฐสภา” กำลังทำทุกอย่างเพื่อที่จะคงไว้ซึ่งมาตรานี้ จนถึงกับออกจดหมายเปิดผนึกเพื่อเชิญชวนให้คว่ำประชามติ ซึ่งผมจะขอคัดเอา มาตรา309 มาทวนให้ทราบกันดังนี้

“มาตรา ๓๐๙ บรรดาการใด ๆ ที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๔๙ ว่าเป็นการชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ

รวมทั้งการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีดังกล่าวไม่ว่าก่อนหรือหลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ให้ถือว่าการนั้นและการกระทำนั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้”

และผมขอเอาคำพูดในคลิปที่ผมได้โพสต์ไว้เมื่อวันที่24 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจุดยืนของนาย
อภิสิทธิ์ฯ ตอนรณรงค์ให้รับร่าง รธน.ปี50 ตามนี้ครับ


นายอภิสิทธิ์พูดว่า “ชอบที่มาของรัฐธรรมนูญปี 50 ไหม ไม่ชอบ ชอบสาระไหม ไม่ชอบ แต่พรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนขอให้รับไปก่อน เพื่อให้การเมืองเดินหน้าไปได้

หลังเลือกตั้งในสภาจะมีคนอยู่แค่ 2 จำพวกเท่านั้น พวกแรกคือพวกที่ไม่เอารัฐธรรมนูญฉบับนี้ พวกที่ 2 คือที่บอกว่ารับไปก่อนแล้วค่อยไปแก้ไข

ดังนั้น ทุกพรรคเห็นพ้องต้องกันว่าต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้” และวลีเด็ดที่ถือเป็นสัญญาประชาคมของนายอภิสิทธิ์คือ

“ผมบอกไว้เลยครับว่า ถ้ามีการเลือกตั้ง แล้วผมได้รับเลือกตั้งเป็นผู้แทนฯ ผมจะยกมือแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้”

ในจดหมายเปิดผนึกฉบับที่2ของผมนี้ ขอสรุปเพียงนี้ก่อน จดหมายเปิดผนึกฉบับที่3 เข้มข้นกว่านี้แน่นอนครับ ผมจะโฟกัสไปที่ “มาตรา 309 เจ้าปัญหา” นี้ เชื่อมโยงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การแก้ไขหรือการคงไว้ซึ่งม. 309 นี้จะเป็น

กฎหมายล้างผิด “คนโกง” หรือเป็น
กฎหมายล้างผิด “ฆาตกร” กันแน่ครับ

อ้างอิง MThai News