ทีมข่าว นปช.
19 พฤศจิกายน 2555
ถอดคำปราศรัยของอ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ในงานชุมนุม “รวมพลคนรักประชาธิปไตยต่อต้านพวกกบฏ”
เมื่อวันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2555 ณ. ศาลากลาง (หลังเก่า) จ.ขอนแก่น
เมื่อวันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2555 ณ. ศาลากลาง (หลังเก่า) จ.ขอนแก่น
สวัสดี...พี่น้องทั้งหลาย (มีการจุดพลุต้อนรับการปราศรัยของประธานนปช.) พี่น้องที่นี่ พี่น้องที่ภาคอีสาน พี่น้องเสื้อแดงทั่วประเทศ และพี่น้องเสื้อแดงทั้งโลกค่ะ (พลุยังดังต่อเนื่องสวยงามมาก) วันนี้เป็นวันปฐมฤกษ์ของการชุมนุมในการต่อสู้ที่กำลังเริ่มเข้าสู่รอบใหม่ ยุคใหม่ของการต่อสู้กับระบอบอำมาตย์อีกครั้งหนึ่งค่ะ ประชาชนไทยต่อสู้กับระบอบอำมาตย์มา 80 ปี การต่อสู้มีทั้งล้มลุกคลุกคลานแต่การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการต่อสู้ 6 ปีมานี้ของคนเสื้อแดงค่ะ นี่คือประวัติศาสตร์โลกเลย ถามว่าวันนี้มันเป็นการยกระดับการต่อสู้อีกครั้งหนึ่งใช่ไหม (ใช่..เสียงพี่น้องตอบพร้อมกัน) เห็นไหม...อาจารย์ธิดาไม่ต้องตอบเลย คนเสื้อแดงตอบเองเลยว่า..ใช่ นี่แสดงว่าวุฒิภาวะความสามารถของเราคนเสื้อแดงนั้นยิ่งใหญ่นะคะ
พี่น้อง...วันนี้เรามาพบกันอีกครั้งหนึ่งในการต่อสู้ยุคใหม่ การต่อสู้นี้เป็นการต่อสู้ครั้งใหม่ที่มีความหมายในเชิงประวัติศาสตร์อย่างยิ่ง เหตุผลก็คือ 80 ปีเราล้มลุกคลุกคลาน เมื่อปี 35 การต่อสู้ของประชาชนสามารถที่จะทำให้ผลพวงแห่งการต่อสู้ยกระดับขึ้นมาคือเราได้รัฐธรรมนูญ 2540 และมีความสำนึกว่านายกรัฐมนตรี นี่ปี 35 นะ นายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชนเท่านั้น นี่คือผลพวงการยืนยันการต่อสู้ของประชาชนเมื่อปี 2535 เราจึงได้รัฐธรรมนูญและได้จิตสำนึกที่ครอบงำประเทศไทยว่า เราจะไม่เอานายกที่มาจากการรัฐประหารหรือการแต่งตั้ง ยกเว้นการเลือกตั้งเท่านั้น นี่คือสิ่งที่สำนึกอยู่ในหัวใจคนไทยทุกคน และรัฐธรรมนูญ 2540 เป็นมิติใหม่ที่จะบอกให้รู้ว่าต่อไปนี้พรรคการเมืองต้องสร้างตัวขึ้นมาให้แข็งแรง เพราะว่ารัฐธรรมนูญ 2540 มีเป้าหมายให้เหลือพรรคการเมือง 2 พรรคหรือ 3 พรรค ตอนนั้นที่เขาทำเนี่ยเขานึกว่าพรรคของอำมาตย์หมายถึงพรรคประชาธิปัตย์นั่นแหละจะต้องได้เปรียบจากรัฐธรรมนูญ 2540 แต่กลายเป็นว่าพรรคประชาธิปัตย์พยายามสร้างตัวเองขึ้นมา แต่ไม่ทันกับพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ซึ่งพุ่งเป็นจรวดเลยจากรัฐธรรมนูญ 2540 คือพรรคไทยรักไทยค่ะ
ดังนั้นการทำรัฐประหาร 2549 คือต้องการที่จะล้มคุณทักษิณ ต้องการที่จะล้มพรรคไทยรักไทย แต่เป้าหมายคือต้องการปั่นทอนพรรคการเมือง ต้องการทำให้อำนาจพรรคการเมืองเล็กลง ผลก็คือปรากฏว่า 5 ปีที่ผ่านมาแทนที่ว่าพรรคการเมืองที่ตัวเองต้องการพิฆาตจะลดลงหรือหายไป กลายเป็นว่าเปลี่ยนชื่อแล้วยิ่งใหญ่มากขึ้น ยิ่งใหญ่มากขึ้นค่ะ ความยิ่งใหญ่อยู่ที่ไหน ความยิ่งใหญ่อยู่ที่ว่ามีประชาชนหนุนหลัง มีประชาชนสนับสนุน และประชาชนที่สนับสนุนนั้นไม่ใช่ประชาชนธรรมดา แต่เป็นประชาชนที่ตื่นตัวทางการเมือง และการตื่นตัวทางการเมืองนั้นได้สร้างนักต่อสู้ของประชาชน เขาไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแล้ว แต่เขาทำเพื่อประเทศชาติ นี่คือการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ของคนเสื้อแดงค่ะ
เพราะฉะนั้นคุณทักษิณอาจจะถูกปล้นเงินไปจำนวนหนึ่ง อาจถูกรังแกสารพัดจนกระทั่งไม่สามารถกลับเข้ามาในประเทศได้ แต่สิ่งที่คุณทักษิณได้ก็คือได้ใจประชาชน และพรรคเพื่อไทยก็กลายเป็นพรรคที่มีการสนับสนุนจากประชาชนที่ตื่นตัวทางการเมืองทั่วประเทศ นี่คือผลงานค่ะ (เสียงปรบมือ) มาบัดนี้นำมาสู่คำพูดที่ว่าแล้วการต่อสู้ครั้งนี้แปลว่าอะไร? การต่อสู้ครั้งนี้หมายความว่า ความพยายามที่จะลดระดับความสำคัญของพรรคการเมือง ความพยายามที่จะจัดการกับพรรคที่มาจากพรรคไทยรักไทย เพียงแค่นี้ไม่พอสำหรับเครือข่ายระบอบอำมาตย์ การต่อสู้รอบนี้ถ้าดูจากแถลงการณ์ขององค์การพิทักษ์สยาม ถ้าเราดูเราจะพบว่าสิ่งที่เขาตั้งเป้าหมายขณะนี้ก็คือว่า จะไม่ให้มีการเลือกตั้งในประเทศไทยอีกยาวนานหรือตลอดไปเลยค่ะ แล้วพี่น้องว่ามันจะเป็นไปได้ไหมที่มันจะให้ปิดประเทศไม่มีการเลือกตั้ง ไม่ให้มีพรรคการเมือง ไม่ให้มีนักการเมือง พี่น้องว่ามันจะเป็นไปได้ไหม? ไม่ได้...(เสียงแข็งเลย) ไปบอกตาเฒ่าพวกนั้นเถอะ.... ตาเฒ่าทั้งหลาย... ถามว่าคำพูดของเขาที่บอกว่าจะปฏิวัติประเทศไทย จะปฏิวัติประชาธิปไตย ไม่มีความหมายเท่ากับข้อ 6 ของแถลงการณ์หรือคำพูดของประสงค์ สุ่นศิริ คำพูดของพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ และทุกคนตรงกัน บ่งถึงวิธีคิดของเขาก็คือเขาไม่สามารถทำเพียงแค่ลดทอนอำนาจของพรรคการเมือง มีสว.ครึ่งหนึ่งไม่พอ ยังจัดการไม่ได้ เพราะฉะนั้นเขาจึงยกระดับว่าเขาต้องการทำสิ่งที่เรียกว่าปฏิวัติประชาธิปไตย หมายความว่าไม่ให้นักการเมือง ไม่ให้พรรคการเมือง มีบทบาทในประเทศไทยอีกต่อไป นี่คือเป้าหมายของคนกลุ่มนี้ค่ะ ยอมได้ไหม (พี่น้องตอบว่า..ไม่ได้) แล้วนักการเมืองที่ฉลาด ๆ ทั้งหลายที่จะพยายามพะเน้าพะนอแล้วก็โอ้โลมปฏิโลมอำมาตย์น่ะรู้เสียด้วยว่าเงาหัวเขายังไม่ให้มีเลย เขาไม่ต้องการให้มี ไม่ใช่เพียงแค่ว่าคุณมีอำนาจน้อย ๆ นะ ไม่ใช่ (เสียงสูง) สิ่งที่เขาบอกก็คือว่าไม่ให้มีเลย เพราะฉะนั้นความหมายตอนนี้จึงเป็นการต่อสู้ที่ฝั่งของระบอบอำมาตย์ยกระดับการต่อสู้อย่างรุนแรง นั่นก็คือตรงกับคำพูดของเขาที่ว่าทำทุกทาง หน้าด้านอย่างไรก็ทำ เพื่อที่จะกำจัดพรรคการเมือง นักการเมืองทั้งหลายในประเทศไทยไม่ให้มีบทบาทอีกต่อไปค่ะ
ชอบธรรมหรือไม่? เขาไม่สน เพราะฉะนั้นเป้าหมายนี้เขาจึงเรียกเขาว่าเป็นพวกปฏิวัติประชาธิปไตย เขาเขียนข้อ 1, 2, 3, 4 หรูหรามาก เขียนอย่างดีเลย จะทำให้เกิดนิติรัฐ นิติธรรม ทำให้เกิดความเสมอภาค ทำให้เศรษฐกิจใกล้เคียงกัน แก้ปัญหาความยากจน พูดทุกอย่างดูเหมือนดี ฟังเหมือนพวกเรา แต่ลงท้ายก็คือทั้งหมดนี้ทำโดยเทวดากลุ่มหนึ่ง ไม่ต้องมาจากประชาชน ไม่ต้องมีการเลือกตั้ง เพราะถ้าพวกเอ็งเลือกตั้งมา เอ็งจะเลือกตั้งคนชั่ว ๆ มา เขาจึงไม่ต้องการค่ะ
และความคิดของพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่แพ้การเลือกตั้งพบว่าการที่เขาเอาแฟ้มปา การที่เขาบีบคอ การที่เขาลากเก้าอี้ การที่เขาปั่นป่วนในรัฐสภา แปลว่าไม่เอาดีทางรัฐสภาอีกแล้ว แต่ต้องการเลียนแบบ เขาต้องการสร้างมวลชนนอกระบบ เพราะเขารู้ว่าถ้ามาตามระบอบประชาธิปไตยมีการเลือกตั้งเขาแพ้ทุกที ๆ ค่ะ ฉะนั้นจึงเลิกสู้ในระบบจะหันไปสู้นอกระบบจึงทำการเดินเวียนสายทั้งหมด แล้วเปิดทีวีมาแข่งกับทีวีช่องแดง ทำทั้งหมดเลียนแบบเพราะพรรคนี้คิดอะไรเองไม่เป็นมีแต่ลอกคนอื่นเขาทุกอย่างเลยค่ะ นอกจากลอกพรรคไทยรักไทย ลอกพรรคเพื่อไทย ก็มาลอกคนเสื้อแดงด้วย แต่ที่ลอกไม่ได้ก็คือหัวใจของคนเสื้อแดง เพราะว่าสิ่งนี้พรรคประชาธิปัตย์สร้างไม่ได้แน่นอน...ท้าทายเลยค่ะ (พี่น้องปรบมือ)
เพราะฉะนั้นมาถึงนาทีนี้วันนี้เป็นวันแรกที่เราได้มาชุมนุมในบรรยากาศที่มีการกดดันว่าจะมีการเคลื่อนไหวมวลชนจำนวนมาก การเคลื่อนไหวมวลชนจำนวนมากอันนี้เพื่อสร้างภาพให้ดูเหมือนว่าประชาชนจำนวนมากไม่ยอมรับรัฐบาลนี้ แต่นี่เป็นวิธีการนอกระบบ ถามว่าความชอบธรรมในสายตาชาวโลกมีไหม? ไม่มี! เพราะว่าโลกทั้งโลกเขายอมรับการเลือกตั้งที่มีประชาชนมาลงคะแนนเสียงอย่างเท่าเทียมกัน 1 คนเท่ากับ 1 เสียง โลกทั้งโลกเขาใช้ระบบนี้เขาไม่ได้ใช้ระบบว่าพวกกูเป็นคนดีจึงมีหน้าที่ปกครองประชาชน (พี่น้องปรบมือ) พี่น้อง...ขณะนี้เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น พี่น้องอยู่ในศตวรรษนี้ พี่น้องไม่คิดหรอกว่าที่แล้วมาเราจะมาอยู่ถึงจุดนี้ พี่น้องคิดว่าเขาไม่กล้าทำ แต่ว่าเขาทำมาเยอะแล้ว พวกนี้เป็นพวกที่กลัวความทันสมัย กลัวความเจริญ ต้องการฉุดกงล้อประวัติศาสตร์เอาไว้ วิธีการหน้าด้านแบบไหนก็ทำ เพราะฉะนั้นพี่น้องต้องภาคภูมิใจที่พี่น้องเกิดมาอยู่ในประเทศไทยในเวลานี้ ในเวลาที่โลกเขากำลังพูดเรื่องความเจริญเทคโนโลยี ในเวลาที่โลกเขาแข่งขันทางเศรษฐกิจ แต่ในประเทศไทยเรากลับมาพูดว่าไม่มีการเลือกตั้งดีหรือไม่ดี นี่จึงเป็นเรื่องที่น่าสมเพชเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ (พี่น้องปรบมือ) ก็ไม่รู้ดูอยู่หรือเปล่า...สงสัยดูอยู่นะ...แต่ไม่แน่...เพราะว่าคนที่ทำเรื่ององค์การพิทักษ์สยาม หรือว่าพล.อ.บุญเลิศทำตัวเป็นหุ่นเชิดมีหน้าที่กินไวน์แล้วก็ดูว่ามีคนมากี่คนเพราะว่ามีคนจัดให้
พี่น้อง..เครือข่ายระบอบอำมาตย์ในประเทศไทยทบทวนกันอีกที
1. พรรคการเมืองอนุรักษ์นิยมที่เรามักเรียกกันว่า “พรรคแมลงสาบ”
2. กองกำลังนอกระบบ ในอดีตนำโดยสนธิ ลิ้มทองกุล บัดนี้พรรคประชาธิปัตย์หรือพรรค นี้เกลียดขี้หน้าเพราะว่าทำท่าเอาไบกอนไปฉีด ก็กลายเป็นพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ นี่คือกองกำลังนอกระบบ ในอดีตเราก็มีนวพล มีกระทิงแดง มีลูกเสือชาวบ้าน นี่คือกองกำลังนอกระบบของระบอบอำมาตย์ มันเป็นสิ่งที่ต้องมีในเมื่อองค์ประกอบที่ 1 แพ้ไปแล้วคือพรรคการเมือง ก็จำเป็นต้องชูองค์ประกอบที่ 2 ก็คือกองกำลังนอกระบบนี่เอง
3. คือกองกำลังในระบบ ได้แก่ กองทัพของประเทศ ณ บัดนี้เราอาจจะยินดีที่มีคำสั่งว่าไม่ให้ไปชุมนุมกับเสธ.อ้าย ยกเว้นว่าถ้าเมียพาไป แต่ว่าคำสั่งนี้ดูมันไม่สมเหตุสมผลเพราะส่วนใหญ่เมียทหารเมียตำรวจเป็นเสื้อแดงทั้งนั้นเลย อาจารย์ผ่านไปทางแฟลตทหารมีแต่ผู้หญิงเสื้อแดงออกมาโบกมือ เพราะฉะนั้นนี่คือกองกำลังในระบบที่ไม่สัมพันธ์กับประชาชนและจัดเป็นเครือข่ายของอำมาตย์
4. ข้าราชการพลเรือนระดับสูง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบวนการยุติธรรมอันได้แก่อำนาจตุลาการซึ่งไม่ยึดโยงกับประชาชน นี่ก็คือเครือข่ายของระบอบอำมาตย์เหมือนกัน
5. ได้ยินว่ามาลงขันถึง 6 พันล้าน ก็คือนักธุรกิจที่ลงขัน นักธุรกิจที่ได้ผลประโยชน์จากระบอบอำมาตย์ ตามข่าวคือลงขัน 6 พันล้าน คุณเอา 6 พันล้านไปให้เสธ.อ้ายเอาไวน์ให้แก่นอนอาบดีกว่า คำถามฝากไปยังสมาคมหอการค้าไทย ไปยังสภาอุตสาหกรรม ไปยังสมาคมนักธนาคารแห่งประเทศไทย ถามว่าคุณเป็นสมาคมธุรกิจที่ต้องอยู่กับโลกสมัยใหม่ ทำไมคุณไม่คัดค้านการทำรัฐประหาร การเชียร์การปฏิวัติ ทำไม เพราะพวกคุณเป็นส่วนของเครือข่ายระบอบอำมาตย์ใช่หรือเปล่า? นี่เป็นคำถามของรากหญ้าต่อสมาคมเหล่านี้ เพราะอำนาจธุรกิจที่อยู่ในเครือข่ายระบอบอำมาตย์นั้นมีมากมาย พวกคุณไม่รู้หรือว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย เพราะว่าถ้าเขาแช่แข็ง 5 ปี คุณก็ไปตามหลังประเทศพม่าก็แล้วกัน (พี่น้องปรบมือ) ยกตัวอย่าง 3G ยังมีไม่ได้ อ.ธิดาพูดมาหลายปีตั้งแต่ปี 50 จนเดี๋ยวนี้เราสู้มาหลายปี 3G ยังมีไม่ได้เลย เพราะว่าพวกอำมาตย์มันกลัวเทคโนโลยี มันกลัวใครจะรวยกว่า มันใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็นหรืออย่างไร? เพราะฉะนั้นนี่คือพวกสำคัญอีกพวกหนึ่ง ส่งเสียงอีกครั้งหนึ่งว่าสมาคมนักธุรกิจ สมาคมธนาคาร อุตสาหกรรม คุณอยู่ได้อย่างไร คุณปล่อยให้คนบอกว่าจะแช่แข็งประเทศไทย แล้วคุณหนาว...หรือเปล่าคะ พวกคุณนั่นแหละจะโดนก่อน พวกต่อมาคือพวกสื่อ ฝากไปยังสื่อทั้งหลายด้วยว่าสื่อขณะนี้โลกาภิวัตน์มันกำลังผลักดันไปเข้มข้นนี่สื่อบางคนยังมาคอยถามรัฐมนตรีเราว่า.....วันนี้เพิ่งได้ยิน...เป็นขี้ข้าคุณทักษิณหรือเปล่า...ดูซิ สื่อคนนี้เคยถามอ.ธิดา แต่ไม่รู้เราก็ว่าพี่แกจะอยู่ยงคงนานขนาดนี้ ตอนเป็นรักษาการประธานนปช.ใหม่ ๆ เขาหันมาถามอ.ธิดาว่า “เอ๊ะ..นปช.จะลอกคราบหรือเปล่า?” อ.ธิดาหันควับไปเลย “ฉันไม่ใช่งู เรื่องอะไรฉันจะต้องลอกคราบ” นี่แหละยายสมจิตรนี่แหละ คือสื่อของเราจำนวนหนึ่งเป็นสื่อที่อยู่เคียงข้างระบอบอำมาตย์กระทั่งสนับสนุนรัฐประหาร ขอให้ได้ชดใช้กรรมภายในไม่กี่วันนี้เอง (พี่น้องสะใจปรบมือยาว)
ทั้งหมดนี้ยังมีนักวิชาการอีกจำนวนหนึ่ง เพราะฉะนั้นพี่น้อง...ในการต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่เฉพาะคนเสื้อแดง ขอฝากไปยังประชาชนไทยเสื้อสีอื่นว่า.....บัดนี้เครือข่ายอำมาตย์ได้เปลือยกาย เปลือยความคิดชัดเจนว่าจะฉุดรั้งประเทศไทยไม่ให้ก้าวไปข้างหน้าไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเมืองการปกครอง พวกคุณอยู่ได้อย่างไรในสถานการณ์นี้ ไม่เดือดร้อนหรืออย่างไร? เพราะฉะนั้นพี่น้องต้องพูดกับคนที่ไม่ใช่เสื้อแดง แล้วคนที่ไม่ใช่เสื้อแดงอย่าคิดว่าการต่อสู้กับองค์การพิทักษ์สยามเป็นเรื่องของคนเสื้อแดง มันไม่ใช่....มันเป็นเรื่องของประชาชนไทยทั้งประเทศเลยค่ะ และบทบาทตอนนี้ต้องเป็นบทบาทสำคัญด้วย เพราะว่าเสื้อแดงขณะนี้เรามันเหมือนนักรบศึกใหญ่ การที่จะก้าวต้องระมัดระวัง ต้องคิดให้หนัก ดังที่คุณจตุพรได้สั่งไว้หลายรอบ ได้ขอเอาไว้หลายรอบ และอ.ธิดาก็ขอเอาไว้หลายรอบว่า ศึกครั้งนี้มันเป็นการยกระดับและยังเป็นความต่อเนื่องของการต่อสู้เพื่อต่อต้านรัฐประหาร เพราะฉะนั้น..พี่น้อง...เราต้องสู้แบบนักรบที่ยกระดับ ยอมได้ไหม ช่วยกันได้ไหม เป็นนักรบที่ยกระดับขึ้นมาจากเดิมค่ะ นั่นคือมีวินัย สุขุม ทุกอย่างทำต้องมีเหตุผล ที่อ.ธิดาเคยพูดไว้ ทุกอย่างต้องมีเหตุผล ได้ประโยชน์ ประโยชน์กับประเทศชาติไม่ใช่ประโยชน์ของเรา เพราะฉะนั้นเราจำเป็นที่จะต้องสุขุม ยกระดับการต่อสู้ทั้งความคิดและการกระทำ
ก็ขอให้พี่น้องที่ฟังอยู่ที่บ้านและฟังอยู่ที่นี่รวมทั้งที่อยู่ในต่างประเทศ และโดยเฉพาะประชาชนไทยที่ไม่ใช่คนเสื้อแดง ท่านได้โปรดรับรู้ไว้ด้วยว่า การต่อสู้ในประเทศไทยนั้นมาถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญยิ่ง นั่นก็คือถ้าแม้นว่าผ่านพ้นอันนี้ไปได้ ประเทศไทยก็จะพุ่งโลดทะยานไปสู่ถนนแห่งสันติภาพ ไปสู่ถนนที่เรานำไปสู่ความเสมอภาค เพื่อความยุติธรรมและสันติสุข แต่ว่าถ้าเราไม่ผ่านตรงนี้ไป เราก็ต้องถูกทำให้ตกไปสู่เหวลึกอีกครั้งหนึ่ง เพราะฉะนั้นไม่ใช่เฉพาะคนเสื้อแดง จำเป็นที่พวกเราจะต้องรักษาชัยชนะของประชาชนที่แลกมาด้วยเลือดด้วยน้ำตาและยังอยู่ในคุก ยังอยู่กันเป็นจำนวนนักสิบ ๆ คน และไม่รู้ว่าถ้าการต่อสู้ครั้งนี้เกิดผิดพลาดเสียหาย เราทั้งหลายก็จะต้องเข้าไปในคุกอีกจำนวนหนึ่งโดยเฉพาะที่นั่งอยู่บนเวทีนี้ เพราะฉะนั้นพี่น้องอย่านึกว่าการเป็นแกนนำจะเป็นตำแหน่งที่ดูดี ที่ดูมีเกียรติยศ ดูเหมือนว่าจะได้มีลาภ มียศ แต่ความเป็นจริงในโลกความจริงนั้น คือโทษก่อการร้ายถึงขั้นประหารชีวิต คุก ตาราง หรือการอุ้มให้หายไปเลย นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ ไม่ใช่อยู่ในความฝันหรือจินตนาการ
เพราะฉะนั้น...พี่น้อง...เมื่อการต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ ก็ขอให้พี่น้องทั้งหลายได้สงบใจและใคร่ครวญให้ดี ทำให้ก้าวย่างของเราเป็นก้าวย่างที่สุขุม เราจะไม่ทำสองอย่างสุดขั้ว อย่างที่หนึ่งคือเสี่ยงภัย ลัทธิสุ่มเสี่ยงอันนี้เราไม่เอาเพราะเราไม่ต้องการให้ชัยชนะเราสูญเสีย อีกอย่างหนึ่งคือการยอมจำนนอย่างไร้หลักการ ยอมจำนนโดยไม่คิดว่าชัยชนะที่ได้มานั้น มาจากซากศพ มาจากน้ำตาและอิสรภาพของพวกเรา แบบนี้เอาไหมพี่น้อง เพราะฉะนั้นย่างก้าวของเราต่อไปนี้ เราเสียอะไรก็เสียได้พี่น้อง แต่ที่เราจะไม่ยอมเสียเลยก็คือความเข้มแข็งของประชาชนโดยเฉพาะคนเสื้อแดงค่ะ เพราะฉะนั้นการทำทุกอย่างพี่น้องต้องคิดว่ามันจะเกิดความเสียหายกับขบวนหรือเกิดดีกับขบวน ขบวนนี้ก็คือขบวนประชาธิปไตยที่เดินหน้า ถ้าพี่น้องคิดอย่างนี้ตลอดเวลาในการทำงาน แม้นว่าแกนนำที่เรานั่งกันอยู่ไม่ได้ทำหน้าที่แกนนำด้วยเหตุอันใดก็ตาม แต่ด้วยวุฒิภาวะของพี่น้องก็จะพากันนำพาทำให้การต่อสู้ได้รับชัยชนะได้ เพราะฉะนั้นก็ขอฝากอนาคตของประเทศไทยและการต่อสู้รอบใหม่ไว้ในมือของประชาชนไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเสื้อแดงค่ะ...ขอบคุณมากพี่น้อง....อนาคตประเทศอยู่ในมือของพี่น้องเราค่ะ......สวัสดีค่ะ
*************************