โอ๊คท้า ปชป. ให้ศาลโลกสอบสลายชุมนุม

โพสท์ทูเดย์ 3 พฤศจิกายน 2555 >>>




พานทองแท้ ท้า ปชป. อย่ายื้อเวลาเป็นมวยหมดราคา หนุนให้ศาลโลกเข้ามาตัดสินคดีสลายชุมนุมเสื้อแดงปี 53

นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายคนโตของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังคงใช้เว็บไซต์สังคมออนไลน์ "เฟซบุ๊ก" ในการวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นการเมืองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดวันนี้ ได้ยกกรณีที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ จะเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อขอให้ศาลโลกเข้ามาสอบคดีสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อปี 53
นายพานทองแท้ ยังตอบโต้ที่ นายชวนนท์ อินทรโกมาลสุตย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าเป็นการปาหี่และท้าให้ลงสัตยาบรรณรับอำนาจศาลนั้น โดยระบุว่า มีกระบวนการลงสัตยาบรรณมานานกว่า 10 ปีแล้ว แต่ไม่คืบหน้าเพราะรัฐบาล ปชป. ท้าหากไม่มีอะไรในกอไผ่จริง ก็อย่ายื้อเวลา สำหรับข้อความที่นายพานทองแท้ โพสต์ลงเฟซบุ๊ก มีดังนี้

ไทยรัฐออนไลน์เมื่อวานนี้ พาดหัวเกี่ยวกับศาลโลกอยู่ 2 ข่าวด้วยกันครับ
ข่าวแรกคือ “สุรพงษ์” เตรียมชง ครม. ขออนุญาตเปิดทางศาลโลกสอบคดีสลายชุมนุมเสื้อแดง โอ่ศาลโลกมีคำสั่งรับเรื่องเข้าสู่การพิจารณาแล้ว
และอีกข่าวนึงคือ "ชวนนท์" ซัดแกนนำ นปช. เลิกปาหี่ คดีศาลอาญาโลก ท้ารัฐ แน่จริงลงสัตยาบรรณ รับอำนาจศาลเลย
ในยุคข้อมูลข่าวสารเช่นทุกวันนี้ พรรคการเมืองใดที่พูดเก่ง และเคยชินกับการพูดให้สังคมงุนงงสับสน ย่อมจะตีกินในลักษณะเดิมได้ยากขึ้นเรื่อยๆครับ เฟสบุ๊คพานทองแท้นี้ จะเป็นสะพานที่เชื่อมเรื่องบางเรื่องที่เราไม่คุ้นเคย ให้เข้าใจได้ง่ายเข้า ดังนั้นวันนี้เรามาทำความเข้าใจกันแบบง่ายๆ กับกระบวนการพิจารณาคดี ของศาลอาญาระหว่างประเทศ กันดีกว่าครับ
ศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC (ย่อมาจาก International Criminal Court) ตั้งอยู่ที่ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ถูกจัดตั้งขึ้นตาม ธรรมนูญกรุงโรมเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว มีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาคดีอาญา ณ แห่งหนตำบลใด ในประเทศที่เป็นภาคีได้ โดยมีทั้งหมด 114 ประเทศรวมถึงอังกฤษ ศาลนี้จึงสามารถพิจารณาคดีของ พลเมืองอังกฤษที่ชื่อ "มาร์ค" ได้ด้วย
ประเทศไทยของเราเป็น 1 ใน 34 ประเทศ ที่ได้ลงชื่อเข้าร่วมแล้ว แต่ยังมิได้ให้สัตยาบัน จึงยังมิได้เป็นรัฐภาคี ทำให้เขตอำนาจของศาลไม่ครอบคลุมถึงไทย แต่เนื่องจากมาตรา 12.3 ของธรรมนูญฯระบุไว้ว่า รัฐใด ๆ ก็ตามที่ลงชื่อเข้าร่วมแล้ว แต่ยังไม่ลงสัตยาบรรณ สามารถยอมรับอำนาจศาลชั่วคราวเฉพาะกรณีได้ โดยให้รัฐมนตรีต่างประเทศยอมรับอำนาจชั่วคราว และเนื่องจากเป็นการประกาศฝ่ายเดียว จึงไม่ถือเป็นสนธิสัญญา ที่ต้องทำ 2 ฝ่ายขึ้นไป จึงไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ฮิ้ววววว..........
เห็นภาพแล้วนะครับ ศาลมีอำนาจพิจารณาพลเมืองอังกฤษที่ชื่อ "มาร์ค" ได้ แต่ไม่สามารถสืบสวนข้อเท็จจริงในไทย ศาลก็ย่อมไม่มีข้อมูลในการตัดสิน จึงเป็นที่มาของการที่ทั้ง 2 ฝ่ายออกมาแถลงข่าว ตามที่ผมกล่าวถึงตอนต้นนั้น ทีนี้เรามาดูว่าข้อแตกต่างของข้อเสนอและคำท้า ของทั้ง 2 ฝ่ายมีนัยยะอย่างไรกันครับ
ฝั่ง รมว.ต่างประเทศ เข้าใจได้ง่ายๆ ตรงไปตรงมาครับ ดร.ปึ้ง แกจะขอให้ ครม. อนุมัติให้ศาลโลก เข้ามาตรวจสอบโดยใช้หลักตามมาตรา 12.3 ของธรรมนูญกรุงโรม ซึ่งไทยได้ลงนามร่วมไว้แล้ว ซึ่งเมื่อครมมีมติปุ๊บ กระบวนการของศาลโลก ก็เริ่มนับ 1 ได้ทันทีครับ
ส่วนสิ่งที่โฆษก ปชป. ท้าว่าให้เลิกเล่นปาหี่ แล้วให้ลงสัตยาบรรณเพื่อให้ศาลโลกเข้ามาตรวจสอบได้เลยนั้น ผมว่านี่แหละครับปาหี่ของจริง ขอบอกว่ากระบวนการลงสัตยาบรรณนั้น เขาทำกันมานานแล้วครับ ครม. ได้มีมติเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2542 (13 ปีมาแล้ว ป่านนี้ยังไม่คืบหน้าเลย น่าจะเป็นสมัย ครม.ปชป. เองนะแหละครับ ไม่แน่ใจขี้เกียจเช็ค) ได้แต่งตั้ง "คณะกรรมการพิจารณาธรรมนูญศาลอาญาระหว่างประเทศ" ขึ้นตามที่กระทรวงต่างประเทศเสนอ เพื่อพิจารณาว่าต้องแก้ไข, เพิ่มเติม, ปรับปรุงกฎหมายของไทย เพื่อให้สอดคล้องหรือไม่อย่างไร และจะต้องเผยแพร่เนื้อหาสาระของธรรมนูญให้แก่สาธารณชนได้รับทราบก่อนด้วย
โฆษกฯ ปชป. นี้ แกเคยเป็นเลขาฯเดินตาม กษิต ภิรมย์ คนที่เคยพูดว่า ม๊อบปิดสนามบินนั้นอาหารก็ดี ดนตรีก็เพราะ แล้วพรรค ปชป. ยังเอามาเป็น รมต.ต่างประเทศ นั่นแหละครับ เขาย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่า กระบวนการลงสัตยาบรรณนั้นทำกันมา 13 ปีแล้ว ไม่รู้ว่าถึงครึ่งทางหรือยัง เหลือขั้นตอนอีกบานเลย หากต้องรออีก 10 กว่าปี ป่านนั้นผู้นำฝ่ายค้านแกเลิกเล่นการเมืองไปแล้วครับ เห็นประกาศว่าจะเล่นการเมืองอีก 10 ปี ตอนนี้ก็เหลือเวลาของแกอีก 9 ปีกว่าๆเอง
ฟังจาก 2 ฝ่าย ถ้าจะมาท้ากันโดยให้ยืดเวลาให้นานเข้าไว้ เขาเรียกว่ามวยหมดราคาครับ แน่จริงต้องท้าให้ รมต.สุรพงษ์ฯ นำเรื่องเข้า ครม. เร็วๆเลย อาทิตย์หน้ายิ่งดี การพิสูจน์โดยใช้คนกลางแบบที่ "มือที่มองไม่เห็นไม่สามารถสั่งได้" แบบผิดว่าตามผิด ถูกว่าตามถูก ไม่ต้องมี 2 มาตรฐาน เป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนรออยู่ครับ มาท้ากันแบบให้ยื้อเวลากันแบบนี้ เฮ้อออ...เสียฟอร์มครับ...เสียฟอร์ม
ที่สำคัญคือ เมื่อความจริงปรากฏ เราจะรู้กันว่ามีใครสั่งฆ่าประชาชนหรือไม่ ถ้ามีจริงและโดนลงโทษเมื่อไหร่ วิญญาณของวีรชนที่ยอมสละชีพเพื่อปกป้องประชาธิปไตยทุกท่าน จะได้นอนตายตาหลับเสียทีครับ