13 พฤศจิกายน 2555
Facebook นพ.เหวง โตจิราการ
วันนี้ นพ.เหวง โตจิราการออกมาปฏิเสธการรับตำแหน่งคณะทำงานที่ปรึกษา คณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย(ผรท.)โดยได้เขียนลง Facebook ส่วนตัวดังต่อไปนี้
.................................
ด้วยมีการแต่งตั้งผมให้เป็นกรรมการที่เกี่ยวข้องกับผรท.ซึ่งขณะนี้ได้เสื่อมโทรมลงเป็นเพียงพวกที่เรียกร้องเงินหลายแสนจากรัฐบาลไปเสียแล้ว ผมจึงขอปฏิเสธที่จะรับตำแหน่ง ดังรายละเอียดต่อไปนี้ครับ
หนังสือปฏิเสธการรับตำแหน่งคณะทำงานฝ่ายที่ปรึกษา คณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย(ผรท.) ตามที่รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงภายใน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภาในเวลานั้นได้ลงนามในคำสั่งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยที่ 6/2555 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2555 เรื่องแต่งตั้งคณะทำงานฝ่ายที่ปรึกษาคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผรท.จำนวน10คน โดยมีผมเป็นหนึ่งในรายชื่อที่ได้รับการแต่งตั้งด้วยนั้น
ผมขอแถลงต่อสาธาณชนขอปฏิเสธในการรับตำแหน่งนี้ ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
1. ผมไม่ทราบเรื่องคำสั่งดังกล่าวตั้งแต่ต้น จนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่ได้รับรู้ใดๆเกี่ยวกับคำสั่ง แต่รู้จาก นิตยสารรายสัปดาห์บางฉบับ อย่างไรก็ดี ก็ยังขอขอบพระคุณ ท่านอดีตรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่กรุณาให้เกียรติแต่งตั้งผมเป็นกรรมการในคณะทำงานดังกล่าว
2. เรืองการช่วยเหลือ “ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย”นั้นเป็นผลสืบเนื่องโดยตรงของ นโยบายการเมืองนำการทหาร66/23เพื่อยุติการต่อสู้ด้วยอาวุธของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในสมัยนั้นที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาลอันเป็นตัวแทนของชนชั้นผู้กดขี่ขูดรีด และสร้างสังคมคอมมิวนิสต์ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยรัฐยอมรับว่าผู้ที่ต่อสู้กับรัฐนั้นเป็นผู้ที่อุทิศตนเองต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ของตนเอง เพียงแต่ว่ามีความเห็นทางการเมืองไม่ตรงกันเท่านั้น ดังนั้นแทนที่รัฐจะใช้การทหารมาปราบปรามเข่นฆ่า รัฐจึงใช้การเมืองมาแก้ปัญหา โดยรัฐยินดีต้อนรับฝ่ายพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยกลับเข้ามาร่วมกันสร้างสรรค์ประชาธิปไตยที่แท้จริงให้เกิดขึ้นในประเทศไทย รัฐจึงบัญญัติศัพท์ ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยขี้น ให้หมายถึง พลพรรคของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในขณะนั้นที่กลับเข้ามาร่วมกันสร้างสรรค์ประเทศให้เป็นประชาธิปไตยสืบต่อไป และเนื่องจากพวกเขาได้”เข้าป่าจับปืนสู้มาเป็นเวลาร่วมสิบปีหรือกว่าสิบปี”พวกเขาจึงขาดไร้ซึ่งปัจจัยในการก่อร่างสร้างตัวอย่างสิ้นเชิง รัฐจึงได้ให้การสนับสนุนปัจจัยที่สำคัญพื้นฐานเพื่อให้พวกเขาสามารถก่อร่างสร้างตัวได้เท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้องและควรสนับสนุนในขณะนั้น
3. แต่ด้วยความไม่จริงใจของกลุ่มผู้มีอำนาจแท้จริงของรัฐไทย โดยถือผรท.เป็นเสมือนผู้แพ้สงคราม แล้วใช้พวกเขาเป็นเครื่องมือทางการเมืองของฝ่ายรัฐเท่านั้น ทอดทิ้งพวกเขามาโดยตลอด จนภายหลังรัฐประหาร 49 ฝ่ายอำนาจนิยมต้องการกำลังในการต่อสู้กับคนเสื้อแดง พล.อ.สุรยุทธ์จุฬานนท์ ก็เดินทางไปพบ ผรท.ทั้งภาคเหนือและภาคอิสานในวันแรกที่เป็นนายกรัฐมนตรี โดยใช้สถานะที่เป็นบุตรของพันโทโพยมจุฬานนท์ที่เป็นผู้บัญชาการกองทัพปลดแอกแห่งประเทศไทยมาเป็นประโยชน์ แล้วก็ใช้เรื่องผลประโยชน์ผรท.ในอดีตมาจูงใจให้สนองตอบต่อการเมืองของรัฐบาลคมช.ในขณะนั้นเพื่อไม่ให้สนับสนุนคนเสื้อแดง และเตรียมไว้เป็นกำลังฝ่ายอำนาจนิยม ซึ่งก็เท่ากับเลือกปฎิบัติสร้างความขัดแย้งและทิ้งปมปัญหาในเรื่องแสวงหาผลประโยชน์จากงบรัฐให้เกิดกับผรท.
4. ปัจจุบัน ความหมายที่แท้จริงของ ผรท.หรือพลพรรคคอมมิวนิสต์ที่ต่อสู้เพื่ออุดมการณ์คอมมิวนิสต์ จึง เสื่อมทรามเน่าเฟะลงไปอย่างน่าเสียดาย ที่น่าเป็นห่วงยิ่งก็คือ มีบางบุคคลที่ฉวยโอกาสทำตัวเป็นนายหน้า สร้างความหวังลมๆแล้งๆโดยใช้ข้ออ้างว่าเป็นผรท.เพื่อเรียกร้องเงินจากรัฐบาลเป็นจำนวนหลายแสนโดยเรียกค่าใช้จ่ายล่วงหน้าเป็นตอบแทน จนทำให้มีผู้คนหลงเชื่อเป็นจำนวนไม่น้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง อดีตผรท.บางคนยังทำตัวเป็นเครื่องมือทางการเมืองของฝ่ายอำนาจนิยม ชักชวนให้ผรท.ผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์มาเป็นเครื่องมือทางการเมืองรับใช้ฝ่ายอำนาจนิยมเสียด้วยซ้ำ
5. การเรียกร้องผลประโยชน์ใดๆจากรัฐบาลอันจะอ้างอิงจาก นโยบายการเมืองนำการทหาร คำสั่งที่66/23 ในเรื่องผรท.ตั้งแต่เมื่อปีพ.ศ.2523(สามสิบสองปีที่แล้ว)สมควรจะยุติได้แล้ว
ผมจึงขอปฏิเสธ ที่จะรับตำแหน่งใดๆ อันจะเกี่ยวข้องกับ เรื่องผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย(ผรท.)ในครั้งนี้ และที่จะมีขึ้นในอนาคตด้วย
นพ.เหวง โตจิราการ
13 พฤศจิกายน 2555