มติชน 16 พฤศจิกายน 2555 >>>
วันนี้ (16 พ.ย.) นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะ ของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) ว่าที่ประชุมเห็นควรให้มีการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองเดือน เม.ย. ถึง พ.ค. 53 ให้ครอบคลุมทุกฝ่าย
ในส่วนของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจะแบ่งกลุ่มเพื่อพิจารณาค่าเสียหายตามลำดับ ตั้งแต่น้อยกว่า 1 แสน ถึง 5 ล้านบาท โดยจะนำมูลค่าความเสียหายโดยเฉลี่ยตามที่ได้รับแจ้งเป็นตัวตั้งและจะชดเชยเป็นเงินร้อยละ 40 ของวงเงินดังกล่าว แต่ไม่เกิน 2 ล้านบาท เพื่อแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้เยียวยาเฉพาะผู้เสียชีวิต
สำหรับการกำหนดหลักเกณฑ์นี้ เพราะ ปคอป.มองว่าผู้ประกอบการกลุ่มนี้มีศักยภาพในการฟื้นฟูตัวเอง และรัฐบาลไม่สามารถจะชดเชยได้ถึงร้อยละ 40 ของความเสียหาย เนื่องจากบางรายมีความเสียหายในหลักร้อยหรือพันล้าน โดยในส่วนของการเยียวยาผู้ประกอบการ ปคอป.เตรียมขอครม.อนุมติงบประมาณเพื่อดำเนินการเยียวยาจำนวน 2 พันล้านบาท ซึ่งจะดำเนินการให้เร็วที่สุด
ด้านนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับทิศทางการดำเนินงานจัดเวทีประชาเสวนา แถลงว่า ที่ประชุม ปคอป. มีมติเรื่องการจัดเวทีประชาเสวนาหาทองออกประเทศไทย เพิ่มขึ้นเป็น 108 เวทีทั่วประเทศ เป็นเวทีในตางจังหวัด 100 เวที และอีก 8 เวทีในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยคัดเลือกอาจารย์ในมหาวิทยาลัยท้องถิ่นจำนวนประมาณ 400 คนมาเป็นวิทยากร ใช้งบประมาณรวม 168 ล้านบาท
ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากชุมนุมทางการเมือง จากกรณีถูกจับกุมและคุมขังแต่พนักงานอัยการไม่ส่งฟ้อง, ผู้ที่ถูกจับกุมคุมขังและอัยการส่งฟ้องแต่ศาลพิพากษายกฟ้อง และ ผู้ที่ถูกศาลพิพากษาว่ามีความผิดแต่ถูกคุมขังนานกว่าโทษที่ได้รับ จะชดเชยเป็นเงินวันละ 411 บาท นอกจากนี้ยังมีการเยียวยาด้านจิตใจสำหรับผู้ที่ถูกคุมขังเงิน 90 วันแต่ไม่เกิน 180 วัน เป็นเงิน 7.5 แสนบาท ส่วนผู้ที่ถูกคุมขังเกิน 180 วัน จะได้รับการชดเชิญ 1.5 ล้านบาท ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ดังกล่าวมีประมาณ 500 คน โดยจะใช้วงเงินในการเยียวยา 300 ล้านบาท ทั้งนี้หลักการดัง กล่าวผ่าน ครม. แล้ว โดยจะเสนอ ครม. เพื่อของบประมาณเยียวยาเพิ่มเติม