ทีมข่าว นปช.
16 พฤศจิกายน 2555
ก่อนอื่นต้องขอกล่าวคำสวัสดีพี่น้องทุกคน..สวัสดีค่ะ...วันนี้รู้สึกมีความยินดีมากแล้วต้องขอบคุณพวกเราทุกคนที่มาพบกันที่นี่โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใหญ่ประสานที่ได้พยายามที่จะจัดรวมทั้งคณะทุกคน ทุกคนมีค่า ทุกคนเสียสละเวลามา ไม่ใช่หมายถึงอาจารย์คนเดียว เพราะฉะนั้นการที่เราสามารถมาพบกันได้เกิดจากความเสียสละของทุกคนที่มองเห็นความสำคัญในการที่พบปะกัน จึงขอขอบคุณอย่างจริงใจอีกครั้ง ปรบมือให้ตัวเองด้วย.......(ทุกคนปรบมือ)
นาทีนี้เราคนเสื้อแดงมีแต่คำว่า “เสียสละ” สิ่งที่ได้นั้นน้อยมากและยากมากที่ได้แน่นอนคือความภาคภูมิใจในฐานะที่เป็นคนเสื้อแดงซึ่งเป็นกำลังสำคัญที่ต้องการเปลี่ยนประเทศนี้ให้มีประชาธิปไตยและความยุติธรรม เราเผชิญกับความท้าทายมาตั้งแต่ปี 2549 มาจนถึงปัจจุบัน 6 ปีไม่ใช่น้อย ในเวลานี้มันเป็นประวัติศาสตร์การต่อสู้แบบใหม่ ประเทศอื่น ๆ นั้นเขาสู้วันสองวันแล้วเขาก็เลิก แต่ของเราสู้กัน 6 ปีเลยนะคะก็...เอะยังไม่แก่ลงใช่ไหม...รู้สึกสาวขึ้นใช่ไหม....เพราะว่ามันมีพลังใจมันมีชีวิตชีวา หลายคนมีหมอบางคนเขาบอกว่าเตี่ยเขาก่อนหน้านี้เจ็บออด ๆ แอด ๆ แต่พอไปสู้เสื้อแดงยิ่งมีชุมนุมเมื่อไหร่ ยิ่งกระชุ่มกระชวยหายป่วยเลย คือมันเป็นลักษณะพิเศษซึ่งไม่เหมือนประเทศอื่น เรามีความภาคภูมิใจที่เราเป็นคนเสื้อแดงเพราะเราทำสิ่งที่ดีงามให้กับประเทศ เราไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง เพราะฉะนั้นนี่มันเป็นเหมือนน้ำทิพย์ที่ชโลมใจเราและก็ทำให้เรานั้นมีบุคลิกภาพที่ดีมีความองอาจกล้าหาญมีลักษณะที่เบิกบานแจ่มใสแม้จะถูกกระทำ เพราะเราสามารถบอกตัวเองได้ว่าชีวิตที่เราเกิดมาชาติหนึ่งนั้นเราไม่เสียชาติเกิด ชีวิตของเรา 6 ปีมานี้มีแต่การเสียสละให้กับส่วนรวมและประเทศชาติ เราไม่ได้ทำเพื่อคนหนึ่งคนและไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ถ้าใครที่ไปอยู่ในคนเสื้อแดงแล้วคิดว่าจะเอาแต่ได้จากการมาเป็นคนเสื้อแดงนั้น จะพบว่าตัวคน ๆ นั้นจะไม่มีความแข็งแกร่งไม่มีความสง่างาม เพราะตัวเองก็รู้ว่าตัวเองเข้ามาเป็นเสื้อแดงเพราะอะไร แต่ตรงข้ามถ้าเสื้อแดงที่มีความสุจริตที่ตั้งใจจะทำสิ่งที่ดีให้กับประเทศชาติ คุณจะมีบุคลิกลักษณะที่องอาจกล้าหาญมีสติปัญญามีความเข้มแข็งและถ้าเป็นคนสูงอายุหน่อยก็แก่ช้าลงแต่กลับสาวและหนุ่มขึ้น นี่จึงเป็นสิ่งตอบแทนที่ได้จากความสุขอันใหญ่และความเชื่อมั่นในตัวเอง นี่เป็นส่วนหนึ่งยังไม่ต้องพูดถึงว่าส่วนรวมนั้นจะได้และลูกหลานของเราข้างหน้าจะต้องบันทึกประวัติศาสตร์การต่อสู้ของคนเสื้อแดงที่ไม่เหมือนกับที่อื่น
และที่เป็นเช่นนี้เราถึงต้องมาพบกันที่นี่เพราะทิศทางการต่อสู้ยังไม่ได้สิ้นสุดตรงที่เราเป็นรัฐบาล เราพบว่านี่ขนาดเราพยายาม 3 ครั้ง เราได้เป็นรัฐบาลตั้งหลายรอบและบางรอบเสียงของเรามันแน่นมากเลย แต่กลไกรัฐอำมาตย์ก็ยังต้องการล้มรัฐบาลที่มาจากเลือกตั้งของประชาชน ในสถานการณ์นี้ถ้าพี่น้องติดตามองค์การพิทักษ์สยามเราจะพบว่ามันแปลกประหลาด เขาทำตัวเหมือนกับว่าเขาเป็นตัวแทนประชาชนที่ก้าวหน้าด้วยซ้ำ เขาบอกว่าต้องการระบอบประชาธิปไตย ต้องการรัฐสวัสดิการ แต่ว่าต้องทำเศรษฐกิจแบบพอเพียง ต้องการให้มีความยุติธรรมเกิดขึ้น นิติรัฐ นิติธรรม แต่ที่สำคัญก็คือไม่ต้องการให้นักการเมืองและพรรคการเมืองมีส่วนร่วมในการเมืองการปกครองประเทศไทยไปตลอด เพราะว่าคนเหล่านี้เป็นคนที่ไม่ดี เพราะฉะนั้นโฉมหน้าของพวกนี้ที่แท้จริงอยู่ตรงนี้ ความหมายก็คือตัวเองนั้นแพ้จากการเลือกตั้ง วิธีเดียวที่จะรักษาอำนาจและผลประโยชน์ของเครือข่ายของกลุ่มคนในระบอบอำมาตย์ก็คือต้องยึดกลไกรัฐเอาไว้ และเมื่อเป็นเช่นนั้นจึงมีองค์ประกอบสามสี่อย่าง
องค์ประกอบแรกในการต่อสู้ของเครือข่ายระบอบอำมาตย์ก็คือ “พรรคการเมืองอนุรักษ์นิยม” คือพรรคประชาธิปัตย์ องค์ประกอบที่สองก็คือกองกำลังนอกระบบ มวลชนนอกระบบ ในอดีตเขาใช้สนธิ ลิ้มทองกุล แต่มวลชนนอกระบบของเขามันก็มาจากกลุ่มของพรรคประชาธิปัตย์นั่นเอง องค์ประกอบที่สามก็คือกองกำลังอาวุธในระบบ ก็คือกองทัพหรืออส.หรือตำรวจ กองกำลังนอกระบบเมื่อกี้ที่เราพูดเป็นคนที่แต่งตัวธรรมดารวมทั้งพวกทหารเกษียณที่เราเห็น พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ถ้ามีเวลาเราจะขยายความของกองกำลังนอกระบบซึ่งเป็นแบบฉบับการต่อสู้ในอดีตที่ผ่านมา มันเหมือน 6 ตุลา มันเหมือนหลัง 14 ตุลา และเหมือนทุก ๆ ครั้งเพราะว่าเขาสร้างมวลชนของระบอบอำมาตย์ องค์ประกอบที่สี่ก็คือข้าราชการพลเรือนระดับสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบวนการยุติธรรมอันได้แก่ตุลาการภิวัฒน์
ด้านหลักเรามี 4 กลุ่ม แต่ว่าจริง ๆ ยังมีกลุ่มที่ 5 ที่ 6 ยกตัวอย่างกลุ่มที่ 5 คือนักธุรกิจในเครือข่ายระบอบอำมาตย์ นักธุรกิจมีตั้งแต่ระดับสูงใหญ่จนกระทั่งระดับเจ้าของบ่อน หวยเถื่อนเป็นนายทุนที่มีผลประโยชน์กับระบอบอำมาตย์หรือเสียผลประโยชน์จากการทำงานของรัฐบาล อีกกลุ่มหนึ่งกลุ่มที่ 6 ก็สำคัญได้แก่นักวิชาการและสื่ออันเป็นเครือข่ายระบอบอำมาตย์ ทั้งหมดนี้อยู่ฟากคนละคลองกับเราเป็นพวกที่สนับสนุนรัฐอำมาตย์ทั้งสิ้น เรามาถึงนาทีนี้เราก็พบว่าแม้เป็นรัฐบาลอย่างถูกต้องชอบธรรมและต้องอดทนมา 6 ปี แต่ปรากฏว่าเรากำลังเผชิญการต่อสู้ในรอบใหม่ เพราะหลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์แพ้การเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ในสภานั้นสู้ไม่ได้ ที่จะพูดต่อไปนี้เป็นหลักการเชิงทฤษฎีแต่มันสำคัญมาก เพราะพวกเราเก่งทุกคนจำเป็นที่จะต้องแลกเปลี่ยนและเรียนรู้
เมื่อพรรคประชาธิปัตย์แพ้ทางในรัฐสภา อาจารย์ธิดามองแล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจว่าไม่เอาดีทางนี้แล้ว จึงใช้วิธีที่พี่น้องเห็นอย่างปาแฟ้ม คือป่วนเลย บีบคอ ลากเก้าอี้ คือทำไมทำอย่างนั้นถ้าคุณตัดสินใจว่ายังเป็นสมาชิกรัฐสภาที่ทรงเกียรติคุณหนีไม่ได้ เพราะรัฐสภาต้องเป็นที่เคารพ ประธานรัฐสภาก็ต้องเป็นที่เคารพนี่ทั้งลากทั้งดึงทั้งทุบ ทำอย่างนี้พี่น้องต้องเข้าใจเข้าไปในความคิดของเราเลยว่า มันไม่เอาดีทางนี้แล้ว ทำอย่างไรก็แพ้ มันก็หันมาเอาดีทางเลียนแบบคนเสื้อแดง นั่นก็คือในฐานะพรรคการเมืองแพ้มันก็ถอยมาแถวที่สองก็คือสร้างมวลชนนอกระบบ คำถามคือไปเอาสนธิลิ้มอีกไหม..ไม่เอา..เพราะว่าด่ากันลากไส้เลย สนธิลิ้มทำท่าฉีดไบกอนไล่แมลงสาบ จึงต้องหาหัวใหม่ หัวนี้ก็เลยเป็นพล.อ.บุญเลิศที่เราเรียกเสธ.อ้าย เพราะเขามีคุณงามความดีอยู่ 2 ประการ แต่เราเห็นเสธ.อ้ายเราต้องคิดถึงใคร คิดถึงสุรยุทธ จุลานนท์เพราะเขาเป็นเพื่อนกันและภรรยาเสธ.อ้ายก็รับใช้เบื้องสูงอยู่ พี่น้องจำได้ไหมรอบก่อนที่เขาไปประชุมที่บ้านปีย์ มาลากุล สุรยุทธไปประชุมเองนะ มีผู้พิพากษาสูงก็อยู่ มีคนที่อยากจะให้ไปฆ่าทักษิณคือพ.อ.พัลลภก็อยู่ มีตั้งหลายคนที่อยู่แปลว่าเป็นการวางแผนคล้าย ๆ วอลรูม ว่าคนกลุ่มนี้ไปทำอย่างนี้ คนกลุ่มนี้ไปทำอย่างนี้ ลองฆ่าดูตายไหม ถ้าฆ่าไม่ตายให้ทำอะไร พวกเธอทำรัฐประหารอีกพวกหนึ่งอะไรต่าง ๆ เหล่านี้แบ่งงานกันทำ
ทีนี้เวลาเรามองข้างหน้าเราต้องมองทะลุหลัง เรามองเห็นเสธ.อ้ายเราก็ต้องมองให้ทะลุว่ากองกำลังเสธ.อ้ายคืออะไร ด้านหลักคือประชาธิปัตย์ขณะนี้การขนคนมาทั่วเลยโดยเฉพาะภาคใต้ แต่ทำไมมันจ่ายแพงนะ ภาคใต้มันจ่าย 1,500 – 2,000 ฟังแล้วอย่าไปรับของเขานะ ทีนี้อาจารย์ก็ถามพวกเสื้อแดงปักษ์ใต้เมื่อวานนี้ประชุมกัน เขาตอบว่าถ้าราคาไม่สูงก็ไม่มีใครไป ถ้าสู้กันรอบหน้ามันต้องเรียก 3,000 เลยมั้ง แต่กรุงเทพไม่สูงยังไม่ถึงเวลาจ่าย ได้ยินว่าเขาจ่าย 200 เพราะฉะนั้นกองกำลังนอกระบบที่นำโดยเสธ.อ้ายมันเป็นกระบวนการจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พวกเขาต้องมี ที่ผ่านมาในอดีตเขาทำลูกเสือชาวบ้าน เขาทำกระทิงแดง เขาทำนวพล ทำออกมาแล้วปลุกระดมจนคนเกลียดขนาดว่าเผาคนต่อหน้ายังยืนเฉยเลย ครั้งนั้นโหดเหี้ยมทารุณมากเพราะเขาคิดว่านักศึกษาธรรมศาสตร์เป็นคอมมิวนิสต์ เพราะฉะนั้นวาระที่สำคัญของพระกิตติวุฒโทก็คือฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป สงสัยตอนนี้อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะท่องคาถาเดียวกันว่าฆ่าเสื้อแดงไม่บาปหรืออย่างไร เขาถึงกล้าทำอย่างนั้น เรียกว่าทำแบบหน้าด้าน ๆ แล้วข่าววงในมาบอกว่าเขาทำเที่ยวนี้วิธีการหน้าด้านแบบไหนก็จะทำ ไม่สนใจว่ามันถูก ผิด ชอบธรรมหรือเปล่าก็จะทำ
เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วกองกำลังนอกระบบมีความหมายกับระบอบอำมาตย์มากแต่ไหนแต่ไรในการต่อสู้ประชาชน แล้วใช้คำว่าฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป รอบก่อนนั้นลูกเสือชาวบ้านทั่วประเทศปลุกระดม อาจารย์กำลังจะมองว่ามันมีอะไรคล้ายกันหรือเปล่าคือไปสร้างลูกเสือชาวบ้านทั่วประเทศแล้วปลุกระดมว่าพวกนี้เป็นพวกคอมมิวนิสต์ที่ต้องการโค่นล้มสถาบัน เพราะฉะนั้นการฆ่าคนกลางสนามจึงเป็นการฆ่าที่เรียกว่าไม่รู้สึกสะทกสะท้านเลย กองกำลังนอกระบบตรงนี้ความเป็นจริงที่เราสืบทราบมาว่าตัวหลักที่จะเอามาคือพรรคประชาธิปัตย์ แต่พร้อมกันนั้นก็มีกลไกลมหาดไทยจำนวนหนึ่งเช่นพวกนายอำเภอปลัดอำเภอที่เป็นเสื้อเหลืองหรือเป็นเครือข่ายเขาก็มีบทบาทในการที่ไปปลุกคนมา และรวมทั้งการ์ดเสื้อแดงบางคนที่เชียงราย อ้างว่าการปฏิวัติครั้งนี้เป็นการปฏิวัติของประชาชน
เพราะฉะนั้นพี่น้องครั้งนี้เป็นทั้งการระดมพลมารวมกันแล้วเขาเลือกใช้คำว่าปฏิวัติประชาธิปไตยโดยประชาชน จึงไปหลอกคนอีกจำนวนมาก บางคนไม่ใช่เสื้อเหลืองแต่เขาใช้คำนี้เพราะว่าเขามีเครือข่ายจำนวนหนึ่ง จึงทำให้คนที่คิดว่าตัวเองก้าวหน้าก็มาด้วยเพราะในนี้เขียนว่าทำรัฐสวัสดิการไว้แล้ว ทำให้เกิดความเป็นธรรม อะไรต่าง ๆ เหล่านี้ เศรษฐกิจพอเพียง แต่เนื้อแท้ก็คือต้องการทำลายระบอบประชาธิปไตยของประชาชนโดยแท้
นี่คือปัญหากองกำลังนอกระบบที่นำโดยเชิดขึ้นมา เพราะฉะนั้นพล.อ.บุญเลิศแกไม่รู้หรอก กินไวน์ ไม่รู้ว่าใครขนมาเท่าไหร่แต่บอกว่าถ้ามาน้อยคนไม่ทำต่อ รอบนี้เขากล้าหาญที่จะบอกว่าเอามาเป็นล้าน เพราะฉะนั้นเราจึงประมาทไม่ได้ เพราะว่าเราต่อสู้เสียเลือดเสียเนื้อ มาบัดนี้การได้เป็นรัฐบาลนั้นเป็นชัยชนะระดับหนึ่งเท่านั้น เราจะยอมให้ชัยชนะที่เราได้มาเสียไปกับเสธ.อ้ายง่าย ๆ ได้อย่างไร แต่เราก็ต้องใช้วิจารณญาณและวุฒิภาวะ คือเราเป็นนักต่อสู้รุ่นเดอะแล้ว ไม่ใช่คนที่เพิ่งเข้ามา ทุกคนต้องใช้ความคิดวิจารณญาณที่ถูกต้องว่าเรายืนอยู่ในฐานะผู้ชนะ เราจะต่อสู้แบบผู้ชนะหรือต่อสู้แบบผู้แพ้ เราจะต่อสู้แบบผู้ที่ได้รับชัยชนะอยู่แล้วและกำลังจะได้ชัยชนะที่สูงขึ้น ๆ เช่น ยกเลิกรัฐธรรมนูญ 50 ยกเลิกผลพวงรัฐประหาร คือเรากำลังขึ้นบันไดแต่มันจะกระชากลงมาเพื่อให้ล้มลงไปเลย เพราะฉะนั้นเราจะยืนให้มั่นอย่างไรบนหลักการที่ถูกต้องนี่จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก เราจะมีที่เกาะจับแข็งแรงอย่างไร ประมาทไม่ได้ คุณต้องปกป้องจุดอ่อนเพื่อที่จะนำไปสู่จุดประสงค์การมาวันนี้
อาจารย์ก็จะบอกว่าการต่อสู้นั้นเรามีสิ่งสำคัญ 2 อย่าง อย่างที่หนึ่งคือปัจจัยภายนอกหมายถึงฝั่งอำมาตย์มันแข็งไหม มันแข็ง มันอ่อน อีกอย่างหนึ่งคือภายใน หมายถึงพวกเรากันเอง เราจะชนะหรือแพ้มีปัจจัย 2 ด้าน ถ้ามันอ่อน เราแข็ง เราชนะ ถ้ามันแข็ง เราก็ยังแข็ง มีโอกาสสูสีเป็นไปได้เพราะเราสะสมชัยชนะมาแล้วขั้นที่ 1 ชัยชนะที่เราเป็นรัฐบาลความชอบธรรมนั้นออกสู่สังคมโลก อีกสองวันบารัค โอบามาก็มาถัดจากโอบามาประธานาธิบดีของจีนก็มา และนี่นายกก็เพิ่งไปพบควีนอาลิชซาเบธมันเป็นภาพออกไปทั่วโลกเลย
เราต้องรู้เรื่องเขา รู้ว่าเขาเป็นอย่างไร อ่อนหรือแข็ง จุดอ่อนอยู่ที่ไหน แต่ทางเราเราก็ต้องรู้เพราะปัจจัยภายนอกกับภายในนั้นอะไรเป็นด้านสำคัญกว่า โดยหลักทฤษฎีภายในสำคัญกว่า เพราะฉะนั้นการสร้างความเข้มแข็งให้กับคนเสื้อแดงในการต่อสู้จึงเป็นด้านหลักของการทำงาน และตั้งแต่อ.ธิดามาเป็นรักษาการจนบัดนี้นี่คือภาระหน้าที่หลักนอกจากเราต้องไปช่วยเพื่อนที่ติดคุก นอกจากเราจะต้องต่อสู้คดี นอกจากเราจะต้องเยียวยา เราจะต้องประกันตัว แต่สิ่งที่สำคัญก็คือการจัดตั้งองค์กรของคนเสื้อแดงให้มีลักษณะพร้อมสู้รบและเป็นเรื่องที่ยากที่สุดเพราะว่าคนเสื้อแดงก็เก่งทุกคน บางส่วนก็เหมือนกับว่าเสียหน้าหรือเปล่าถ้าไม่ได้เป็นแกนนำ หรือถ้าเป็นแกนนำไม่ได้ขึ้นเวทีปราศรัยจะเสียหน้าหรือเปล่า หรือขึ้นเวทีปราศรัยถ้าไม่ได้เวลาตอนที่มีการถ่ายทอดตอนต้นจะเสียหรือเปล่า หรือไม่ได้แถลงข่าวในเวลาที่เหมาะสมก็จะเสียหน้าหรือเปล่า ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความคิดที่เอาตัวเองเป็นหลัก แต่ถ้าเอาส่วนรวมเอาขบวนของเราเป็นหลักวิธีคิดก็คือว่าต้องยอม อดทน ก็คือเราเป็นเจ้าของ ไม่มีใครเป็นเจ้าของ แกนนำนปช.ก็ไม่ได้เป็นเจ้าของเสื้อแดง คุณทักษิณก็ไม่ได้เป็นเจ้าของเสื้อแดง พรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้เป็นเจ้าของเสื้อแดง เราแต่ละคนเนี่ยแหละเป็นเจ้าของ เราแต่ละคนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ
คนที่มาเป็นกรรมการ คนที่มาเป็นแกนนำที่แท้คือผู้รับใช้ขบวนการต่อสู้ และผู้รับใช้ขบวนการต่อสู้นี้จำต้องทำหน้าที่อย่างดีและเสียสละ แต่ท่านต้องเข้าใจว่าท่านอยู่ในฐานะผู้เสียสละเหมือนอ.ธิดา ถูกด่า ด่ามากด้วย ด่าดังที่สุดในประเทศไทยเลย ด่าออกทีวี เป็นต้น เพราะฉะนั้นความพยายามที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับคนเสื้อแดงเป็นเป้าหมายของอ.ธิดา จึงพยายามที่ให้มีการจัดตั้งเป็นคณะเพราะอาจารย์รู้ว่าในเวลาไม่ช้านี้เราจะต้องเผชิญกับการต่อสู้รอบใหม่ และการต่อสู้นี้เป็นไปไม่ได้ถ้าพวกเราไม่อยู่ช่วยกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนเขาเรียกว่าลักษณะจัดตั้ง เราอาจจะไม่ใช่กองทัพประจำการ แต่ขณะนี้เราเปรียบเสมือนกองทัพประชาชน มันต้องการวินัยในการต่อสู้ ต้องการการแบ่งงานกันทำ เราเป็นกองทัพประชาชนที่ไม่มีอาวุธ จึงต้องเรียกร้องการจัดตั้ง การมีวินัยเป็นอย่างยิ่ง เราใช้ความชอบธรรมกับความถูกต้องในการต่อสู้ เราจึงพยายามนำเสนอหลักการทฤษฎีโรงเรียนเพื่อให้พี่น้องสามารถตัดสินใจเองได้ในยามที่แกนนำส่วนกลางเสียหาย นี่แหละคือหลักของความชอบธรรมก็คือว่าสร้างความเข้มแข็งทั้งความคิดสติปัญญาและหัวใจ แม้ว่าแกนนำส่วนกลางจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงแต่พี่น้องเรายังอยู่ นี่คือสิ่งที่จะบอกว่าประชาชนไม่มีวันตาย คำพูดของเนลสัน เมเดลล่า พูดเอาไว้ว่า “แน่นอนเราไม่อาจต่อสู้กับพวกคุณได้ด้วยกำลังอาวุธ เราจะแพ้คุณเพราะคุณมีมาก แต่อย่างไรก็ตามคุณไม่มีวันฆ่าประชาชนได้หมด”
เพราะฉะนั้นที่ผู้ใหญ่ประสานนัดพี่น้องมาเพื่อที่จะมีการพูดคุยในปัญหาการนำ อ.ธิดาบอกได้อย่างเดียวว่านี่คือสิ่งที่มีค่าที่สุดของการต่อสู้ นั่นก็คือพี่น้องพร้อมจะขับเคลื่อนอย่างเป็นเอกภาพภายใต้การนำที่ปรึกษาหารือกัน แล้วแบ่งงานกันทำ ไม่มีใครยิ่งใหญ่กว่าใคร นี่เป็นเวทีแห่งการต่อสู้ เป็นนปช.ต้องมีเกียรติยศศักดิ์ศรีอย่างเดียวเท่านั้นในฐานะนักต่อสู้ ฉะนั้นในวันนี้อาจารย์ก็อยากจะอวยพรว่าขอให้พวกเราได้มีการเลือกตั้งหรือมีการตกลงกันที่เป็นเอกภาพว่าเราจะร่วมมือกันอย่างไรในการขับเคลื่อน เพราะฉะนั้นอยากให้พี่น้องนนทบุรีเข้มแข็ง เป็นแบบอย่างของจังหวัดอื่นและอยากให้การประชุมตกลงกันเป็นไปด้วยดี....สวัสดีค่ะ...