บอร์ด กคพ. มีมติรับคดี "BTS-เงินบริจาคน้ำท่วมเข้าพรรค ปชป." เป็นคดีพิเศษ "ธาริต" เดินหน้าถกทีม พงส.

มติชน 10 ตุลาคม 2555 >>>


เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมคดีพิเศษกว่า 2 ชั่วโมง ว่าที่ประชุมมีมติรับคดีพิเศษจำนวน 8 เรื่อง ได้แก่
1. การบุกรุกและลักลอบขุดทรายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา โดยมีกลุ่มนายทุน นักการเมืองท้องถิ่น และอดีตผู้นำท้องถิ่นเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นขบวนการ
2. การบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ในพื้นที่โครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก หมู่ที่ 1 ต.หนองแม่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ จำนวน 150 ไร่
3. กรณีการทุจริตในโครงการแก้ไขปัญหาราคาหอมแดงตกต่ำ ฤดูกาลผลิตปี 2554/2555 จังหวัดศรีสะเกษ มูลค่าความเสียหาย 700 ล้านบาท
4. กรณีบริษัทเอกชนฉ้อโกงหรือหลอกลวงจำหน่ายเครื่องมือตรวจวัตถุต้องสงสัย หรือจีที 200 ให้กับหน่วยงานรัฐ มูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท
5. การลักลอบเปิดบ่อนการพนันออนไลน์กลางเมือง ในหลายจังหวัดพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
6. กรณีของ น.ส.โซเบดา พงษ์สว่าง มาร้องดีเอสไอให้ดำเนินคดีกับนายรัศมี คาน เนื่องจากถูกข่มขู่และจะทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ชีวิต
7. กรณีการทำสัญญาให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือรถไฟฟ้าบีทีเอส ระหว่างบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด กับบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และ
8. กรณีการบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเงินได้ หรือเงินบริจาคช่วงน้ำท่วมเข้าพรรคประชาธิปัตย์ จำนวนกว่า 36 ล้านบาท เนื่องจากเป็นการฝ่าฝืนต่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง
นายธาริตกล่าวต่อว่า สำหรับกรณีการทำสัญญาบีทีเอสและการบริจาคเงินช่วยน้ำท่วมเข้าพรรคประชาธิปปัตย์ เป็นคดีที่ได้รับความสนใจและคณะกรรมการหลายคนได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวและมีข้อเแนะนำ โดยคณะกรรมการได้กำชับว่าให้ดีเอสไอทำงานร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุดอย่างใกล้ชิด ดังน้ัน ดีเอสไอจะประชุมหารือแนวทางการดำเนินคดีอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เพื่อร่วมกำหนดแนวทางการทำงานและทำให้เกิดความรอบคอบ ในการดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ขอชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวดีเอสไอ ยังไม่มีการกล่าวหาใครว่ากระทำผิด แต่ขอคณะกรรมการ กคพ. อนุมัติเป็นคดีพิเศษเพื่อสอบสวนและหาความจริง หาผู้กระทำความผิด หากสอบสวนไม่พบผิดก็ยุติถ้าพบต้องดำเนินคดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ชี้แจงข้อกฎหมายหรืออำนาจการสอบสวนในกรณีดังกล่าวกับคณะกรรมการ กคพ. หรือไม่ นายธาริตกล่าวว่า ได้ชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวยังไม่มีการกล่าวโทษใคร มีการร้องเรียนเข้ามายังดีเอสไอ เป็นอำนาจการสืบสวนที่ดีเอสไอสามารถกระทำได้ก่อนนำเข้าสู่การประชุมคดีพิเศษ และหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะทำงานร่วมกับอัยการ