'ปชป.' จี้ 'แกนนำ นปช.' หยุดบิดเบือน

คมชัดลึก 6 ตุลาคม 2555 >>>


'ชวนนท์' จี้ 'แกนนำ นปช.' ควรยอมรับการตัดสินของ กม. จี้หยุดบิดเบือนประวัติศาสตร์ เหน็บพูดจาไร้สาระ ทำ ปชช. เข้าใจผิด

6 ต.ค. 55 นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่าขณะนี้แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง มีความพยายามที่จะดิ้นรน เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง เพื่อบิดเบือนประวัติศาสตร์กรณีชายชุดดำ ข้อเท็จจริงที่ปรากฏต่อสาธารณะ หรือในรายงานของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยืนยันว่ามีกลุ่มชายชุดดำที่แฝงตัวเข้ามาในการชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นเหตุให้ นพ.เหวง โตริราการ และนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ พยายามที่จะบิดเบือนประวัติศาสตร์ แม้จะรู้ว่าข้อเท็จจริงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่คนเหล่านี้ยังไม่ละความพยายามที่จะกระทำลบความผิดให้ตนเอง จึงอยากเตือน นพ.เหวง ว่าเป็นผู้ต้องหาหมายเลขที่ 5 เป็นสาเหตุทำให้ นพ.เหวง รู้ว่าบั้นปลายชีวิต จะต้องไปอยู่ในเรือนจำ จึงทำทุกทางในการที่จะบิดเบือนข้อเท็จจริง ตนยืนยันอีกครั้งว่าในการชุมนุมของคนเสื้อแดง มีการสนับสนุนจากการ์ด นปช.ที่จะให้คนชุดดำ เข้ามาปฏิบัติการ
นายชวนนท์ กล่าวว่า ขณะนี้ความจริงหลายประการเริ่มปรากฏ โดยเฉพาะเหตุการณ์ 6 ศพที่วัดปทุมวนาราม อย่างน้อย 2 ใน 6 ศพถูกอาวุธปืนที่ยิงในแนวราบ ซึ่ง พ.ต.อ.ประเวศน์ รองอธิบดี ดีเอสไอ ยอมรับว่าอาวุธปืนที่ใช้ยิงในแนวราบไม่ได้มาจากแนวรถไฟฟ้า ซึ่งก็ต้องสืบต่อไปเพราะพื้นที่ตรงนั้นไม่มีทหาร ใครที่เข้าไปสังหารประชาชน 6 ศพในวันั้น ตนขอเรียกร้องให้ดีเอสไอเดินหน้าทำคดีดังกล่าวตรงไปตรงมา
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส่วนข้อเท็จจริงที่ถูกเปิดเผยอีกคือ เรื่องที่กลุ่มคนเสื้อแดงอ้างการเสียชีวตของ น.ส.กมนเกด อัคฮาด โดยอ้างว่า ถูกสังหารโดยใส่ชุดอาสาพยาบาล และ ส.ส.เพื่อไทย เอามาอภิปรายในสภา ซึ่งมีการหยิบเสื้ออาสาพยาบาลที่เปื้อนเลือดมาแสดงในสภา โดยข้อเท็จจริงปรากฏว่า วันที่น.ส.กมนเกดเสียชีวิตไม่ได้ใส่เสื้อดังกล่าว แต่มีการนำเสื้ออาสาพยาบาลมาคลุม เพื่อสร้างกระแสให้ประชาชนรู้สึกว่าทหารทำร้ายประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่สวมชุดอาสาพยาบาล
   “อยากถามว่าทำไมเอาคนที่ตายแล้ว มาเป็นเครื่องมือบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อสร้างประโยชน์ทางการเมืองให้พวกพ้องตัวเอง นี่คือความอำมหิตของกลุ่มคนที่กระทำการดังกล่าว หวังโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่โยนความผิดให้กับศพ เพื่อหวังล้มรัฐบาลที่ผ่านมา บิดเบือนข้อเท็จจริง ขอให้รัฐบาลเดินหน้าสืบสวน 6 ศพอย่างจริงจัง อย่าทำเป็นมวยล้มต้มคนดู” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ส่วนกรณีที่นางธิดาออกมากล่าวถึงการหลุดจากตำแหน่งของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ว่าเป็นกับดักของอำมาตย์นั้น นายชวนนท์ กล่าวว่า ตนคิดว่านางธิดาต้องหยุดเพ้อเจ้อ หยุดพูดจาไร้สาระ เพราะทุกครั้งที่เกิดปัญหาอะไรกับกลุ่มคนเสื้อแดง จะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ทุกครั้งมักจะอ้างว่า อำมาตย์จะมีบทบาทกำหนดเกมเสมอ ถ้ากรณีนายยงยุทธ์จะเกี่ยวกับอำมาตย์ในกรณีนี้ ก็คงมีอำมาตย์คนเดียว คือ ยายเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ที่นายยงยุทธทำผิดกรณีธรณีสงฆ์ ดังนั้นนางธิดาและแกนนำนปช.ต้องหยุดพูดจาเหลวไหลไร้สาระ สร้างความเข้าใจผิดให้ประชาชน และต้องพร้อมยอมรับการตัดสินของกฎหมาย หยุดบิดเบือนประวัติศาสตร์

'ชวนนท์' โต้ 'สุรพงษ์' ปม 'นาซ่า' สำรวจเมฆสะดุด

ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต กล่าวถึงกรณีที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ระบุในรายการนายกฯยิ่งลักษณ์พบประชาชนว่าได้ชี้แจงนางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา เข้าใจถึงสาเหตุที่โครงการสำรวจเมฆของนาซ่าสะดุด เพราะปัญหาการเมืองของไทย ที่ฝ่ายค้านออกมาต่อต้านว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองและฝ่ายค้าน แต่การอนุมัติโครงการดังกล่าวเป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งไม่มีฝ่ายค้านหรือประชาชนไปนั่งตัดสินใจด้วย
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ดังนั้นการที่รัฐบาลไม่อนุมัติโครงการดังกล่าว ให้ทันกับระยะเวลาที่องค์การนาซ่ากำหนด ก็เป็นการตัดสินใจของ ครม. ความล้มเหลวจึงเกิดจากความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลเอง เพราะถ้ามีความพร้อมและเชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองทำ ว่าเป็นผลดีกับประเทศโดยไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ก็สามารถเดินหน้าทำไป ฝ่ายค้านไปทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว แต่เรื่องนี้รัฐบาลกลับหมกเม็ดพยายามลักไก่ ไม่ฟังเสียงทัดทานจากหน่วยงานความมั่นคงในขณะนั้น อีกทั้งไม่มีคำตอบให้ประชาชนหลายประเด็น และไม่สามารถยืนยันความมั่นใจให้กับองค์การนาซ่าได้
นายชวนนท์ กล่าวว่า เอ็มโอยูที่เซ็นสมัยประชาธิปัตย์ในปี 53 นั้นไม่ได้ระบุโครงการ แต่เป็นการระบุกรอบความร่วมมือกว้างๆ ระหว่าง น่าซ่ากับองค์การมหาชนด้านอวกาศของประเทศไทย (จิสด้า) เช่น ไม่มีการระบุเรื่องการสำรวจสภาวะภูมิอากาศใดๆทั้งสิ้น เป็นการลงนามในลักษณะที่บอกว่า ตกลงว่าจะให้ความร่วมมือในด้านวิชาการ เชิงเทคนิคแลกเปลี่ยนบุคลากรและข้อมูลระหว่างกัน เพราะฉะนั้นนายสุรพงษ์ต้องอ่านภาษาอังกฤษให้ออก อยู่กระทรวงต่างประเทศมาเป็นปีแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าจะรื้อโครงการนี้มาทำใหม่ในปีหน้า ทุกอย่างต้องชัดเจนกว่าปีที่ผ่านมาใช่หรือไม่ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นาซ่าต้องเสนอรายละเอียดโครงการเข้ามาใหม่ เพราะขณะนี้ได้ยกเลิกโครงการเดิมไปแล้ว และหากจะกลับเข้ามาใหม่ ก็ต้องเสนอโครงการใหม่เข้ามา ไม่สามารถที่จะไปหยิบเอกสารเก่าที่เคยเสนอมาทำได้
เมื่อถามว่า หากเสนอกลับมาใหม่ ฝ่ายค้านจะขอดูเอกสารดังกล่าวหรือไม่ นายชวนนท์ กล่าวว่า หากรัฐบาลจะนำเข้ารัฐสภา แล้วเปิดให้มีการอภิปราย ในมาตรา 190 ก็เท่านั้นเองไม่ใช่เรื่องเสียหาย หากไม่มีความลับอะไรทำไมรัฐบาลถึงไม่ทำ เพราะขณะนี้ก็มีเวลาล่วงหน้าอีกเกือบปี
ส่วนการที่นางฮิลลารี่ระบุว่าเข้าใจเหตุผลทางการเมืองของไทยนั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนคิดว่าสหรัฐค่อนข้างประหลาดใจว่า รัฐบาลไทยทำงานโดยไม่มีหลักในการทำงาน เพราะอำนาจเหล่านี้อยู่ในมือรัฐบาล ที่จะตัดสินใจดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อให้โครงการเดินหน้าไปได้ แต่สิ่งที่รัฐบาลทำคือไม่ทำอะไรเลย แล้วปล่อยให้โครงการเลยกำหนดเส้นตาย โดยที่ไม่แก้ไขปัญหา ทำให้นาซ่าต้องถอยไปเองและไม่สามารถที่จะส่งอุปกรณ์เข้ามาทัน

ปชป. จี้ รบ. เผยข้อมูลปริมาณน้ำฝนจาก 'เกมี'

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต แถลงถึงพายุแกมีที่กำลังจะเคลื่อนมาสู่ประเทศไทย ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมตามมาว่า อยากให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลและข้อเท็จจริงแก่ประชาชนทราบ ในเรื่องปริมาณน้ำฝนที่จะตกลงมาในพื้นที่ตอนกลางของประเทศ จะมีปริมาณมากน้อยเพียงใด รัฐบาลมีความพร้อมแค่ไหน ไม่ต้องการให้รัฐบาลที่ใช้เงินไปแล้ว 1.2 แสนล้าน และกำลังจะกู้อีก 3 .5 แสนล้านในปีนี้
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า แต่เมื่อพายุจะเข้ามาคนที่รับผิดคือ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) พูดแต่ว่า ให้ประชาชนอยู่บ้าน ก็ไม่รู้ว่าเงิน 3.5 แสนล้าน ที่เอาไปจากภาษีประชาชนทำได้แค่นี้หรือ เพราะขณะนี้ชัดเจนว่า รัฐบาลไม่มีโครงการ ต้นน้ำกลางน้ำและปลายน้ำ ที่จะดูแลแก้ไขหรือป้องกันปัญหาในปีนี้เลย
นายชวนนท์ กล่าวว่า ที่แย่คือดูเหมือนว่าสถานการณ์น้ำไม่มาก แต่ความสามารถในการรับมือลดน้อยลงกว่าปีที่ผ่านมา ก็คงเป็นสาเหตุที่พวกท่านเอาเงินการป้องกันน้ำท่วมไปทุจริต จนทำให้ไม่มีศักยภาพในการป้องกันน้ำท่วมให้ประชาชนในปีนี้ได้ แต่ที่แย่ที่สุดคือการเอาเรื่องนี้มาเล่นการเมือง ว่ามีการกลั่นแกล้งกัน กรณีถุงทรายในกทม. พรรคเพื่อไทยพยายามดิสเครดิต กทม.มาโดยตลอด เพื่อหวังผลเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ในอนาคต โดยการกล่าวอ้างว่า ไปพบถุงทรายในท่อระบายน้ำ หวังโยนความผิดให้กทม.ว่าไม่มีความรับผิดชอบในการลอกท่อ
   “แต่ผลจากการตรวจสอบปรากฏว่าถุงทราย เป็นถุงใหม่ ที่เพิ่งมีการไปหย่อนใส่ เพราะจากหนังสือยืนยันและบันทึกข้อความ จากสำนักงานเขตมีนบุรี ที่ทำหนังสือถึงปลัดกทม.ยืนยันชัดเจนว่า ถุงทรายดังกล่าวเป็นของใหม่ ที่มีคนจงใจเปิดฝาท่อและหย่อนถุงทรายลงไป เพราะฉะนั้นผู้ที่กระทำการดังกล่าวและเป็นที่น่าสงสัยมากที่สุดคงหนีไม่พ้นคนที่ไปพบถุงทรายคนแรก คนที่เอาเรื่องถุงทรายมาป่าวประกาศ พยายามดิสเครดิต กทม.เป็นผู้ต้องสงสัยมากที่สุดว่ามีส่วนในการกระทำดังกล่าว และขอประณามพวกท่านอำมหิตมาก เอาความทุกข์ร้อนของประชาชนมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง นอกจากไม่ช่วยแก้ปัญหาแล้ว ยังกลับซ้ำเติมโดยเอาทุกข์คน กทม.มาเป็นเหยื่อในการสนองตัณหาทางการเมือง อยากให้รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยมีความจริงใจในการแก้ปัญหา” นายชวนนท์ กล่าว