นปช. สัญจร: งาน "คนรักประชาธิปไตย ไม่เอารัฐประหาร"



ทีมข่าว นปช.
20 ตุลาคม 2555




วันนี้ (20 ต.ค. 55) อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ และแกนนำ นปช. ร่วมงาน "คนรักประชาธิปไตย ไม่เอารัฐประหาร" ณ โรงเรียนทวิวิชช์ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
อ.ธิดา กล่าวว่า การต่อสู้ของคนเสื้อแดงที่ผ่านมาถือเป็นต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และยืดเยื้อที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย
ชัยชนะ 14 ต.ค. 16 เป็นเสมือนชัยชนะของประชาชน แต่ก็ไม่ใช่ชัยชนะของจริง การต่อสู้ที่ผ่านมาในอดีตมักเป็นไปในระยะสั้นๆ โดยเริ่มต้นจากคนจำนวนมาก แต่ค่อยๆลดลง ต่างจากคนเสื้อแดงที่เริ่มต้นจากคนจำนวนน้อย แต่ค่อยๆขยายเพิ่มขึ้นจนเป็นเหมือนในปัจจุบัน
สิ่งที่คนเสื้อแดงได้ทำลายประวัติศาสตร์คือ การต่อสู้ที่ยืดเยื้อกว่า 6 ปี, จำนวนคนเสื้อแดงที่มีจำนวนมาก และ คนรากหญ้าเป็นกำลังหลักของคนเสื้อแดง ซึ่งต่างจากในอดีตที่การต่อสู้เป็นของคนชั้นกลาง หรือปัญญาชนเป็นส่วนใหญ่
การก่อตั้งของคนเสื้อแดงเกิดจากประชาชนจัดตั้งกันเอง คนเสื้อแดงยึดมั่นต่อการต่อสู้อย่างสันติวิธี แต่ฝ่ายตรงข้ามพยายามใส่ร้ายคนเสื้อแดงเป็นพวกที่มีอาวุธ และใช้ความรุนแรง ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
คนเสื้อแดงประกอบด้วยคนจากหลากหลายชนชั้น เช่น พ่อค้า, ข้าราชการ และชาวนา แม้ว่าปัจจุบันจะมีคนเสื้อแดงกว่า 10 ล้านคน แต่ตนเองยังคงอยากให้มีคนเสื้อแดงเพิ่มมากขึ้นกว่านี้ หลายคนอาจค่อยๆเปลี่ยนจากเสื้อขาวมาเป็นเสื้อแดงก็ได้ คนเสื้อแดงต้องชนะด้วยหัวใจ ไม่ใช่การใช้กำลัง
ทุกวันนี้มีทหาร และตำรวจปลอมตัวเข้ามาเป็นคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่ง ดังนั้นตนเองจึงไม่คิดว่า การเป็นคนเสื้อแดงต้องมีบัตรเสื้อแดงเสมอไป แต่การเป็นคนเสื้อแดงต้องวัดกันที่หัวใจเป็นหลัก
คนเสื้อแดงมีหลากหลายกลุ่ม แต่ละกลุ่มก็มีหลากหลายความคิด จึงเป็นไปไม่ได้ที่คนเสื้อแดงทั้งหมดจะต้องคิดเหมือนกัน ดังนั้นหากรัฐบาลชุดนี้ไม่สามารถทำหลายสิ่งได้ดั่งใจคนเสื้อแดง คนเสื้อแดงก็ควรจะให้อภัย เพราะคนเสื้อแดงเปรียบเสมือนครอบครัวใหญ่ ถ้าสุขก็สุขด้วยกัน ถ้าทุกข์ก็ต้องทุกข์ด้วยกัน
ขณะนี้ นปช. ได้ให้ความช่วยเหลือคนเสื้อแดงที่ต้องคดี ทั้งคนที่ยังอยู่ในเรือนจำ เช่น การขอพระราชทานอภัยโทษ และคนที่ออกมาจากเรือนจำ เช่น การจัดหางาน
ในยุคล่าอาณานิคมอำมาตย์ในหลายประเทศถูกทำลายโดยจักรวรรดินิยม แต่ประเทศไทยไม่ได้ตกเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตก สิ่งนี้ทำให้อำมาตย์ไทยเข้มแข็งอย่างมาก เพราะยังไม่เคยถูกทำลาย
อำมาตย์ไทยยึดกุมอำนาจมากมาย โดยเฉพาะข้าราชการ อีกทั้งศาลยังยอมรับอำนาจจากการรัฐประหาร จึงทำให้ประเทศไทยเกิดการรัฐประหารขึ้นบ่อยครั้ง การรัฐประหารปี 2535 ประชาชนคิดว่า จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว แต่ก็ยังเกิดการรัฐประหารปี 2549 ขึ้นมาอีกจนได้
การต่อสู้ 14 ต.ค. 16 ดูเหมือนเป็นการต่อสู้ที่ก้าวหน้า แต่ก็ทำลายได้แค่จอมพล ถนอม กิตติขจร และ จอมพลประภาส จารุเสถียร เท่านั้น ดังนั้นขณะนี้ภาระการเปลี่ยนผ่านจากระบอบที่ล้าหลังสู่ระบอบที่ก้าวหน้าจึงตกในมือของคนเสื้อแดง คนเสื้อแดงต้องช่วยกันผลักดันกงล้อประวัติศาสตร์ที่กำลังตกหล่มอยู่ในขณะนี้ให้เดินไปข้างหน้าให้จงได้
ปชป. กำลังเหยียบศพประชาชน แถมยังถ่มน้ำลายใส่ หลายคนมองว่า แกนนำ นปช. ต่อสู้แล้วได้ดิบได้ดีทางการเมือง แต่ตำแหน่งเหล่านี้เป็นเพียงหัวโขนเท่านั้น ซึ่งไม่จีรังยั่งยืน ต่างจากการเป็นคนเสื้อแดง ซึ่งถือเป็นเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่