ถึงยุค "ภูมิใจไทย" ผลัดใบ แทงกั๊กทั้ง "รัฐบาล-ฝ่ายค้าน" ???

มติชน 21 ตุลาคม 2555 >>>




เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวการเมืองข่าวหนึ่ง ซึ่งอาจจะไม่มีความหวือหวาอย่างเรื่องการสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยของ "พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์" อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และบรรดานักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 10 (ตท.10) จำนวน 23 คน
แต่ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ได้มีการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยผลการประชุมออกมาตามโผที่เคยปรากฏออกมาเป็นระยะๆ โดยที่ประชุมได้เลือก "อนุทิน ชาญวีรกูล" หรือ "เสี่ยหนู" บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของอดีตหัวหน้าพรรค "ชวรัตน์ ชาญวีรกูล" โดยที่ "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" น้องชายสุดที่รักของ "เนวิน ชิดชอบ" ผู้ยิ่งใหญ่ในพรรคภูมิใจไทย นั่งเลขาธิการพรรค
ส่วนรองหัวหน้าพรรค 2 คน ได้แก่ "บุญจง วงศ์ไตรรัตน์" และ "ประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ" ขณะที่ "ศุภชัย ใจสมุทร" ขยับจากโฆษกพรรค เป็นรองเลขาธิการพรรค "นางนาที รัชกิจประการ" หนึ่งในทีมงานของ "ปู่ชัย ชิดชอบ" เป็นเหรัญญิกพรรค
"สรอรรถ กลิ่นประทุม" นั่งแท่นเป็นประธานที่ปรึกษาพรรค โดยมี "ศุภมาศ อิศรภักดี" ซึ่งมีความใกล้ชิดกับ "เสี่ยหนู" เป็นโฆษกพรรค และ "รังษิกร ทิมาตฤกะ" เป็นนายทะเบียนพรรค โดยจะเห็นว่า กรรมการบริหารพรรคทั้งหมดล้วนแต่เป็นเครือข่ายของ "เนวินและเพื่อน (หนู)" แทบทั้งสิ้น
ในขณะที่ความเคลื่อนไหวของ "กลุ่มมัชฌิมา" ที่นำโดย "สมศักดิ์ เทพสุทิน" อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย กลับเป็นไปอย่างสงบ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ไร้เงา ส.ส. ของกลุ่มมัชฌิมาเข้ามามีส่วนร่วมหรือบทบาทที่สำคัญของพรรคอย่างที่ควรจะเป็นมาระยะหนึ่งแล้ว จนกระทั่งในวันประชุมใหญ่เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ก็ไม่มีวี่แววของ "สมศักดิ์" รวมถึง "พรทิวา นาคาศัย" อดีตเลขาธิการพรรค "อนุชา นาคาศัย" คนสนิทของ "สมศักดิ์" ตลอดจน ส.ส. ทั้ง 7 คน ของกลุ่มมัชฌิมาเข้าร่วมประชุม จึงทำให้ไม่เป็นที่น่าแปลกใจว่า รายชื่อของคณะกรรมการบริหารพรรค ไม่มีคนของกลุ่มมัชฌิมาเลยสักคน
หรืออาจจะเพราะกระแสข่าวที่ว่า "สมศักดิ์" มีความเคลื่อนไหวที่จะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย โดยเริ่มจากเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดย "สมศักดิ์" ได้ส่ง ส.ส. ในสังกัด ทั้ง "มานิต นพอมรบดี" ส.ส.ราชบุรี, "เรืองศักดิ์ งามสมภาค" ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ "จักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล" ส.ส.สุโขทัย บินอวยพรวันเกิด "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรีถึงเกาะฮ่องกง ซึ่งทำให้ถูกมองว่าเป็นการทอดสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ โดยทิ้งกลุ่มเพื่อนเนวินให้เป็นฝ่ายค้านต่อไป
รวมทั้งที่ผ่านมา ในยุคที่ "ไทยรักไทย" รุ่งเรือง "สมศักดิ์" ก็ได้เคยมีความสัมพันธ์อันดีกับ "เจ๊แดง" เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พี่สาวของ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน และน้องสาวของ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี จนถึงมีกระแสข่าวว่าจะมีการส่งเทียบเชิญ "สมศักดิ์และคณะ" เข้าร่วมรัฐบาลภายในเร็ววันนี้ โดยมีข่าวจากวงในกลุ่มมัชฌิมายอมรับว่าได้มีการเสนอเงื่อนไขดังกล่าวจริง แต่การเจรจาต่างๆ คงจะต้องเป็นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ในส่วนของ "อนุทิน" ได้ประกาศอย่างชัดเจนภายหลังจากได้รับการคัดเลือกเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยคนใหม่ว่า "แม้เราจะเป็นฝ่ายค้าน แต่เราก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนรัฐบาล แต่นี้ไม่ได้หมายความว่าเราต้องการจะเข้าร่วมรัฐบาล ผมขอยืนยัน เพราะผมไม่ได้มีความคิดที่จะเข้าร่วมรัฐบาล การสนับสนุนรัฐบาลของผม ผมหมายความว่า หากเรื่องไหนรัฐบาลทำแล้วเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง ต่อประชาชนและประเทศชาติ เราก็ต้องปล่อยให้เขาเดินหน้าไป ไม่ใช่ว่าเราจะต้องไปค้านจนบ้านเมืองเดินหน้าไม่ได้ แต่หากรัฐบาลทำผิด มีการทุจริต เราคงไม่ปล่อยเลยตามเลย ตรงนี้แหละที่จะเป็นหน้าที่ของเรา
   "อย่างเช่นการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็เช่นกัน เราก็ควรที่จะฟังก่อนว่าจะมีการอภิปรายอย่างไร รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายสามารถตอบข้อกังขา ข้อสงสัยที่สังคมเคลือบแคลงได้หรือไม่ ถ้าตอบได้โอเค เราก็พร้อมที่จะยกมือให้ แต่ถ้าตอบไม่ได้ หรือมีความผิดจริง เราก็ต้องยกให้ฝ่ายค้าน การทำหน้าที่ของเราไม่ใช่การเรียกราคา เราวันนี้ไม่มีทางที่พรรคภูมิใจไทยจะได้เข้าร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว แต่ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ก็ค่อยว่ากัน เพราะการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน แต่วันนี้ยังไม่ใช่"
นอกจากนี้ แนวทางของ "อนุทิน" ไม่ได้ตั้งป้อมที่จะเล่นงานพรรคเพื่อไทยอย่างที่พรรคประชาธิปัตย์ทำ
แต่ยังมีนัยที่สำคัญที่จะตัดทิ้งเสียไม่ได้ แต่แม้จะเป็นสิ่งที่คนมักจะไม่ให้ความสนใจ กับ "สิรภพ ดวงสอดศรี" มือขวาของ "บ้านจันทร์ส่องหล้า" ที่มานั่งเป็นผู้อำนวยการพรรคภูมิใจไทย หลังปลดล็อกจากบ้านเลขที่ 111 ซึ่งถือเป็นอีกปริศนา และหนึ่งตัวแปรในการมาครั้งนี้
จากเหตุผลข้างต้น ต้องดูว่า "ภูมิใจไทย" ยุคใหม่จะมีบทบาท "แทงกั๊ก" คือเข้าได้กับทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านหรือไม่นั้น ระยะเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์...