มติชน 11 ตุลาคม 2555 >>>
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ที่รัฐสภา นายก่อแก้ว พิกุลทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณีอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง คดีที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดคดีการสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ในเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551 หลัง ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายยกรัฐมนตรี และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้สั่งการให้สลายการชุมนุม และที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ ป.ป.ช. ดำเนินการฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเองว่า เมื่ออัยการสั่งไม่ฟ้อง ย่อมแสดงว่ามีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะฟ้อง และตนมีความเห็นต่างกับ ป.ป.ช. ในเรื่องนี้ เพราะการที่ ป.ป.ช. ยื่นเรื่องฟ้องเองอาจทำให้สังคมคิดว่า ป.ป.ช. มีอำนาจเด็ดขาดเหนือใคร และไม่มีองค์กรใดสามารถถ่วงดุลได้ การดำเนินการของ ป.ป.ช. ถือเป็นการกระทำที่ซ้ำซ้อน ไม่มีประเทศไหนดำเนินการแบบนี้ การที่ ป.ป.ช. ยืนยันจะดำเนินคดีกับทั้ง 2 ท่าน ทั้งที่การสลายการชุมนุมในปี 2551 ใช้เพียงแก๊สน้ำตาอย่างเดียว ตนก็จะคอยดูว่าเหตุการณ์สลายการชุมนุมในปี 2552-2553 ที่มีการใช้รถถังหุ้มเกราะ ปืนทาโวร์ แก๊สน้ำตา ป.ป.ช. จะดำเนินคดีหรือไม่
นายก่อแก้วกล่าวว่า ตนมีความห่วงใยว่าถ้าองค์กรใดมีการใช้อำนาจมากจะมีปัญหาในการใช้อำนาจหรือไม่ จึงอยากเรียกร้องไปยังศาล อัยการ ทนายความ อาจารย์นิติศาสตร์ และประชาชน ให้ตรวจสอบและร่วมกันวิพากษ์วิจารณ์ว่ากฎหมายของ ป.ป.ช. มีความเหมาะสมหรือยัง