เมื่อวันที่ 14 ตุลา ที่ไปวางพวงมาลาและปราศรัยที่อนุสาวรีย์ปราบกบฏ มีความประทับใจหลายประการ อย่างแรก เพิ่งเป็นครั้งแรกที่มีการวางพวงมาลาที่อนุสาวรีย์ปราบกบฎ (มีการจารึกชื่อ 17 นายทหารและตำรวจที่เสียชีวิตไว้ที่อนุสาวรีย์แห่งนี้) ถ้าใครไม่ได้ฟังที่อาจารย์ปราศรัยและที่อาจารย์พูดในรายการเหลียวหลังแลไปข้างหน้าเพื่อประชาธิปไตยวันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม 2555 ก็ลองไปเอามาฟังดูอีกที
จากนั้นคณะผู้จัดการก็ชวนคณะวิทยากรไปทัวร์แถวนั้นในตอนเย็น ไปดูสะพานที่เคยมีชื่อนายทหารที่เสียชีวิตในการปราบกบฎบวรเดช บางสะพานชื่อหายไปแล้ว บางสะพานชื่อมองไม่เห็น พวกเสื้อแดงเราก็ไปลงสีติดป้ายให้เห็นชัด เช่น
-สะพานประดิษฐกลการ ตั้งอยู่บริเวณมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร สร้างขึ้นเพื่อเป็นการระลึกและเชิดชูเกียรติแก่นายร้อยตำรวจเอกขุนประดิษฐ์กลการ (ไปล่ จันทประดิษฐ์) ปัจจุบันเป็นสะพานเชื่อมระหว่างเขตบางเขนและเขตหลักสี่
-สะพานสุกรนาคเสนีย์ ตั้งอยู่ใกล้ตลาดสะพานใหม่-ดอนเมือง เพื่อเป็นเกียรติแก่นายร้อยเอก ขุนศุกรนาคเสนีย์ (เจือ ศุกรนาค) ปัจจุบันเป็นสะพานเชื่อมระหว่างเขตบางเขน เขตสายไหม และเขตดอนเมือง
-สะพานทองจรรยา ตั้งอยู่ใกล้ตลาดบางบัวเป็นเกียรติแก่นายร้อยโทน่วม ทองจรรยา ปัจจุบันเป็นสะพานเชื่อมระหว่างเขตบางเขนและเขตจตุจักร
อาจารย์แนะนำให้ทีมงานบางเขนทราบว่า ในวัดพระศรีมหาธาตุนั้นในเจดีย์ที่ภายในชั้นในสุดบรรจุพระธาตุ แต่รอบ ๆ มีช่องใส่อัฐิผู้ก่อการคณะราษฎรทุกท่านไม่ว่ามิตรจะกลายเป็นศัตรูก่อนตายก็ตาม สามารถเข้าไปไหว้และรำลึกเรื่องราวในอดีตเพื่อเตือนใจในปัจจุบัน เพราะอาจารย์เคยไปบ่อย ๆ ช่วงที่พักอยู่ที่คลินิกที่สามแยกเกษตรระยะเวลาหนึ่ง ไปเห็นอัฐิเรียงรายก็สะท้อนใจเมื่อคิดถึงชัยชนะที่กลายเป็นความพ่ายแพ้ มิตรที่เคยร่วมเสี่ยงชีวิตทำงานเพื่อประเทศให้ก้าวหน้า มากลายเป็นศัตรูจนตายจากกันไป แล้วชัยชนะที่ได้มาก็ไม่สามารถรักษาไว้ได้ ต้องพ่ายแพ้กับระบอบอำมาตย์ที่ฟื้นคืนชีพผ่านเผด็จการทหารรุ่นต่อ ๆ มา
จากนั้นก็ลงไปเยี่ยมชุมชนสามัคคีร่วมใจ สามารถทำกระชังเลี้ยงปลาดุกที่หน้าบ้าน และมีสวนครัวสวย ๆ ตามทางเดินริมคลองที่น้ำในคลองยังดำอยู่ ต่อมาแวะชมวังมัจฉาที่วัดบางบัว ริมคลองบางบัว ซึ่งกลายเป็นที่อยู่ของปลาสวายมาคอยกินอาหาร ทั้งที่น้ำในคลองค่อนข้างดำ มีรูปมาฝากดูนิดหน่อย ที่เขตบางเขนทีมงานเข้มแข็งดีและสามัคคีคนได้หลายกลุ่มรวมทั้งพระสงค์องค์เจ้า
เรามีกำหนดการจะไปเปิดโรงเรียน นปช. กทม. ที่วัดศิริพงศ์ธรรมนิมิตร ในวันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน 2555 (ตอนแรกเป็นวันที่ 18 พ.ย. แต่ไปตรงกับงานทอดกฐินของแกนนำหลายท่านรวมทั้งงานคุณนิสิต สินธุไพร) กะว่านักเรียนไม่ต่ำกว่า 800 คน จัดการเรียนในวัดที่ค่อนข้างสะดวกสบาย มีห้องโถงใหญ่มาก มีเครื่องปรับอากาศด้วย หวังว่าคงเป็นโมเดลให้กับพื้นที่อื่น ๆ ทั้งในกรุงเทพฯและจังหวัดอื่น ๆ ค่ะ
