เสธ.อ้าย จุดไม่ติด-ม็อบ 28 ต.ค.

มติชน 26 ตุลาคม 2555 >>>




บรรยากาศในวงกินข้าวมื้อเที่ยง พุธที่ 24 ต.ค. ระหว่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ กับ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ประธานองค์กรพิทักษ์สยามและภาคีเครือข่าย ที่สนามม้านางเลิ้ง ผ่านพ้นไปด้วยความชื่นมื่น
ทั้งคู่ชนแก้วไวน์ให้ช่างภาพรัวชัตเตอร์ด้วยใบหน้าระรื่น สมาชิกร่วมวงข้าวยังประกอบไปด้วย พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองเลขาธิการนายกฯ และ นายบันดาล แก้วประสิทธิ์ ลูกชาย เสธ.อ้าย
บรรยากาศสรวลเสเฮฮา หัวเราะต่อกระซิก พูดคุยอย่างเป็นกันเอง ขุดเรื่องเก่าขึ้นมาเล่าใหม่ ร่ายความหลังกันตั้งแต่สมัย ร.ต.อ.เฉลิม ยังเป็นสารวัตรกองปราบฯ
ผลการพูดคุยหลังกระดกไวน์ มูต็อง 2001 แกล้มห่านพะโล้จากท่าดินแดง นานกว่า 1 ชั่วโมง
ได้ข้อสรุป การชุมนุมวันที่ 28 ต.ค. จะเลิกก่อนเวลา 18.00 น. หรือก่อนตะวันตกดิน เพื่อไม่ให้ความมืดกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดเรื่องราวบานปลาย พร้อมยืนยันไม่กีดขวางการจราจร
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ที่นั่งร่วมโต๊ะ ก็พร้อมจัดเจ้าหน้าที่มาอำนวยความสะดวก และป้องกันมือที่สามที่จะมาป่วนสถานการณ์ เห็นบรรยากาศอย่างนี้ ฝ่ายประเมินสถานการณ์คงเบาใจไปได้มาก แต่ฝ่ายจ้องโหมเชื้อไฟคงผิดหวังไปตามๆ กัน
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลออกอาการผวากับการชุมนุมครั้งนี้ไม่น้อย เพราะกลัวสถานการณ์จะ "จุดติด"
ทันทีที่ เสธ.อ้าย ประกาศเตรียมชุมนุมใหญ่ 28 ต.ค.
นอกจากปฏิกิริยาจาก ร.ต.อ.เฉลิม ในฐานะรอง นายกฯ ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่นัดกินข้าวก่อนชุมนุม 4 วัน
เสธ.อ้าย แม้จะยอมรับว่ามีความคุ้นเคยกับ ร.ต.อ.เฉลิม แต่ก็ยอมรับอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ เพราะปกติ ร.ต.อ.เฉลิม ไม่เคยมาหาที่สนามม้าฯ นั่นย่อมแสดงว่าเป็นเรื่องด่วน เรื่องสำคัญ ร.ต.อ.เฉลิม จึงทำเรื่องที่ผิดจากวิสัยปกติ
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย เป็นอีกคนที่ออกแอ๊กชั่นไม่น้อย แถลงเป็นฉากๆ เชื่อมโยงข่าวไซฟ่อนเงิน การทุจริตงบฯน้ำท่วม ทุจริตจำนำข้าว รถหรูเลี่ยงภาษี ประเด็นชายชุดดำ เข้ากับการชุมนุมวันที่ 28 ต.ค. ว่าเป็นแผนบันได 5 ขั้น ล้มรัฐบาล
นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกคิวบู๊ได้ไม่น้อยหน้ากัน ฉะแหลกการชุมนุมครั้งนี้กลุ่มทุนอบายมุข ทั้งจากหวย บ่อน สนามม้า ยาเสพติด ลงขันกันเพื่อหวังล้มรัฐบาล
อีกทั้งจะมีการปลุกม็อบกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ที่คัด ค้านการแก้ไข พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ (ฉบับที่...) พ.ศ.... ให้มาเข้าร่วมการชุมนุมในครั้งนี้ด้วย
โดยมีการต่อสายไปยังแกนนำกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านที่นัดประชุมกันวันที่ 24 ต.ค. ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์
ได้เห็นอาการร้อนรนของฝ่ายรัฐบาลช่วงใกล้วันนัดชุมนุม
ประเมินตามสถานการณ์ ถึงวันนี้หลายประเด็นที่รัฐบาลเป็นกังวล "ฝ่อ" ไปเองตามข้อเท็จจริง หลายประเด็น "จุดไม่ติด" เพราะไม่ใช่เรื่องราวใหญ่โตอย่างที่ถูกกล่าวหา อีกทั้งรัฐบาลยังรับมือได้อยู่
กรณีไซฟ่อนเงิน ที่ภาคีเครือข่ายต่อต้านการ ทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ หรือ ภตช. ออกมาปูดข้อมูลขนเงิน 1.6 หมื่นล้าน ไปฟอกที่ฮ่องกง ผู้เกี่ยวข้องและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งที่เมืองไทยและฮ่องกง ก็ยืนยันชัดเจนไม่มีข้อมูลในเรื่องดังกล่าว
ตามด้วยการ "ลอยแพ" นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการ ภตช. คนที่ออกมาปูดข่าว
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ที่มีชื่อนั่งที่ปรึกษา ภตช. ยอมรับรู้จักกับนายมงคลกิตติ์ แต่ไม่ได้อยู่เบื้องหลังการดำเนินการของ ภตช. เท่ากับปฏิเสธด้วยว่าเขาไม่ใช่ระดับผู้ใหญ่ของ ภตช. ซึ่งเป็นคนที่ได้ข้อมูลเอ็กซ์คลูซีฟมาจากป.ป.ช.ฮ่องกง
นายธีรพัฒน์ คำคูบอน ก็ปฏิเสธ ไม่ได้เป็นรักษาการประธาน ภตช. เป็นแค่ประธานสรรหาประธาน ภตช. ให้หลังเกิดเรื่องราวก็ประกาศลาออก
พร้อมยืนยันช่วงไปดูงานตามคำเชิญของ ป.ป.ช.ฮ่องกง ไม่มีการบรรยายเรื่องดังกล่าวให้ทราบ จึงไม่รับรู้ถึงหลักฐานที่นายมงคลกิตติ์ นำมาเปิดเผย
ส่วนประเด็นรถหรูเลี่ยงภาษี ทุจริตงบฯน้ำท่วม ทุจริตจำนำข้าว ยังเป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบ กันต่อ
ปัญหาคือ ข่าวระบุด้วยว่าเงิน 1.6 หมื่นล้านมาจากการทุจริตในโครงการเหล่านี้
ดังนั้น เมื่อกรณีไซฟ่อนเงินเป็นเพียงคำสัมภาษณ์เลื่อนลอย ไร้หลักฐาน ก็ย่อมส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในการตรวจสอบเรื่องข้างต้นไม่มากก็น้อย
นอกจากนี้ ในส่วนของการตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว รัฐบาลก็ได้พยายามแสดงบทบาทการตรวจสอบ แม้จะเพิ่งมาเห็นผลหลังเกิดเสียงคัดค้านจากนักวิชาการ และดูไม่จริงจังเท่าที่ควร
แต่การตรวจสอบของฝ่ายค้านในเรื่องนี้ก็ยังไม่หนักแน่น และมีหลักฐานเพียงพอ ประกอบกับโครงการจำนำข้าวได้รับการขานรับจากเกษตรกร
ส่วนประด็นใหญ่เรื่อง "ชายชุดดำ" คงไม่ใช่ฝ่ายรัฐบาลที่ต้องกลัวการตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะคดีความที่ดำเนินไปในขณะนี้ ฝ่ายตรงข้ามต่างหากที่ตกเป็นฝ่ายตั้งรับ
นอกจากนี้ ตำรวจสันติบาลประเมินเบื้องต้นแล้วว่า ผู้ชุมนุมจะอยู่ราว 1,200-1,300 คน การชุมนุมจะอยู่ในช่วงเวลา 10.00-23.00 น.
ผู้ร่วมชุมนุมจะมาจากกลุ่มเสื้อหลากสี โดยการ นำของ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ พันธมิตรฯ บางส่วน รวมถึงแฟนคลับพรรคประชาธิปัตย์บางส่วน โดยที่ระดับแกนนำไม่ได้เข้าร่วม แต่เจ้าหน้าที่ยังจับตามือที่สาม ที่อาจเข้ามาป่วนเพื่อหวังจุดชนวนความรุนแรง
ส่วน นปช. ประเมินยอดผู้ชุมนุมจากเสื้อแดงตามจังหวัดต่างๆ นพ.เหวง โตจิราการ เผยว่า คนเสื้อแดงภาคใต้แจ้งว่ามีการเกณฑ์คนในพื้นที่ จ่ายค่าหัวรายละ 1,000 บาท ให้เดินทางมาร่วมชุมนุมวันที่ 28 ต.ค. แต่ประเมินแล้วไม่น่าถึง 2,000 คน
ส่วนพื้นที่อื่นๆ อีสานใต้ เช่น บุรีรัมย์ หรือศรีสะเกษ ไม่พบความเคลื่อนไหวที่เพียงพอ ในส่วนภาคกลางมีความเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย เช่น ราชบุรี เพชรบุรี กาญจนบุรี ไม่น่าส่งผลกระทบอะไรกับรัฐบาลเพราะไม่มีประเด็นที่จะจุดกระแส จนเกิดความเคลื่อนไหว ครั้งใหญ่
ส่วนพลังของกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ก็ได้รับการยืนยันจาก นายยงยศ แก้วเขียว นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย ว่ามติที่ประชุมนัดรวมตัว 7 พ.ย. เพื่อคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ โดยการเคลื่อนไหวขึ้นอยู่กับท่าทีของรัฐบาล แต่ไม่มีแนวคิดในการเข้าร่วมกับการชุมนุมของกลุ่ม เสธ.อ้าย
เหตุผลข้างต้น ทั้งประเด็นที่เตรียมไว้หวังใช้เป็นชนวน และการประเมินสถานการณ์ผู้ชุมนุม น่าจะพอบอกได้เบื้องต้นว่าการชุมนุม 28 ต.ค. ยังไม่น่าจะจุดติด