ทีมข่าว นปช.
2 ตุลาคม 2555
เนื่องจากมีคนนำคำให้สัมภาษณ์ของ อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ในรายการที่นี่ตอบโจทย์ ทาง Thai PBS ดำเนินรายการโดยคุณภิญโญ ไตรสุรียธรรมา เมื่อวันอังคารที่ 10 กรกฎาคม 2555 ไปตัดต่อและจงใจบิดเบือนคำพูดของ อ.ธิดา ทั้งมีการจัดพิมพ์เป็นรูปเล่มเพื่อจัดจำหน่ายชื่อหนังสือ “ธิดามหาแรงปลุกแดงล้มเจ้า” ทีมงานจึงถอดคำสัมภาษณ์ชนิดคำต่อคำมาเสนอเพื่อให้สาธารณะชนได้วินิจฉัยตามความเป็นจริง
ผู้ดำเนินรายการ: สวัสดีครับท่านผู้ชมครับ ตอบโจทย์วันนี้จะคุยกับประธานนปช. อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ อ.ธิดา สวัสดีครับ
อ.ธิดา: สวัสดีค่ะ
ผู้ดำเนินรายการ: อาจารย์..เมื่อวานอาจารย์ปราโมทย์ นาครทรรพ มาที่รายการแล้วก็บอกว่าบ้านเมืองมันขัดแย้งรุนแรง สองฝ่ายก็ยันกันอยู่หาทางออกไม่ได้ ต้องราชประชาสมาสัย เอาผู้นำทั้งเหล่าทัพเอย สภาเอย นายกรัฐมนตรี ทหาร ตำรวจทั้งหมดเข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัวแล้วขอพระราชวินิจฉัย
อ.ธิดา: ดิฉันว่าเลอะเทอะ เหตุที่พูดเลอะเทอะคือเรากำลังพูดเรื่องการเมืองการปกครองมันมีระบอบมันมีระบบมันมีกฏหมายมันมีรัฐธรรมนูญ ที่พูดแบบนี้แปลว่าคุณโยนทุกอย่างทิ้งเหรอ แล้วคุณไปโยนภาระให้พระเจ้าอยู่หัว เป็นการพูดที่ไร้ความรับผิดชอบและเลอะเทอะเป็นอย่างยิ่ง การสร้างคำขึ้นมา คำว่า “ราชประชาสมาสัย” ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องใหม่ทำให้คนต้องหันมาสนใจ แต่ความจริงมันไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเรื่องแบบนี้ก็คล้าย ๆ กันแหละ ขอมาตรา 7 บ้างอะไรบ้าง แล้วอย่าลืมว่าในหลวงท่านได้มีพระราชวินิจฉัยเอาไว้ พูดแล้วเรื่องมาตรา 7 นี่เลอะเทอะนะคะ นั่นหมายถึงว่า นั่นแค่เพียงว่าเอามาเป็นนายกนะ ท่านก็ยังว่าเลอะเทอะและไม่ใช่ประชาธิปไตย นี่ราชประชาสมาสัยแปลว่าจะไปโยนปัญหาอะไรต่าง ๆ ไปให้พระเจ้าอยู่หัว คือไม่รับผิดชอบเลย คุณเปลี่ยนแปลงการปกครอง หมายความว่าประชาชนนั้นต้องรับผิดชอบแล้วทุกอย่างมันจะต้องมีผู้สนองพระบรมราชโองการ เพราะฉะนั้นปัญหานี้เป็นปัญหาที่ประชาชนต้องแบกรับไม่ใช่ไปโยนให้พระเจ้าอยู่หัวแล้วอ้าง “ราชประชาสมาสัย” ถ้าพูดว่าเป็นลูกก็เป็นผู้ที่ไม่รู้จักโต ทุกอย่างต้องโยนให้พ่อเป็นคนตัดสิน คุณโตจนแก่จนป่านนี้แล้วนะคะ พวกคุณต้องรับผิดชอบเอง คุณต้องอยู่กันอย่างมีความสุข มีพ่อก็เป็นมิ่งขวัญ แต่ว่าภาระหน้าที่ต่าง ๆ จะเป็นเศรษฐกิจการเมืองการปกครองอะไรต่าง ๆ ทุกคนต้องทำเอง เพราะฉะนั้นดิฉันบอกได้เลยว่าเลอะเทอะและไม่รับผิดชอบ
ผู้ดำเนินรายการ: อาจารย์ปราโมทย์ก็บอกว่าจะฆ่ากันอยู่แล้ว จะปล่อยให้เกิดสงครามกลางเมืองเลยหรืออาจารย์ ?
อ.ธิดา: ใครจะฆ่า ? ใครจะฆ่าใคร ? ใครมีปืน ? ใครมีอาวุธ ? รอบที่แล้วที่มีคนตายก็เพราะมีคนเอาอาวุธไปยิงคนนะคะ ใช้การทหารแทนที่จะใช้การเมือง รอบนี้...ถ้าพูดก็พูดนะคะ ถ้าหากมันเป็นไปตามครรลองแม้กระทั่งตามรัฐธรรมนูญ 50 นี่แหละ ถ้ามันเป็นไปตามครรลองนี้ประเทศชาติก็เรียบร้อย แต่ถ้าหากว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมองว่าไปทำครรลองนี้แล้วพวกจะแพ้ ถ้าใช้ภาษาชาวบ้านก็พวกกูจะแพ้ประมาณนั้น ก็ไม่ยอมไป ก็พยายามบิดเบือนไถลไป มันก็เสียหายหมด ดิฉันจึงอยากจะบอกว่ามันต้องตรงไปตรงมา นี่ขนาดรัฐธรรมนูญ 50 คนเสื้อแดงและประชาชนฝั่งเรายังยอมรับนะ เพราะแม้เรารู้ว่าประชามติครั้งนี้แย่มาก มีบางคนแบบตุลาการรัฐธรรมนูญมาหลอกบอกว่าให้รับ ๆ ไป ผู้นำพรรคฝ่ายค้านหรือตอนนั้นเป็นรัฐบาลก็บอกให้รับ ๆ ไป ทุกคนบอกรับ ๆ ไป พอตอนจะแก้บอกไม่ได้ ถึงกระนั้นเราก็ยอมรับ ถามว่าครั้งนั้นถ้าคนเสื้อแดงบอกไม่เอา รัฐธรรมนูญ 50 ลงประชามติแล้วพวกคุณโกง พวกคุณเอาทหารมาหลอก คุณมาหลอกลวงเรา เราก็อาจจะทำอย่างนั้นก็ได้ แต่เรายังไม่ทำ เรายอมถอยเพื่อให้บ้านเมืองเดินไปได้ และ ณ บัดนี้กระทั่งรัฐธรรมนูญ 50 พวกคุณยังไม่ทำตามเลย คุณไปเติม “อาจจะ” คุณไปจินตนาการ แบบนี้คุณมองหรือเปล่าว่าคนตัดสินคือคนดูนะ ประชาชนเขาจะคิดอย่างไร นี่คุณลงทุนจนหมดไม่มีอะไรเหลือแล้ว แล้วพอมาตอนท้ายตอนนี้คุณหมดท่าแล้วหรืออย่างไร คุณมาบอกว่าเอาราชประชาสมาสัย คุณไม่รับผิดชอบผลแห่งการกระทำใด ๆ แล้วไปโยนให้พระเจ้าอยู่หัว อย่านึกว่าคนไทยเขาจะหลงเชื่อนะ
ผู้ดำเนินรายการ: อาจารย์..คุยกันมาขนาดนี้แล้วถ้าวันศุกร์นี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินออกมา แล้วไม่ได้เป็นผลดีเลยหรือเป็นผลร้ายต่อพรรคเพื่อไทย นปช.จุดยืนคืออะไรครับ ?
อ.ธิดา: จุดยืนนปช.ที่ผ่านมายังไม่เคยเปลี่ยน ประการแรกเรามองว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีสิทธิรับคำร้องนี้ แล้วตุลาการแห่งศาลรัฐธรรมนูญทำตัวอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ ตุลาการหลายคนไม่ควรจะมาเป็น เหตุผลเพราะว่าตัวเองเป็นคนร่าง (รัฐธรรมนูญ) แล้วตัวเองมีส่วนได้เสีย แล้วมาเป็น พอมาเป็นก็เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะฉะนั้นจุดยืนของเราคืออะไร ? เราเห็นว่าตุลาการรัฐธรรมนูญชุดนี้ทำผิด ทำตัวอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ แทรกแซงอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติและการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ไปยับยั้งรัฐสภา ไม่ได้หมายความว่าคุณไปยับยั้งพรรคเพื่อไทยนะ รัฐสภาเขาทำงานมาตั้งนาน ทั้งวุฒิ ทั้งพรรคฝ่ายค้าน พูดมา 15 วัน 15 คืน จนคนเบื่อไม่มีใครอยากดูอาจจะมาดูช่องนี้มากกว่าก็ได้ คนเบื่อไม่ดูเลย มันเป็นการกระทำของรัฐสภาทั้งหมด รวมทั้งคณะกรรมาธิการด้วย แล้วอยู่ ๆ อีกอำนาจหนึ่งมาบอก คุณหยุด ไปไม่ได้ แล้วก็ไปเอาประธานรัฐสภามาไต่สวน อันนี้ถ้าพูดแล้วมันผิดระบอบประชาธิปไตย จุดยืนของเราก็คือมองว่าศาลรัฐธรรมนูญทำไม่ถูก เรายื่นถอดถอนตามระบบตามรัฐธรรมนูญนี้ เรายื่นถอดถอนไปที่วุฒิสภาแล้วปัจจุบันนี้เรายังล่ารายเซ็นอยู่นะ ยังกองอยู่ เพราะฉะนั้นส่วนที่ยื่นไปก็ยื่น ส่วนที่กำลังล่าลายเซ็นก็ยังล่าอยู่ เพราะฉะนั้นจุดยืนเรา ณ บัดนี้ยังไม่เปลี่ยนเลย ก็คือว่าเรามองว่าตุลาการรัฐธรรมนูญทำไม่ถูก แล้วจะทำไม่ถูกยิ่งขึ้นอีกหรือว่าจะทำให้ดีขึ้น หมายความว่าความไม่ถูกลดลงหรือความไม่ถูกเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นเราก็กำลังมองอยู่
ผู้ดำเนินรายการ: อาจารย์ ถ้าเกิดศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินออกมาว่าที่ทำทั้งหมดล้มล้างการปกครองนำไปสู่การยุบพรรคการเมือง ตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี นปช. จะเคลื่อนอย่างไรครับ ?
อ.ธิดา: เริ่มแรกเราต้องบอกว่าเราไม่เห็นด้วยแน่นอน เพราะเรามองไม่เห็นเลยว่ามันไปล้มล้างตรงไหนนะคะ ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของศาลรัฐธรรมนูญแต่ต้นมาจนกระทั่งถึงผล นี่พูดคำว่า “ถ้า” นะ....... (ผู้ดำเนินรายการพูดแทรก)
ผู้ดำเนินรายการ: หลักการเข้าใจหมดแล้วครับอาจารย์ ไปทางปฏิบัติ
อ.ธิดา: แต่ว่ามันมีอยู่อย่างหนึ่งอาจารย์เคยพูดไว้ ถ้าคุณเป็นนักการเมืองคุณจะไม่ตอบคำถามว่า “ถ้า” และคุณจะไม่ตอบคำถามว่า “สมมุติ” เพราะว่า....(ผู้ดำเนินรายการพูดแทรก)
ผู้ดำเนินรายการ: อีก 3 วันแค่นั้นแหละครับอาจารย์ ไม่ต้องถ้าแล้วครับ
อ.ธิดา: ก็เพราะมันยังไม่เกิด
ผู้ดำเนินรายการ: อาจารย์จะไม่แย้มไต๋หน่อยเหรอครับ ศาลรัฐธรรมนูญอาจจะดูอยู่ก็ได้นะฮะ
อ.ธิดา: (หัวเราะ...) ศาลรัฐธรรมนูญยังดูอยู่เหรอ ก็บอกว่าคุณควรจะทำให้ความผิดนั้นลดลงมากกว่า และคุณควรจะต้องรับผิดชอบการกระทำของคุณ ประวัติศาสตร์มันจะจารึกเอาไว้ว่าทำอย่างไร อย่านึกว่าทำอะไรก็ได้นะ แล้วจะเสียใจว่าตายไปแล้วยังมีคนพูดถึงว่าอย่างไร เอา...พูดอย่างนี้เลย แต่สำหรับเราประชาชนก็คือว่าประการแรกเราต้องปรึกษากัน แต่อย่างหนึ่งจะบอกได้ว่าเราไม่ใช่เป็นฝ่ายกระทำนะ เรายังเป็นฝ่ายถูกกระทำอยู่ เรากำลังดูว่าเขาจะกระทำต่อประเทศชาติต่อประชาชนในระดับขนาดไหนเราต้องประเมินอีกที นอกจากนั้น นี่พูดถึงกระบวนการ เราต้องสำรวจความคิดเห็นของประชาชนส่วนใหญ่ ความคิดเห็นของฝ่ายการเมือง ความคิดเห็นของคนเสื้อแดง แต่การขับเคลื่อนของเรานั้นจะต้องเป็นการขับเคลื่อนที่ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อทำลายประเทศ ต้องมีลักษณะสร้างสรรค์และจะต้องร่วมไปกับประชาชนส่วนใหญ่ สิ่งที่ดิฉันอยากจะเรียกร้องก็คือว่า แน่นอนต่อศาลรัฐธรรมนูญ คุณคิดถึงอนาคตก็แล้วกัน เรียกร้องต่อประชาชนที่ไม่ใช่คนเสื้อแดงด้วยซ้ำว่า นาทีนี้เป็นบทบาทของพวกคุณแล้ว ก็คือพวกคุณนี่แหละคนที่บอกว่าไม่ได้มีสีเสื้ออะไรคุณต้องออกมาแสดงบทบาท คุณจะรอให้คนเสื้อแดงทำแล้วคุณรับผล...คุณค่า เพราะเราบอกว่าเราต้องการประชาธิปไตย เราต้องการความยุติธรรม เราสู้เพื่อสองอย่าง แล้วคนที่ได้จะได้ทั้งหมด มาบัดนี้เราเรียกร้องว่าพวกคุณต้องออกมาด้วย
ผู้ดำเนินรายการ: แต่เขาอาจจะไม่เห็นด้วยกับคนเสื้อแดงก็ได้ฮะ ที่นั่งอยู่เงียบ ๆ เนี่ยอาจารย์
อ.ธิดา: นี่ไง นี่ไง ที่เห็นอยู่เงียบ ๆ อาจารย์ต้องการให้มีการแสดงออก แต่เชื่อนะว่าสิ่งที่ถูกต้องก็คือสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ก็คือ เราต้องการความยุติธรรมและเราต้องการประชาธิปไตย มันชัด ๆ อยู่แล้ว นักวิชาการทั้งหลาย คนที่เขาไม่ใช่คนเสื้อแดงก็ออกมาบอกแล้วว่าศาลรัฐธรรมนูญทำผิด เพราะฉะนั้นสิ่งหนึ่งก็คือเราสัญญาได้ว่าเราไม่ทำลายประเทศนี้ แล้วเราจะมีความระมัดระวังอย่างยิ่ง....(ผู้ดำเนินรายการพูดแทรกตัดบทอีกแล้ว)
ผู้ดำเนินรายการ: อาจารย์จะชุมนุมมั้ยครับวันศุกร์นี้ที่หน้าศาล หลังจากนั้นจะมีการชุมนุมกดดันศาลรัฐธรรมนูญมั้ยฮะ
อ.ธิดา: คือวันศุกร์นี้เราไม่ชุมนุม หลังจากนั้นอีกเรื่องหนึ่ง
ผู้ดำเนินรายการ: ยังไม่ยอมเผยไต๋
อ.ธิดา: ยังไม่ยอมเผยไต๋ เพราะว่าเราต้องการความเป็นเอกภาพในการขับเคลื่อนและต้องการพลังที่ชอบธรรมที่สุด สิ่งที่เราทำนั้นจะต้องชอบธรรมที่สุดแล้วก็จะไม่ใช่เป็นการข่มขู่ใด ๆ เพราะเราต้องการให้คนส่วนใหญ่นั้นไปกับเราทั้งหมด ที่ดูอยู่หน้าจอเนี่ยนะก็ช่วยกัน เพราะว่านี่ไม่ใช่ภาระของคนเสื้อแดงอย่างเดียวแล้ว เพราะว่ามาถึงนาทีนี้หมายความว่าอะไร ? ปรากฏการณ์ของศาลรัฐธรรมนูญอันนี้แสดงออกให้เห็นว่าการเมืองขณะนี้เป็นระบอบอำมาตย์ชัด ๆ เลย
ผู้ดำเนินรายการ: อาจารย์ทีนี้มันสามก๊กยันกันอยู่ฮะ ประเทศไทยจะออกทางไหนฮะ
อ.ธิดา: (หัวเราะ) ไม่สามก๊กหรอก สองก๊กเอง
ผู้ดำเนินรายการ: ให้อีกก๊กนึงแถมให้ฮะ งง ๆ กันอยู่ตรงกลางเนี่ย
อ.ธิดา: สองก๊กเอง
ผู้ดำเนินรายการ: แล้วจะออกกันยังไงฮะอาจารย์ จะไปทางเขาโงลังกั๋งหรือไปทางไหนฮะ
อ.ธิดา: สองก๊กเองคือก๊กหนึ่งตอนนี้รับแล้วว่าเป็นเสียงส่วนน้อยแต่บอกว่าตัวเองเป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรมเป็นพวกเล่าปี่ พวกคุณข้างมากแต่เป็นพวกโจโฉแล้วก็เป็นพวกที่ใช้ไม่ได้ แต่ไม่เป็นไร....... (ผู้ดำเนินรายการรีบพูดแทรก)
ผู้ดำเนินรายการ: นี่พูดแบบโจโฉนี่ครับ
อ.ธิดา: ไม่ใช่ คือเขาพูดเรา เขาพูดว่าอย่างนั้น ก็คุณธีรยุทธเป็นคนพูดน่ะ แล้วรวมกระทั่งรายงานของสถาบันพระปกเกล้าจากการให้สัมภาษณ์บอกเลยว่าพวกหนึ่งเป็นพวกนิยมเสียงข้างมาก อีกพวกหนึ่งเป็นเสียงข้างน้อยผู้มีคุณธรรม เขียนแบบนี้นะสถาบันพระปกเกล้านี่ก็เรียกว่าไม่น่าจะใช้ชื่อนี้เลย แต่เอาเถอะดิฉันเข้าใจ......(ผู้ดำเนินรายการพูดแทรกอีกแล้ว)
ผู้ดำเนินรายการ: อ่ะสองก๊กยันกันอยู่ฮะอาจารย์
อ.ธิดา: สองก๊กแล้วอาจารย์ธิดาจะไปกลัวอะไรเพราะว่าเสียงข้างมากยังไงมันก็ต้องชนะอยู่แล้ว แล้วมันก็เพิ่มขึ้นทุกวัน เพิ่มขึ้นทุกวัน (ย้ำอีกรอบ)
ผู้ดำเนินรายการ: แต่ในสามก๊กมันพังกันหมดทุกก๊กนะครับอาจารย์ ทั้งข้างมากข้างน้อยนะครับ แล้วประเทศไทยไม่พังเหรอครับอาจารย์สู้กันแบบนี้ฮะ
อ.ธิดา: ไม่ใช่ นั่นมันสามก๊ก คืออย่างนี้สามก๊กนั่นน่ะมันเป็นเรื่องในอดีต มันไม่ใช่เรื่องของปัจจุบัน สามก๊กมันเป็นเรื่องของคนในโลกโบราณในยุคที่เป็นยุคโบราณมันไม่ใช่ยุคนี้ ถ้าเราแบ่งระหว่างฝ่ายประชาชนกับฝ่ายที่เป็นชนชั้นนำในสังคมที่ไม่ยอมคืนอำนาจให้กับประชาชน คุณถามว่าฝั่งที่เป็นชนชั้นนำที่ไม่ยอมคืนอำนาจให้กับประชาชนเป็นฝั่งที่ไม่มีอนาคต หมดอนาคตจึงต้องสู้เฮือกสุดท้ายแบบนี้ แต่ฝั่งที่เป็นฝั่งประชาชนเราจะยิ้มเสมอ เราเป็นฝ่ายถูกกระทำแต่เราเป็นฝั่งมีอนาคต...(ผู้ดำเนินรายการพยายามพูดแทรก).....ที่เราต้องเติบโต
ผู้ดำเนินรายการ: อาจารย์ ฝั่งประชาชนเผอิญจริง ๆ มีคนชื่อทักษิณ ชินวัตร ยืนอยู่ตัวเบ่อเริ่มเทิ่มเลย
อ.ธิดา: แล้วมันเป็นยังไงคุณทักษิณ ชินวัตรเนี่ย แสดงว่าฝั่งที่เป็นชนชั้นนำคุณไม่แน่จริง
ผู้ดำเนินรายการ: แน่จริงต้องทำยังไงฮะ
อ.ธิดา: แน่จริงแล้วคุณกลัวทักษิณทำไม ทักษิณคนเดียว พวกคุณเก่ง ๆ ตั้งเยอะแยะ.....(ผู้ดำเนินรายการพูดแทรกอีกแล้ว....)
ผู้ดำเนินรายการ: ฤทธิ์เยอะเหลือเกิน โทรศัพท์สั่งนายกทุกวัน
อ.ธิดา: นี่ ! คุณ... อันนี้เป็นจินตนาการเอง คุณรู้ได้อย่างไรว่าเขาโทรศัพท์สั่งนายกทุกวัน
ผู้ดำเนินรายการ: ต้องไปเช็คสายโทรเข้ามั้งครับอาจารย์
อ.ธิดา: ถ้าเป็นทักษิณนะ เขาไปทำมาหากิน หาเงินมาก ๆ ไม่ดีกว่าเหรอ ธุระอะไรเขาจะต้องมาโทรศัพท์ทุกวัน
ผู้ดำเนินรายการ: อาจารย์เชื่อจริง ๆ เหรอครับว่าเขาไม่เคยโทรสั่งยิ่งลักษณ์เลยเนี่ย
อ.ธิดา: เขาจะสั่งหรือไม่สั่งเป็นเรื่องของเขา แล้วถามว่า.....(ผู้ดำเนินรายการพยายามพูดแทรก)
ผู้ดำเนินรายการ: ไม่ใช่..มันแทรกแซงการบริหารราชการไงฮะ ผลประโยชน์ทับซ้อนอีก คอร์รับชั่นในอดีตอีกอาจารย์
อ.ธิดา: แล้วคุณกลัวอะไร นั่นน่ะคุณก็ไปกล่าวหาเขาทั้งนั้นคุณต้องพิสูจน์ ศาลยังไม่ได้ตัดสินเลยซักคดี (ผู้ดำเนินรายการรีบแทรกทันที) มีคดีเดียว...
ผู้ดำเนินรายการ: คดีที่ดินรัชดา
อ.ธิดา: แล้วคดีที่ดินมันไปมีผลประโยชน์อะไร ?
ผู้ดำเนินรายการ: นี่ฮะมันเลยเข้ามาแทรกกลางระหว่างประชาชน
อ.ธิดา: ไม่ใช่ ๆ ๆ ๆ ๆ....ขอขัดคอก่อน..... ถ้าคุณจะเอาแต่เพียงคดีทักษิณเรื่องที่ดินนะ คดีนี้เนี่ยนะสังคมตัดสินแล้วคุณไปถามประชาชนซิว่าเขาโกงตรงไหน ? แล้วคนที่ตัดสินใจในการที่ให้คุณทักษิณซื้อเนี่ยคุณไปถามธนาคารแห่งประเทศไทย แล้วคุณไปถามกองทุน...... (ผู้ดำเนินรายการพูดแทรก....อาจารย์อันนี้ยกขึ้นมา) ..เดี๋ยวก่อน ๆ ๆ ๆ (ผู้ดำเนินรายการรีบแทรก...ไม่ลงรายละเอียดเดี๋ยวหมดเวลา...เดี๋ยวคุยเรื่องอื่นไม่ได้) ไม่ใช่ ๆ คุณต้องยกเรื่องอื่น คุณอย่ายกเรื่องนี้
ผู้ดำเนินรายการ: อาจารย์ ที่ยกขึ้นมาทั้งหมดเพื่อบอกว่า อาจารย์บอกว่ามีฝ่ายอำนาจเก่ามีฝ่ายประชาชน แต่บังเอิญตรงกลางมีคุณทักษิณอยู่ แล้วคุณทักษิณนี่ตัวปัญหา
อ.ธิดา: ไม่ใช่ปัญหา มันเป็นความน่าสมเพชของฝั่งที่เป็นฝั่งระบอบอำมาตย์ที่กลัวคุณทักษิณ ไม่น่าเลย
ผู้ดำเนินรายการ: แล้วฝั่งคุณทักษิณไม่เป็นอำมาตย์เหรอครับอาจารย์
อ.ธิดา: อ้าว..แล้วแต่คุณจะคิดซิ ถ้าฝั่งไหนเป็นฝั่งที่เป็นฝ่ายประชาชน
ผู้ดำเนินรายการ: ก็จากคุณทักษิณก็มาคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นี่น้องเขย เสร็จมาคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นี่ไม่เป็นอำมาตย์เหรอฮะ
อ.ธิดา: ไม่ใช่ (เสียงเข้ม)
ผู้ดำเนินรายการ: ทั้งบ้านเลยนะฮะอาจารย์
อ.ธิดา: ไม่ใช่ (ย้ำหนักแน่น)
ผู้ดำเนินรายการ: แล้วเป็นอะไรฮะ
อ.ธิดา: หัวหน้าไพร่ (เสียงเข้ม...ยิ้มหวานด้วย)
ผู้ดำเนินรายการ: โอ้โห...หัวหน้าไพร่ไม่ใช่อำมาตย์เหรอฮะ
อ.ธิดา: อ่ะ !....(เสียงดัง) หัวหน้าไพร่ ถ้าไพร่ตั้งเป็นอำมาตย์ก็เป็นระบอบอำมาตย์ทั้งหมดซิ แล้วเราจะไปเป็นประชาธิปไตยทำอะไร ?
ผู้ดำเนินรายการ: ตกลงคุณทักษิณเป็นอะไร ชัด ๆ ฮะ อาจารย์
อ.ธิดา: ......คืออย่างนี้ พวกคุณมันจินตนาการไปเองเพราะพวกคุณอยู่ในโลกของอำมาตย์ แล้วมันน่าขำช่วยบอกด้วย ว่าพวกคุณที่เป็นชนชั้นนำที่ว่าเก่ง ดร. ทั้งหลายทำไมกลัวคุณทักษิณคนเดียว ยิ่งคุณกลัวคุณทักษิณมากนะยิ่งน่าขายหน้า....(ถูกผู้ดำเนินรายการแทรก)
ผู้ดำเนินรายการ: อาจารย์ คนเดียวก็แย่ขนาดนี้ ถ้าคุณทักษิณสองคนนี่คงจะอยู่กันไม่ได้นะฮะ
อ.ธิดา: ไม่จริงอ่ะ ไม่จริงหรอก ที่คุณทักษิณมีอิทธิฤทธิ์ได้อย่างนี้ก็เพราะกลุ่มระบอบอำมาตย์นี่แหละทำให้คุณทักษิณมีอิทธิฤทธิ์อย่างนี้ (ผู้ดำเนินรายการพูดแทรก....ตกลงระบอบอำมาตย์ไปเพิ่มอิทธิฤทธิ์ให้คุณทักษิณเหรอฮะ) ไม่ใช่...สมมุติพรรคประชาธิปัตย์บริหารประเทศ ถ้าคุณบริหารประเทศให้มันเก่งสักหน่อย หรือที่ผ่านมาคุณบริหารประเทศได้ดี ถามว่าคุณทักษิณจะไปอยู่ในใจประชาชนได้มากแค่นี้หรือ ทำไมไม่สำรวจตัวเอง คุณไปบอกว่าคนอื่นเก่ง คนอื่นโกง แล้วตัวเองน่ะเก่งหรือโง่ อย่างนี้มันต้องสำรวจ ความจริงอาจารย์ธิดาอยากให้เก่งพอ ๆ กันนะ เพราะนี่พูดในฐานะประชาชน ใครก็ตามจะมาเป็นรัฐบาลมันต้องเก่ง ทีนี้มันห่างชั้นกันเกินไปเนี่ยมันเบื่อนะ
ผู้ดำเนินรายการ: ตกลงใครสร้างคุณทักษิณขึ้นมาให้มีอิทธิฤทธิ์เยอะขนาดนี้ฮะอาจารย์
อ.ธิดา: ฝั่งอำมาตย์ (เสียงเข้ม...ห้วน ๆ) (ผู้ดำเนินรายการแทรก...อำมาตย์เป็นคนสร้างคุณทักษิณขึ้นมา) ใช่ (อาจารย์ย้ำหนักแน่น)
ผู้ดำเนินรายการ: แล้วทีนี้ถามอาจารย์แบบนักวิเคราะห์หน่อย ถ้าอำมาตย์เกิดฮึดอยากจะสู้กับทักษิณบอกมาถามกับอาจารย์ธิดา อาจารย์จะให้คำปรึกษาอย่างไรฮะ
อ.ธิดา: คือเราจะให้คำปรึกษาในสิ่งที่คุณทำไม่ได้ (ผู้ดำเนินรายการแทรก...คืออะไรฮะอาจารย์) คือคุณเปลี่ยนจุดยืนมาอยู่ที่ประชาชน คุณต้องเห็นคนเป็นคนเท่ากันแค่นี้พอ แล้วที่เหลือคือความสามารถ แต่ความสามารถใด ๆ ก็ตามถ้าหากว่าจุดยืนคุณไม่ถูกต้องความสามารถนั้นมันก็ไม่สามารถเปล่งประกายได้เต็มที่ แต่มันก็ยังแสดงออกถึงความเก่ง เพราะฉะนั้นที่คุณทักษิณเป็นอย่างนี้ คุณอย่าไปโทษคุณทักษิณ คุณต้องโทษตัวคุณเองคือระบอบอำมาตย์ทำให้คุณทักษิณมีอิทธิฤทธิ์ได้ขนาดนี้ เพราะฉะนั้นพวกคุณต้องไปสำรวจตัวเองเหมือนพรรคประชาธิปัตย์ แทนที่จะไปสำรวจตัวเองว่าตัวเองบริหารอย่างไร วัน ๆ เอาแต่ด่าคนเสื้อแดง อยู่ ๆ มาเอาอย่างคนเสื้อแดง แล้วเวลาไปทำนโยบายทางการเมืองหรือทางเศรษฐกิจไปลอกประชานิยม ด่าเขาแล้วยังไปเอาของเขามา แล้วด่านปช.นะแล้วมาเอาอย่างนปช.แล้วมาคาดหัว มาทำทีวี สายล่อฟ้า มีบลูสกาย ลอกหมดเลย ขึ้นเวที สู้ไม่สู้..พี่น้อง..อ่ะ...(หัวเราะ) พูดเป็นอยู่ไม่กี่คำหรอก..(หัวเราะ)... (ผู้ดำเนินรายการแทรก...นี่ลอก นปช.เหรอฮะ) จะพูดก็ได้หมายความว่า....(ผู้ดำเนินการรายรีบแทรก)
ผู้ดำเนินรายการ: ที่นี้พอลอกเสร็จมวลชนมันเพิ่มขึ้นมาไงฮะ ประชาธิปัตย์ก็ปลุกมวลชนสีฟ้าขึ้นมา
อ.ธิดา: รู้ได้อย่างไรว่าเพิ่ม
ผู้ดำเนินรายการ: อย่างน้อยก็ไม่ลดล่ะครับอาจารย์
อ.ธิดา: คืออาจารย์อยากจะบอกนะคะว่าคือมีคนเสื้อแดงหลายคนบอกอาจารย์อย่าไปแนะประชาธิปัตย์ (หัวเราะ) อย่าไปแนะ....ก็ไม่จำเป็นต้องแนะนำ แต่หนึ่งที่เราสรุปได้เราแลกเปลี่ยนกันก็คือที่คุณทักษิณมีอิทธิฤทธิ์ได้อย่างนี้ก็เพราะระบอบอำมาตย์สร้างคุณทักษิณขึ้นมา ความไม่เอาไหนของระบอบอำมาตย์เอง แล้วการที่มองไม่เห็นพูดตรง ๆ ว่าไม่เห็นประชาชนอยู่ในสายตา คุณดูถูกดูหมิ่นประชาชน คุณไม่ให้ค่าคนเป็นคนเท่ากัน คุณไม่มองว่าประเทศมันต้องพัฒนา ประเทศมันต้องไป แล้วประชาชนต้องมีสิทธิเสรีภาพความเสมอภาค คุณให้เสรีภาพระดับหนึ่งแต่ถ้าคุณมองคนไม่เท่าเทียมกัน คุณยังมองพวกเค้าเป็นพวกเสียงข้างมากที่เป็นลูกน้องคุณทักษิณ พูดอย่างนี้มาตลอดจนกระทั่งการเลือกตั้งทุกครั้งประชาชนตัดสินแล้ว ต่างประเทศเดี๋ยวนี้เขารู้หมดแล้วนะ....เขารู้แล้วว่าประชาชนไทยตัดสินใจแล้วว่าจะให้ใครมาเป็นรัฐบาลแน่นอน แล้วรู้แล้วว่าจะไม่เปลี่ยนด้วย นี่คือต่างประเทศยอมรับแล้ว แต่ขณะนี้ระบอบอำมาตย์ยอมรับเหมือนกันว่ามันเป็นเช่นนี้ แต่พยายามจะใช้สารพัดวิธีต่อสู้ซึ่งยิ่งทำให้ต้นทุนยิ่งเสื่อม
ผู้ดำเนินรายการ: อาจารย์ ทีนี้มันจะเดินไปอย่างไรต่อ มันจะเดินไปสู่การรอมชอมแล้วหาทางออกที่ดีให้กับประเทศ หรือว่าในที่สุดต่างฝ่ายต่างไม่ยอมแล้วไปสู่การขัดแย้งปะทะกัน
อ.ธิดา: ง่ายที่สุดเลย.....ง่ายที่สุดเลยแต่ทำไม่ได้....(ผู้ดำเนินรายการแทรก..คืออะไรครับอาจารย์) ก็คือรักประชาชน ให้เกียรติประชาชน มองคนเป็นคนเท่ากัน อย่าไปคิดว่าพวกอีสานเป็นได้แค่เด็กปั๊ม เป็นได้แค่แม่บ้าน พวกนี้เป็นพวกลูกสมุนทักษิณ ทักษิณให้เงินซื้อมา ก็พรรคประชาธิปัตย์ทำเหมือนทุกอย่างก็ไม่ได้ใจประชาชน นี่ยกตัวอย่างนะ เพราะฉะนั้นถ้าคุณเพียงแต่คุณรักประชาชน คุณมองคนเป็นคนเท่ากันนะคะ แล้วคุณต้องยอมรับว่าในสังคมนี้คุณไม่มีทางอย่างอื่นนอกจากคุณต้องใช้มติของมหาชนในการจัดการ และนี่คือระบอบประชาธิปไตย ระบอบประชาธิปไตยไม่ใช่มีนายกปลอม ๆ ไม่ใช่มีประธานรัฐสภาปลอม ๆ ต้องเป็นของจริง แล้วต้องมาจากความเป็นจริง
ผู้ดำเนินรายการ: อาจารย์ ทุกวันนี้ของจริงฮะ นายกเอย ประธานสภาเอย ขุนค้อนกับคุณยิ่งลักษณ์เนี่ย
อ.ธิดา: ก็ขุนค้อนถ้าเก่งจริงนะ ทำไมต้องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาแล้วก็มา....(หยุดคิด) คือความจริงมันต้องอำนาจของประธานรัฐสภานั้นมันอยู่คนละส่วนกัน...... (ผู้ดำเนินรายการพูดแทรก)
ผู้ดำเนินรายการ: ก็ท่านบอกมียุทธศาสตร์ไปพูดจาในที่ประชุมสนุกสนาน
อ.ธิดา: นั่นแหละ ๆ เลอะเทอะกันหมดทั้งหมด ก็คือความเป็นจริงนั้น.... (ผู้ดำเนินรายการรีบแทรกอีกแล้ว)
ผู้ดำเนินรายการ: แล้วนายกทำไมไม่สู้ฮะ
อ.ธิดา: อ้าว !... นายกเขาบอกว่าอยู่ในอำนาจบริหารเขาก็บริหาร คำถามว่าประธานรัฐสภากลายไปเป็น...ต้องไปอยู่ภายใต้ตุลาการรัฐธรรมนูญ ทำให้รัฐสภาทั้งรัฐสภากลายเป็นว่าทำอะไรไม่ได้ (ถูกผู้ดำเนินรายการแทรกอีกแล้ว)
ผู้ดำเนินรายการ: ก็ทำไมพรรคเพื่อไทยไม่สู้ คนเสื้อแดงก็หนุนอยู่ ถอยทำไมฮะอาจารย์
อ.ธิดา: อันนั้นต้องไปถามพรรคเพื่อไทย (ผู้ดำเนินรายการแทรก...อาจารย์ก็หนุนอยู่ฮะ) อย่ามาถาม นปช. (ผู้อำเนินรายการแทรก.....แบบพวกเดียวกันน่ะฮะ) อ๋อ....ไม่ใช่....นี่เราคือประชาชน คนละองค์กรกัน
ผู้ดำเนินรายการ: แล้วโดยส่วนตัวจุดยืนอาจารย์สู้หรือถอยฮะ นปช.เนี่ย
อ.ธิดา: สู้อะไร ?.... คุณต้องถามสู้อะไรไม่ใช่พูดส่งเดช (สอนซะเลย)
ผู้ดำเนินรายการ: สู้กับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ อาจารย์ก็กำลังคุยกันอยู่ว่าสภามีอำนาจ
อ.ธิดา: เราบอกว่าศาลรัฐธรรมนูญทำไม่ถูก อันนี้เราพูดด้วยหลักการเพราะว่าเราเป็นตัวแทนของคนจำนวนมาก ถ้าการนำของเราไม่มีหลักการเราจะนำพาไม่ได้ หลักการของเรา เราถือว่าศาลรัฐธรรมนูญนั้นทำก้าวเกินกว่าที่จะต้องเป็นในระบอบประชาธิปไตยเกินกว่ารัฐธรรมนูญเกินกว่ารัฐสภา มันไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นเรายื่นถอดถอนตามระบบ และเราเตรียมเอาไว้ยังมีจำนวนหนึ่งเพราะเราต้องการประเมินว่าประชาชนคิดอย่างไร? ถ้ายิ่งประชาชนส่งมามากและประชาชนต้องการแสดงตัวมาก เราอาจจะมีสักวันที่เราแสดงตัวให้รู้ว่ามีประชาชนจำนวนมากเขาไม่เห็นด้วยกับศาลรัฐธรรมนูญเขาต้องการถอดถอน เพราะฉะนั้นขณะนี้เราต้องฟังเสียงประชาชน (ผู้ดำเนินรายการ...สรุปครับอาจารย์..สรุป..เวลาหมดครับ)ทั้งหมดอยู่บนหลักการที่ว่าเราต้องมีจุดยืนของเราที่ถูกต้อง และถ้าเราทำไม่ถูกประชาชนและคนเสื้อแดงจะหันหลังให้กับการนำของเรา เพราะฉะนั้นเราจึงต้องระมัดระวังมาก คือ ต้องถูกหลักการ ต้องชอบธรรม และต้องเป็นไปที่ไม่ทำให้ประเทศชาติเสียหายยับเยิน
ผู้ดำเนินรายการ: แล้วทั้งหมดนี้ต้องไปเยี่ยมศาลเขามั้ยฮะ
อ.ธิดา: อ้า...ยังหรอก....ยังหรอกนะคะ คือเราก็เป็นผู้ใหญ่นะ แต่ศาลจะเป็นผู้ใหญ่หรือเปล่าก็ไม่รู้ เราจะดูและส่งเสียงเตือนให้รู้ แต่ด้านหนึ่งที่เราอยากจะบอกท่านผู้ชมด้วยว่า ในความขัดแย้งนี้เราไม่ใช่ด้านหลักของความขัดแย้ง ตัวด้านหลักของความขัดแย้งนั้นเป็นผู้มีอำนาจในการกระทำ และผู้มีอำนาจในการกระทำนั้นคือผู้กำหนดชะตากรรมของประเทศ เพราะฉะนั้นท่านจะให้ประเทศเป็นอย่างไรผู้ที่มีอำนาจและกำหนดชะตากรรมของประเทศต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่เรา
ผู้ดำเนินรายการ: วันนี้ขอบพระคุณอาจารย์มากครับ....