ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 18 กันยายน ถึงกรณีที่ศาลอาญาชี้ว่าการเสียชีวิตของนายพัน คำกอง คนขับรถแท็กซี่ ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 พฤกษภาคม 2553 ระหว่างที่ทหารเข้ากระชับพื้นการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เกิดจากจากกระสุนของเจ้าหน้าที่ทหาร ว่า ตนไม่ขอลงลึกในรายละเอียด ซึ่งเท่าที่ได้ติดตามรายละเอียดข้อเท็จจริงให้เห็นเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ศาลพิจารณาถึงการตรวจอาวุธต้องสงสัย ถึงแม้จะพิสูจน์ไม่ได้ ศาลก็บอกว่าโดยหลักการเมื่อมีการใช้อาวุธแล้วต้องทำความสะอาดหรือปรับปรุงแก้ไข ซึ่งตรงนี้ชัดเจนว่าเป็นคำวินิจฉัย
"หลังจากนี้ขั้นตอนของสำนวนอัยการจะเอาสำนวนชันสูตรพลิกศพที่ศาลสั่งว่าเป็นการตายโดยการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่สำคัญคำสั่งศาลระบุเจ้าหน้าที่รัฐทำตามคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ซึ่งได้บทสรุปแล้วว่าศอฉ.ต้องรับผิดชอบ เมื่ออัยการส่งสำนวนชันสูตรพลิกศพ ซึ่งข้อสรุปว่านายพันตายโดยการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ตำรวจก็ต้องนำสำนวนชันสูตรพลิกศพที่ศาลสั่งส่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ผมสั่งนายธาริต เพ็งดิษฐ อธิบดีดีเอสไอ แล้วว่าไม่ต้องมารายงานให้ผมทราบ ไม่ต้องมารายงานให้ผมรู้ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรให้ทำไปตามนั้น อย่าไปกลั่นแกล้ง และอย่าไปปกป้อง" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า คำสั่งศาลดังกล่าวจะเป็นทิศทางคดี 98 ศพ คลี่คลายเร็วกว่าเดิมหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า แล้วแต่ศาลไต่สวนแต่ละคดีไป แค่ศพเดียวก็ตายแล้ว มันจะเข้าหลักกฎหมายประมวลกฎหมายอาญามาตรา 84 ใช้จ้างวานให้ผู้อื่นกระทำความผิด ถ้าความผิดสำเร็จผู้ใช้รับโทษเหมือนตัวการตามมาตรา 83 ป.อาญา ก็เท่ากับลงมือทำผิด มาตรา 59 กระทำโดยเจตนาถึงไม่ประสงค์ต่อผล แต่เล็งเห็นผลที่จะเกิดขึ้น เช่นการสั่งสลายชุมนุมในเวลากลางคืน ซึ่งหลักสากลเขาไม่ทำกัน มันจะเข้าความผิดองค์หลักหรือมาตรา 288 ส่วนจะสอบสวนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ปชป. ในฐานะ ผอ.ศอฉ. มาเพิ่มเติมหรือไม่นั้น แล้วแต่พนักงานสอบสวน
เมื่อถามว่า เหตุใดจึงไม่ให้นายธาริตรายงานความคืบหน้าของคดี ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่เอา เดี๋ยวหาว่าตนไปแทรกแซงเขา
เมื่อถามว่า มั่นใจได้อย่างไรว่าสามารถเอาผิด ศอฉ. ได้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่มั่นใจว่าเอาผิดใครได้ จะหาว่าชี้นำ แต่พยานหลักฐานไปไม่รอด
เมื่อถามว่า คดีที่เกี่ยวจะสามารถตัดสินได้เร็วขึ้นหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ครับ ก็แค่คดีเดียวก็จับได้แล้ว ไม่ต้องไปรออีกหรอก จับได้แล้ว เอาเฉพาะคดีนี้ก่อน คดีอื่นไปพูดล่วงหน้าไม่ได้เพราะศาลยังไม่มีคำสั่ง เพราะมันไปก้าวล่วงศาล แค่นี้ก็ตายแล้ว ไม่ต้องหลายคดีหรอก ส่วนกรณีที่นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการตรวจสอบความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) นั้น ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย แต่คำสั่งศาลมีผลผูกพันทางกฎหมาย ตนไม่โต้แย้งท่าน
