วันนี้ (1 ก.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางกลุ่ม นปช. และพรรคเพื่อไทยพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์การชุมนุมเมื่อปี 2552-2553 ซึ่งมีการใช้กองกำลังที่มีภาพชายชุดดำ โดยผ่านทาง
แก้วประการที่ 1 คือ น.พ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และ
แก้วประการที่ 2 คือ นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช.
จนนำไปสู่แก้วประการที่ 3 คือ มวลชน รวมเป็นแก้ว 3 ประการตามที่กลุ่ม นปช. ได้เคยประกาศไว้ ทั้งนี้ตนจึงขอถามไปยัง นพ.เหวง และนางธิดาว่าพฤติกรรมการโกหกบิดเบือนนั้นยังเหลือศักดิ์ศรีในฐานะเป็นผู้แทนมวลชนหรือไม่
นพ.บุรณัชย์ ยังกล่าวอีกว่าจากรายงานขององค์กรปกป้องสิทธิมนุษยชน หรือ ฮิวแมนไรต์ วอตช์ ได้ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้มีกลุ่มชายชุดดำปะปนอยู่ในกลุ่มผุ้ชุมนุมและเป็นกลุ่มที่มีการเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ที่ขณะนั้นไม่มีอาวุธ ทำให้ทหารบาดเจ็บกว่า 500 นาย ซึ่งตนและนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้ไปเยี่ยมทหารเหล่านี้ ได้รับคำยืนยันว่าเกิดจากการจู่โจมและซุ่มโจมตี ดังนั้นหากรัฐบาลจงใจใช้พรรคการเมือง และมวลชนบิดเบือนข้อมูลเหล่านี้ หรือมีการสั่งการหน่วยงานของรัฐบาลให้ทำสำนวนในลักษณะเลือกปฏิบัติ ถือเป็นการเข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ซึ่งจะเข้าข่ายนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของอัยการสูงสุดของศาลอาญาระหว่างประเทศได้ ซึ่งตนได้ไปพบกับอัยการสูงสุดเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา จากการที่นาสุนัย จุลพงศธร ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาฯ นำเรื่องเสนอศาลอาญาระหว่างประเทศให้พิจารณา ซึ่งกฎบัตรไอซีซี หากเห็นว่ากระบวนการยุติธรรมมีการละเว้น เพิกเฉย ไม่ทำงาน ก็เป็นไปได้ที่เรื่องนี้จะเขาข่ายการพิจารณาของศาลอาญาระหว่างประเทศได้