ตร. เบิกความคดี 'ฮิโรยูกิ'

ข่าวสด 5 กันยายน 2555 >>>


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 ก.ย. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลนัดไต่สวนคำร้องชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ยื่นคำร้องขอให้ชันสูตรพลิกศพนายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ชาวญี่ปุ่น ช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติ การรายงานข่าวการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชา ธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายวสันต์ ภู่ทอง อายุ 39 ปี และนายทศชัย เมฆงามฟ้า อายุ 44 ปี ผู้ชุมนุมแนวร่วมนปช. ที่ถูกยิงเสียชีวิตหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ถนนดินสอ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
พนักงานอัยการนำ ร.ต.ต.ชาตรี อุตสาหกรรม อายุ 52 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สังกัด บก.สส.บช.น. ประจักษ์พยานเข้าเบิกความสรุปว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้สืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับการชุมนุมของ กลุ่ม นปช. โดยในช่วงเช้าพยานเฝ้าติดตามพฤติกรรมของกลุ่มนักรบพระเจ้าตาก เป็นการ์ดกลุ่มหนึ่งของ นปช. ที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ โดยหัวหน้ากลุ่มนักรบพระเจ้าตากแต่งกายชุดนักรบโบราณ ถือดาบจริง แต่ไม่ได้ใช้อาวุธทำร้ายใคร เพียงแค่ต้องการปลุกเร้าอารมณ์คนในกลุ่มที่ใส่เสื้อสีดำบ้าง สีแดงบ้าง ให้มีจิตใจฮึกเหิม

แฉนาทีปะทะแยกคอกวัว

ร.ต.ต.ชาตรี เบิกความว่า จากนั้นช่วงหัวค่ำไปสืบสวนหาข่าวกลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณสี่แยกคอกวัว เนื่องจากได้รับรายงานว่ามีเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุม ซึ่งบริเวณนั้นไม่มีแสงไฟ พยานจึงเดินต่อไปบริเวณร้านแมคโดนัลด์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีแสงสว่างมองเห็นที่บริเวณอนุสาวรีย์ มีศพตั้งอยู่ 2 ศพ มีธงชาติคลุมศพอยู่ ขณะนั้นได้ยินเสียงอาวุธปืน จากประสบการณ์ทำงานอาชีพตำรวจกว่า 20 ปีเชื่อว่าเสียงปืนดังกล่าวน่าจะมาจากปืนยาว อีกทั้งพยานยังได้ยินเสียงคล้ายระเบิด สังเกตเห็นผู้ชุมนุมใช้ขวดกระทิงแดงบรรจุน้ำมันจุดไฟทำเป็นระเบิดขวดขว้างตอบโต้เจ้าหน้าที่
ประจักษ์พยานเบิกความต่อว่า เมื่อเดินตาม ผู้ชุมนุมเข้าไปบนถนนดินสอ หน้าโรงเรียนสตรี วิทยา เห็นมีผู้ชุมนุมประมาณ 30 คน ไม่ทราบว่ามีนักข่าวปะปนมาด้วยหรือไม่ ส่วนข้างหน้าถนนมีรถบรรทุกของเจ้าหน้าที่จอดขวางถนนเป็นแนวป้องกันอยู่ 2 คัน มีเสียงปืนดังมาด้านหลังแนวป้องกันเป็นระยะ ผ่านไปสักพักหนึ่งพยานเห็นมีผู้ชุมนุมถูกห้ามออกมา 2 คน แต่ไม่ทราบว่าได้รับบาดเจ็บเพราะอะไร พยานไม่ได้เข้าไปดูเพราะต้องระวังตัวเป็นพิเศษ แต่สันนิษฐานว่าน่าจะถูกอาวุธปืนยิง

เห็นฮิโรยูกิถูกยิงล้มต่อหน้า

พยานเบิกความอีกว่า กระทั่งเวลาผ่านไปอีกสักระยะ ขณะที่พยานหลบอยู่หลังต้นไม้ก่อนถึงประตูโรงเรียนสตรีวิทยา เห็นเจ้าหน้าที่หลบอยู่หลังแนวป้องกัน 2 ครั้ง ครั้งละ 1 นาย สวมชุดเจ้าหน้าที่พร้อมปฏิบัติการ ในมือถืออาวุธปืนในลักษณะเฉียงอาวุธ ต่อมาได้ยินเสียงคล้ายของหนักตกลงพื้นห่างจากพยานประมาณ 1 เมตร เมื่อพยานหันไปดูพบว่ามีชายร่างสูงใหญ่หงายล้มลงกับพื้นในมือถือกล้อง โดยกล้องตั้งชี้ฟ้า พยานคิดว่าชายดังกล่าวซึ่งมา ทราบภายหลังคือ นายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ผู้ตายที่ 1 เป็นลม จึงจะเข้าไปปฐมพยาบาล เมื่อเข้าไปประคองศีรษะนายฮิโรยูกิสังเกตเห็นที่หน้าอกมีจุดสีแดงเล็กๆ แล้วขยายวงกว้างขึ้น จากประสบการณ์ทำงาน พยานเชื่อว่าถูกยิงด้วยกระสุนปืนความเร็วสูง จึงตะโกนให้กลุ่มนปช.ที่อยู่ใกล้กันประมาณ 10 คนเข้ามาช่วยนำนายฮิโรยูกิ ไปส่งที่รถพยาบาล
ร.ต.ต.ชาตรี เบิกความว่า พยานได้ยินเสียงแกนนำ นปช. ใช้เครื่องขยายเสียงประกาศขอร้องให้เจ้าหน้าที่หยุดยิง เนื่องจากได้ตกลงกับผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่แล้ว จากนั้นพยานอยู่ในที่ เกิดเหตุอีกประมาณ 20 นาที แต่ก็ยังได้ยินเสียงปืนเป็นระยะแล้วจึงเดินทางกลับ จากการสังเกตผู้ชุมนุมไม่มีอาวุธปืนหรือวัตถุระเบิดที่ใช้ในราชการทหาร มีเพียงใช้ไม้และระเบิดขวดเป็นระยะ

พยานอีกรายร่วมแฉ 10 เม.ย.

ต่อมาเวลา 14.00 น. พนักงานอัยการนำนายอุดร สุวรรณสิงห์ ประจักษ์พยานอีกปากเข้าเบิกความสรุปว่า เดิมประกอบอาชีพไม้ยางพาราแปรรูปส่งออก กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์รัฐประหารเมื่อเดือน ก.ย. 2549 ทำให้ธุรกิจประสบปัญหาขาดทุนจนล้มละลาย จึงมาขับแท็กซี่และเข้าร่วมการชุมนุมตั้งแต่ยังเป็นกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) จนมาเป็น นปช. โดยเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 เวลาประมาณ 12.00 น. ทราบข่าวว่าจะมีกำลังเจ้าหน้าที่เข้ากระชับพื้นที่ชุมนุม จึงร่วมกับเพื่อนแท็กซี่ประมาณ 100 คน จอดรถบริเวณสะพานสมเด็จ พระปิ่นเกล้า เดินเท้าผ่านด่านตรวจอาวุธของเจ้าหน้าที่เข้าไปสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ มีเจ้าหน้าที่ตั้งแนว โดยชั้นแรกเจ้าหน้าที่ถือโล่และกระบอง ชั้นที่ 2 มีอาวุธปืน ส่วนผู้ชุมนุมไม่มีอาวุธ มีเพียงขวดพลาสติกใส่น้ำสำหรับขว้าง และกระทบกระทั่งกันอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
นายอุดรเบิกความว่า จากนั้นพยานมานั่งพักที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ กระทั่งเวลา 17.00 น. มีเฮลิคอปเตอร์บินวนอยู่บริเวณพื้นที่ชุมนุม โปรยสิ่งของบางอย่างลงมาทั่วพื้นที่ชุมนุม เมื่อกระทบพื้นทำให้แสบตา ทราบว่าเป็นแก๊สน้ำตา จึงไปหาน้ำมาล้างไม่ให้ระคายเคือง แล้วเฮลิคอปเตอร์ บินกลับไป จากนั้นมีกำลังเจ้าหน้าที่กระชับพื้นที่สี่แยกคอกวัวและถนนดินสอ พยานและกลุ่มผู้ชุมนุมกระจายกันไปต้านเจ้าหน้าที่ โดยพยานไปอยู่บริเวณหัวถนนดินสอ เห็นรถถังจอดเรียงรายหลายคัน มีกำลังเจ้าหน้าที่ตั้งแถว โดยแถวหน้ามีกระบองกับโล่ แถวหลังมีอาวุธปืนยาว

เห็นผู้ตายทั้ง 3 ถูกยิงชัดเจน

พยานคดีฮิโรยูกิเบิกความต่อว่า ต่อมาได้ยินเสียงปืนแล้วมีระเบิดแก๊สน้ำตาลอยมาจากหลังแถวเจ้าหน้าที่มาตกใส่ผู้ชุมนุม จึงเกิดการปะทะตอบโต้กัน กระทั่งลมเปลี่ยนทิศควันแก๊สน้ำตาลอยไปทางเจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่วิ่งหลบควันกันกระเจิง กลุ่มผู้ชุมนุมจึงพยายามวิ่งตามไล่ไป แต่ยังมีเจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่งตั้งแถวอยู่ 2 ฝั่งทางปลายถนนดินสอ จึงเข้าไปไม่ได้มาก และจากการปะทะกัน มีเจ้าหน้าที่ 2 นายบาดเจ็บ และร้องขอความช่วยเหลือ กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะเข้าไปช่วย ก่อนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นเป็นชุด พยานที่ขณะนั้นหลบอยู่ทาง ม้าลายหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา เห็นชายผู้ชุมนุมคนหนึ่งโบกสีแดงถูกกระสุนยิงเข้าที่หัว จนกะโหลกเปิด มันสมองทั้งก้อนกลิ้งหล่นใกล้พยาน ห่างราว 3 เมตร มา ทราบภายหลังชื่อนายวสันต์ สร้อยทอง ผู้เสียชีวิตในคดีนี้ เห็นประกายไฟจากปากกระบอกออกมาจากทางฝั่งเจ้าหน้าที่ พยานจึงถอยห่างมาหลบหลังต้นไม้ห่างออกไปอีก 6 เมตร
นายอุดรเบิกความอีกว่า ต่อมาเห็นชายคนหนึ่งแบกกล้องถ่ายภาพไปถ่ายภาพ ไม่ทราบว่าถ่ายภาพเจ้าหน้าที่ หรือนายวสันต์ แล้วหันกล้องไปทางแถวเจ้าหน้าที่ พยานเห็นประกายไฟจากปืนเจ้าหน้าที่ที่อยู่ปลายถนนดินสอ และได้ยินเสียงปืน ก่อนเห็นชายที่เป็นนักข่าวถูกยิงหงายหลังล้มลง กล้องตกพื้นอยู่ข้างหน้าพยาน หลังจาก เสียงปืนชุดนี้ พยานเห็นมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ อีก 2 คน และนายทศชัย เมฆงามฟ้า ผู้ตายในคดีนี้ ถูกยิงล้มลงใกล้กับจุดที่เจ้าหน้าที่ 2 นายบาดเจ็บ พยานไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือ แต่มีผู้ชุมนุมอื่นเข้าไปช่วยเหลือ เนื่องจากพยานก็ได้รับบาดเจ็บการการปะทะรอบแรก ถูกเจ้าหน้าที่ใช้พานท้ายปืนกระแทกที่ปากจนฟันหัก และถูกกระแทกซ้ำเข้าที่กกหู ทำให้ปัจจุบันหูข้างขวาพยานได้ยินไม่ชัดเจน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลไต่สวนพยานเสร็จสิ้นแล้วในวันนี้ ศาลนัดไต่สวนพยานครั้งต่อไปวันที่ 5 ต.ค. เวลา 09.00 น.