วันนี้ (15 ก.ย.) ที่อนุสาวรีย์ประชาธิไตย กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ร่วมตัวกันเพื่อจัดงานรำลึก"ครบรอบ 6 ปีรัฐประหาร คนสั่งการยังลอยนวล" โดยมีการจัดเวทีปราศรัยโจมตีทหารที่ออกมารัฐประหาร สลับกับการร้องเพลง ทั้งนี้มีมวลชนกลุ่มคนเสื้อแดงทยอยมาร่วมงานอย่างไม่ขาดสาย ทำให้เวทีคึกคักมากถึงแม้จะมีฝนตกประปราย แต่ก็ไม่ทำให้มวลชนกลุ่มคนคนเสื้อแดงเดินทางกลับแต่อย่างใด พร้อมกันนี้กลุ่มนปช.มีการโต๊ะล่ารายชื่อเพื่อถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรม และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยมีประชาชนให้ความสนใจ มาร่วมลงชื่อกันคึกคัก
ต่อมาเวลา 15.00 น.เริ่มมีการปราศรัยของบรรดาแกนนำ อาทิ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ นางดารณี กฤตบุญญาลัย นายชินวัตร หาบุญพาด นายนิสิต สินธุไพร กระทั่งเวลาประมาณ 17.30 น. นายแพทย์เหวง โตจิราการ จะขึ้นเวทีปราศรัย ตามมาด้วยนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ที่จะมาบอกความคืบหน้าคดีสลายการชุมนุมที่ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ไอซีซี นายวีรกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. พร้อมกับเปิดวีทีอาร์ ลุงนวมทอง ไพรวัณฑ์ คนขับแท๊กซี่ที่ผูกคอตาย ประท้วงการทำรัฐประหาร ขณะที่แกนนำแม่เหล็กคนสำคัญ ทั้งนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จะขึ้นเวทีปราศรัยในช่วงดึก ประมาณ 4 ทุ่ม ถึงเที่ยงคืน แต่ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานว่า จะมีการโฟนอินหรือวิดีโอลิงค์จาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอด 2 ข้างทาง ถนนราชดำเนิน พ่อค้าแม่ค้า มาจับจองพื้นที่ขายสินค้าสัญลักษณ์เกี่ยวกับเสื้อแดงกันตั้งแต่เช้า บางรายบอกว่ามาจองที่กันตั้งแต่เมื่อคืน ภายในงานมีการจำหน่ายหนังสือ ของศูนย์ข้อมูลประชาชนหรือ ศปช.ที่ได้รวบรวมคดีของผู้บาดเจ็บและ เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมมาวางขายในราคาเล่มละ 500 บาท รวมทั้งยังมีหนังสือรวมบทความของประธาน นปช. ร่วมจำหน่ายด้วย
ด้าน พล.ต.ต.วัลลภ ปทุมเมือง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 เปิดเผยภายหลังการประชุม ศูนย์ปฏิบัติการสถานีตำรวจนครบาลอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยกล่าวว่า เบื้องต้นประเมินผู้ข้าร่วมการชุมนุมไว้ที่ 1 หมื่นคน ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมพร้อมจำนวน 1310 นาย โดยแบ่งเป็นกองร้อยควบคุมฝูงชน กองร้อยดูแลด้านการจลาจร กองร้อยจู่โจม และ เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ โดยเจ้าหน้าที่ทั้งหมดจะคอยดูแลในจุดสุ่มเสี่ยงรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย รวมทั้งจุดสูงบริเวณโดยรอบ ส่วนการจลาจรในเบื้องต้นจะยังไม่ปิดการจลาจรโดยจะปล่อยให้เป็นไปตามสภาพ จนกว่าจะพบว่าปริมาณของผู้ชุมนุมเริ่มหนาแน่น จึงจะมีคำสั่งสั่งปิดการจลาจรอีกครั้ง ขณะที่การความคุมเหตุความวุ่นวาย ได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วเตรียมความพร้อมเข้าระงับเหตุด้วย