พ.อ.สรรเสริญ เข้าให้การกับทางดีเอสไอ กรณีการแถลงข่าวของ ศอฉ. ช่วงการชุมนุมทางการเมืองปี 2553 โดยถูกสอบปากคำนานกว่า 10 ชม. ระบุ มาให้การในเรื่องที่เกิดขึ้น รวมทั้งความไม่สบายใจของกองทัพ และขอให้ดีเอสไอระมัดระวังในการให้สัมภาษณ์...
เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2555 พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวหลังสอบปากคำต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอนานกว่า 10 ช.ม. กรณีการแถลงข่าวของ ศอฉ. ว่า ประเด็นแรกได้รับหมายเรียกจากทางดีเอสไอ ตนตั้งใจให้ข้อมูลตามสิ่งที่ตนทราบและที่ผ่านมาทหารปฏิบัติตามกฏหมายและ สิทธิมนุษยชนโดยคำนึงถึงผู้ชุมนุมเสื้อแดงโดยตลอดว่าเป็นประชานที่มีความคิด แตกต่างกันซึ่งรัฐบาลใช้ขั้นตอนจากเบาไปหาหนักตามาตรการสากลจะเห็นว่าก่อน ประกาศ พ.ร.บ.ฉุกเฉิน หากมีเจ้าหน้าที่ทหารออกมาปฏิบัติ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เต็มขีดความสามารถ และไม่บาดเจ็บล้มตายอย่างที่ผ่านมา
โฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่า พวกเราที่เป็นทหารทุกคนมั่นใจว่า ผู้บังคับบัญชาของเราจะปกป้องคุ้มครองทหารที่ปฏิบัติงานตามกฎหมายและคำสั่ง ผู้บังคับบัญชาที่ชอบด้วยกฎหมายอย่างเคร่งครัด แต่ไม่ได้หมายความว่า คุ้มครองผู้กระทำผิดไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ส่วนประเด็นที่สองในการสอบถามข้อเท็จจริงประเด็นต่างๆ ในช่วงระหว่างการรับประทานอาหารกลางวัน พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ บอกว่า ขอให้ตนให้การไปตามข้อเท็จจริงที่มีอยู่ อย่าให้การในทางไปในทางช่วยเหลือผู้หนึ่งผู้ใดเพราะจะทำให้ข้อมูลทั้งหลาย สะสม ตนก็รับปากเพราะเป็นความตั้งใจเดิมอยู่แล้ว เพราะต้องการอธิบายเรื่องราวต่างๆให้เป็นไปตามข้อเท็จจริง
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่าในขณะเดียวกันก็เล่าความไม่สบายใจของกองทัพให้ประเวศน์ฟังว่า ในส่วนของกองทัพตั้งแต่ผู้บังคับบัญชาจนถึงเจ้าหน้าที่ทหารคนสุดท้ายก็อยาก ให้พนักงานสอบสวน ให้ตั้งตนให้มั่นคงในการสืบสวนสอบสวนที่มองได้โดยบุคคลทั่วไปว่า เป็นกลางและ สร้างความสบายใจให้กับทุกฝ่าย รวมถึงการชี้แจงกรณีที่ดีเอสไอให้สัมภาษณ์ทั้งๆ ที่เรื่องยังไม่ยุติว่าให้ระมัดระวังการให้สัมภาษณ์ เพราะบางส่วนแล้วกลัวข้อมูลออกไป เป็นการชี้นำสังคมทั้งที่เรื่องบางเรื่อง ยังไม่ได้ข้อยุติจะทำให้ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน คือกองทัพ ไม่ว่า ทบ. ทร.ทอ. หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานในขณะนั้น ดูเหมือนเป็นจำเลยของสังคม ทาง พ.ต.อ.ประเวศ บอกผมว่า ไปตรวจสอบดูว่าไม่เคยให้สัมภาษณ์ หากหลุดออกมาไม่รู้ว่าเป็นส่วนไหน ตนได้เรียนเพิ่มเติมประเวศว่า ในประเด็นสุดท้ายว่าจากนี้ไปต่างฝ่ายต่างระมัดระวังไม่ให้ข่าวที่อยู่ ระหว่างตรวจสอบออกมา ตนให้การเป็นเอกสาร 16 แผ่นจึงใช้หัวแม่โป้งประทับแทนลายเซ็น พร้อมยกหัวแม่โป้งแสดงก่อนเดินทางกลับ